Facebook เป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งถึงแม้ว่าระบบการแสดงโพสและเพจของ Facebook จะเปลี่ยนไปเยอะมากจนธุรกิจธรรมดาไม่สามารถเข้าถึงผู้ติดตามด้วยวิธีธรรมดาแบบ organic ได้แล้ว แต่การทำโฆษณาผ่าน Facebook Ads ก็ยังเป็นสิ่งที่สร้างรายได้และกำไรให้กับธุรกิจได้อยู่
ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าโฆษณา Facebook คืออะไร มีกี่ประเภท และตัวอย่างของ Facebook Ads มีอะไรบ้าง
Facebook Ads คืออะไร
Facebook Ads หรือ การซื้อโฆษณา Facebook คือระบบโฆษณาของเว็บไซต์ Facebook และ Instagram ที่ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานแพลตฟอร์มได้มากขึ้นผ่านค่าใช้จ่ายโฆษณา โฆษณา Facebook มีจุดเด่นอยู่ที่ระบบการเลือกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งทำให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มในการซื้อมากขึ้น
เราต้องเข้าใจก่อนว่าในประเทศไทยมีประชากร 70 ล้านคน และมีผู้ใช้งานคนไทยใน Facebook มากถึง 50 ล้านบัญชี… หมายความว่าเราสามารถสื่อสารกับคนเกือบทั่วประเทศได้ผ่านระบบโฆษณาเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ระบบการคัดกรองกลุ่มเป้าหมายของ Facebook ก็ทำให้เราสามารถเลือกวิธีและข้อความการสื่อสารให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้ เช่นลูกค้าผู้ชายที่ชอบกีฬาก็อาจจะเห็นโฆษณาแบบหนึ่ง และลูกค้าผู้หญิงที่ชอบแมวก็อาจจะเห็นโฆษณาอีกแบบ
ซึ่งระบบโฆษณาแบบนี้ถือว่ามีประโยชน์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราเทียบกับการทำโฆษณาแบบสมัยก่อน อย่างการซื้อโฆษณาทีวีหรือโฆษณาวิทยุ ที่เราต้องทำโฆษณามาหนึ่งอย่าง เพื่อลูกค้าทุกคน
โดยเบื้องต้นแล้ว เป้าหมายของ Facebook Ads นั้นทำได้สามอย่าง
#1 โปรโมทโพส Promote Post – หมายถึงการซื้อโฆษณา ให้คนสามารถเห็นโพสต์บน Facebook ได้มากขึ้น ซึ่งก็มักจะเป็นโพสต์โฆษณาขายของต่างๆ
#2 โปรโมทเพจ Promote Page – หมายถึงการซื้อโฆษณาให้คนมากด like เพจ เพื่อให้มีผู้ติดตามมากขึ้น เป็นวิธีโฆษณาที่นักการตลาดสมัยใหม่ไม่แนะนำแล้ว เพราะผู้ติดตามเพจนั้นถูกลดการเข้าถึงทำให้ไม่คุ้มค่าในการสร้างเพจที่มีผู้ติดตามเยอะ
#3 คลิกเข้าเว็บไซต์ Website Click – หมายถึงการซื้อโฆษณาให้คนคลิกโฆษณาเข้ามาในหน้าเว็บไซต์ เป็นวิธีโฆษณาที่ต่างประเทศนิยมใช้กัน แต่ในประเทศไทยธุรกิจส่วนมากยังไม่ค่อยใช้เว็บไซต์เป็นสื่อกลางของการตลาดออนไลน์
ซึ่งเราก็สามารถเลือกได้ว่าจะโปรโมทเพื่อให้คนเห็นโฆษณา คลิกเข้าโฆษณา ทักเข้ามา หรือให้เกิดการซื้อขายได้ เพราะทาง Facebook สามารถวัดผลของเป้าหมายเหล่านี้ได้โดยตรง
และในส่วนหลังของบทความ ผมจะอธิบายเพิ่มอีกทีว่า Facebook Ads ในรูปแบบต่างๆนั้นมีอะไรบ้างนั้นทำงานอย่างไร และมีฟิเจอร์พื้นฐานอะไรบ้าง
การยิง Ads คืออะไร
การยิงแอด หมายถึงการสร้างสื่อโฆษณาออนไลน์บน Facebook และการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม เพื่อทำให้โฆษณานั้นเกิดการซื้อขาย (Conversion) ในค่าใช้จ่ายที่ถูกที่สุด การยิง Ads รวมถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วไปอย่าง Demographics Interests หรือ Behaviors และกลุ่มเป้าหมายที่ธุรกิจเก็บข้อมูลเองแบบ Custom Audiences
ในส่วนนี้หากใครสนใจอ่านเรื่องการทำโฆษณา Facebook อย่างละเอียด ผมแนะนำให้อ่านบทความนี้นะครับ คู่มือทำโฆษณา Facebook เพราะในบทความนี้จะไม่ได้พูดถึงคำศัพท์เทคนิคอย่าง Custom Audiences หรือ Lookalike Audiences ไว้
คำว่า ‘ยิงแอด’ อาจจะเป็นภาษาที่ใช้พูดทั่วไป แต่ในยุคปัจจุบันคนส่วนมากก็ใช้คำนี้อย่างแพร่หลาย โดยนักการตลาดหลายคนมักชอบเปรียบคำว่า ‘ยิงแอด’ กับคำว่า ‘แทงหวย’ เพราะทั้งสองอย่างมีโอกาสในการขาดทุนสูงเหมือนกัน 555
อย่างไรก็ตาม หากเรา ‘ยิงแอด’ หรือทำโฆษณา Facebook อย่างถูกวิธีนั้น เราก็สามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน โดยข้อแนะนพื้นฐานของผมก็คือ เราต้องใจเย็นไม่รีบร้อนในการซื้อโฆษณา และ เราต้องเตรียมงบไว้ประมาณหลักหมื่นบาทเพื่อทดสอบกระบวนการหากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งบางธุรกิจใช้เงินหลักหมื่นบาทและเวลาหลายเดือนเลยกว่าจะสร้างกำไรจากโฆษณา Facebook Ads ได้
Facebook Ads ทำงานอย่างไร?
Facebook Ads ทำงานผ่านระบบการประมูลพื้นที่การมองเห็น โดยแบ่งแยกพื้นที่จากที่อยู่ ข้อมูลประชากร และ พฤติกรรมผู้ใช้งาน โฆษณาบน Facebook สามารถเลือกได้ว่าอยากให้โฆษณาแสดงให้ใครเห็นบ้าง โฆษณาที่เสนอราคาประมูลเยอะกว่า และ ทำโฆษณาได้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายมากกว่า ก็จะเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่า
หลายคนคงรู้แล้วว่า Facebook นั้นสามารถแยกผู้ใช้งานออกมาเป็นประเภทต่างๆได้ เช่น อายุ เพศ ภาษา การศึกษา ที่อยู่ หรือแม้แต่ความชอบต่างๆ ซึ่งการแยกผู้ใช้งานแบบนี้ก็ทำให้เราสามารถสร้างโฆษณาให้เหมาะกับผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่มได้ดี ทำให้เราไม่ต้องเจอปัญหาเช่น ‘การขายหวีให้กับคนหัวล้าน’
ปัญหาของ Facebook ตอนนี้ก็คือถึงแม้จะมีผู้ใช้งานเยอะ แต่ก็มีเพจและคนทำโฆษณาเยอะมากเช่นกัน นั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ Facebook ต้องทำระบบการแสดงโฆษณาออกมาให้ซับซ้อน เพื่อรับรองว่าโฆษณาที่ถูกสร้างออกมาจะถูกแสดงให้คนที่สนใจดูจริงๆ ไม่อย่างนั้นคนทำโฆษณาก็จะขายไม่ได้ และ ผู้ใช้ Facebook ก็จะไม่พึงพอใจ
โดยปัจจัยที่ Facebook ใช้เพื่อวัดผลการทำงานของโฆษณาได้แก่
คุณภาพของโฆษณา – โฆษณาใน Facebook จะถูกวัดผ่านค่า Engagement ต่างๆ เช่น ไลค์ แชร์ คอมเม้นต์ และ ระยะเวลาดูวิดีโอ โดยรวมแล้วโฆษณาที่แสดงถูกกลุ่มเป้าหมายจะมีค่า Engagement สูงกว่า แต่ปัจจัยนี้ก็รวมถึงเรื่องการตลาดพื้นฐานอย่างการตั้งราคา การจัดโปรโมชั่น และการเขียนข้อความเชิญชวนด้วย
งบ Bidding – ในกรณีที่โฆษณามีคุณภาพเท่ากันและถูกแสดงให้กับกลุ่ทเป้าหมายเหมือนกัน โฆษณาที่มีงบการตลาดและค่า Bidding (การประมูล) เยอะกว่าก็จะได้รับลำดับความสำคัญมากกว่า การปรับงบ Bidding ให้ดีจะทำให้เราสามารถประหยัดงบการตลาดได้เยอะมาก
Facebook Ads มีกี่ประเภท
โฆษณาของ Facebook Ads นั้นมีหลายรูปแบบ หลายพื้นที่แสดงโฆษณามาก แต่โดยรวมแล้วเราสามารถแบ่งแยก Facebook Ads ออกมาได้ดังนี้
โฆษณาวิดีโอ – เป็นรูปแบบโฆษณาที่ Facebook ให้การสนับสนุนมากที่สุด เหมาะสำหรับการสื่อสารข้อความที่ต้องใช้การอธิบายเยอะ หรือต้องแสดงสินค้าให้ได้ในหลายมุมมอง
โฆษณาภาพ – เป็นโฆษณาแบบพื้นฐานของ .Facebook เหมาะสำหรับการแสดงสินค้าแบบง่ายๆ ไม่ต้องอธิบายเยอะ แต่ก็สามารถแสดงข้อดีและจุดขายพื้นฐานอย่างรูปผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ได้ เช่นสินค้าจำพวกเสื้อผ้า หรือสินค้าความสวยความงาม
โฆษณา Carousel – เป็นโฆษณารูปภาพที่ถูกทำมาให้เหมาะสำหรับโทรศัพท์มือถือ โดยจุดขายหลักก็คือสามารถแสดงภาพได้หลายรูปแบบ สามารถแสดงรูปภาพผลิตภัณฑ์ หรือข้อดีและจุดขายได้หลายอย่าง เช่นทำโฆษณาเพื่อขายสินค้าหลายอย่าง หรือทำโฆษณาเพื่อขายสินค้าในหลายมุมมอง
โฆษณา Canvas – เป็นรูปแบบโฆษณาที่ถ้าคนกดเข้ามาในโฆษณาแล้วจะเห็น ‘หน้าโฆษณา’ แบบพิเศษเต็มหน้าจอมือถือ ซึ่งโฆษณาแบบนี้จะให้อิสระคนทำโฆษณามากกว่า เช่นสามารถแสดงรูปภาพสินค้าก็ได้ หรือแสดงวีดีโอตัวอย่างสินค้าก็ได้ เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องโน้มน้าวลูกค้าเยอะ
ในเบื้องต้นแล้วประเภทของโฆษณาใน Facebook ก็จะมีอยู่แค่นี้ อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่สนใจศึกษาเรื่องการทำโฆษณาบน Facebook เพิ่มเติม ผมก็แนะนำให้อ่านข้อแนะนำในบทความส่วนต่อไปด้วย
ปัจจัยอื่นๆที่ต้องพิจารณาในการทำโฆษณา Facebook
มือถือและคอมพิวเตอร์ – ถึงแม้ว่าโฆษณาส่วนมากจะถูกดูผ่าน Facebook บนมือถือ แต่ผู้ทำโฆษณาส่วนมากก็ยังสร้างโฆษณาบนคอมพิวเตอร์อยู่ดี (ผ่านโปรแกรมออกแบบภาพต่างๆ) ในกรณีนี้เราต้องเลือกอย่างชัดเจนว่าเราอยากจะออกแบบโฆษณามาเพื่อให้ผู้ใช้ดูบนมือถือหรือคอมพิวเตอร์ และเราต้องทดสอบก่อนว่าโฆษณาที่เราออกแบบมานั้นดูง่ายบนอุปกรณ์ที่เราอยากได้หรือเปล่า เช่นภาพหรือตัวอักษรไม่เล็กเกินไป
วีดีโอและการเชื่อมต่อ WiFi – เนื่องจากว่าโฆษณายุคหลังๆมาจะเป็นวีดีโอส่วนมาก ข้อแนะนำอย่างหนึ่งก็คือให้เลือกแสดงโฆษณาให้เข้ากับผู้ใช้งานมือถือที่เชื่อมต่อ WiFi เท่านั้น เพราะค่ายมือถือบางพื้นที่อาจจะมีอินเทอร์เน็ตไม่แรงมาก ทำให้ผู้ดูวีดีโอผ่านมือถือโหลดได้ช้า ซึ่งก็ทำให้ผลประกอบการของโฆษณาแย่ลง
เป้าหมายของการทำโฆษณา – โดยรวมแล้วเป้าหมายหลักของการทำโฆษณาบน Facebook ควรจะเป็นการโน้มน้าวให้ลูกค้าซื้อทันที แต่ในกรณีที่สินค้ามีราคาแพงหรือว่าต้องใช้เวลาในการโน้มน้าวลูกค้ายาวหน่อย เราก็อาจจะต้องตั้งเป้าหมายโฆษณาเป็นให้ลูกค้าทักเข้ามาหรือให้ข้อมูลติดต่อแทน
สุดท้ายนี้เกี่ยวกับ Facebook Ads
อย่างที่เห็นนะครับ โฆษณา Facebook ไม่ได้ยากอย่างที่ทุกคนคิด และ ผมก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นคู่มือที่ดีให้ทุกคนเริ่มต้นทำความเข้าใจได้ และสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นการทำโฆษณา Facebook อย่างจริงจัง ผมมีคู่มือการทำโฆษณา Facebook แบบสอนฟรีให้ลองทำดู คู่มือทำโฆษณา Facebook