สำหรับหลายๆคนการตลาดคือสิ่งง่ายๆอย่างการเอาเงินไปซื้อโฆษณา Facebook สำหรับอีกหลายๆคนการตลาดคือสิ่งที่ยาก ต้องไปเรียนมหาลัย ต่อปริญญาโท หรือต้องมีประสบการณ์ทำงานหลายปี
ในบทความนี้ผมอยากจะมาแนะนำเทคนิคและวิธีทำการตลาด ที่คุณสามารถเริ่มต้นได้เลยวันนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นฟรีแลนซ์ เป็นเจ้าของธุรกิจ SME หรือเป็นนักการตลาดมือใหม่ที่เริ่มต้นการทำงาน
การตลาดที่เราเริ่มได้เลยวันนี้ (มือใหม่ก็ทำได้)
#1 ถ้าไม่มีทุน ทำการตลาดได้ไหม
คำตอบสั้นๆก็คือทำได้ แต่ถ้าเราไม่มีทุน เราก็อาจจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เยอะ หรือก็ต้องออกไปหาโอกาสใหม่ๆที่คนอื่นยังไม่ทำกัน ในเชิงธุรกิจเค้าจะเรียกว่า arbitrage หรือการหาช่องว่างของตลาด
เวลาที่คุณเริ่มหาช่องทางการตลาด อยากจะให้พิจารณาอยู่ 2 สิ่งครับ 1) ใช้ต้นทุนเยอะแค่ไหน และ 2) สร้างผลลัพธ์ได้เร็วขนาด
ช่องทางที่คนพูดถึงกันเยอะ ส่วนมากจะเป็นช่องทางที่มีการแข่งขันสูงครับ ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือ โฆษณา Facebook หรือการไปจ้าง Influencer เจ้าดังที่มีคนรู้จักอยู่แล้ว ถ้ามีเงินก็แก้ปัญหาได้ง่าย แต่ถ้าไม่มีทุนการตลาด…เราก็จะมีทางเลือกอยู่อีกนิดหน่อย
ก็คือการหาช่องทางที่ใช้เวลาสร้างนาน เช่น การสร้างเพจตัวเอง ทำคอนเทนต์ให้คนมาติดตามในระยะยาว … และ อีกวิธีก็คือการหาช่องว่างของตลาด ที่เราสามารถเข้าไปหาลูกค้าได้ทันที
เรื่องของการสร้างเพจทำ Content ผมพูดไปเยอะแล้วในบทความอื่นๆ แต่เรื่องของการหาช่องว่างตลาด ผมคิดว่าเป็นอะไรที่สามารถตอบโจทย์ได้หลายคน ปัญหาหลักก็คือมันหาได้ยากครับ ไม่ใช่สิ่งที่สอนกันง่ายๆ
มีธุรกิจหนึ่งที่ผมรู้จักนะครับ เปิดร้านใหม่ที่ต่างจังหวัด ไม่ได้มีเงินซื้อป้ายโฆษณา ทำการตลาดออนไลน์ก็ไม่เป็น สิ่งที่เขาทำก็คือไปคุยกับพวกรถสองแถวแถวหน้าร้าน แล้วก็ให้เขาเอาโปสเตอร์โฆษณาไปแปะไว้ที่รถ เหมือนจะใช้ค่าจ้างประมาณหลักไม่ถึงหมื่นบาทนะครับ แต่ก็สามารถเริ่มหาลูกค้าได้แล้ว
ในมุมมองนี้ เอาโปสเตอร์โฆษณาแปะรถสองแถว คือช่องทางการตลาดที่สามารถหาลูกค้าให้เขาได้ และเป็นช่องทางการตลาดที่ต้นทุนไม่เยอะ เหมาะสำหรับธุรกิจใหม่ แต่จะไม่ใช่ทุกธุรกิจที่สามารถใช้ช่องทางนี้ได้
เช่นเดียวกันครับ เราสามารถไปจ้าง influencer เจ้าเล็กๆ ให้ช่วยโปรโมทสินค้าเราก็ได้ ถ้าเขามีแฟนคลับเยอะระดับนึง เราก็สามารถเริ่มขายของได้แล้ว
ผมเข้าใจว่ามันทำตามได้ยากนะครับ เพราะโอกาสของธุรกิจแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน มันก็เลยกลายเป็นเรื่องของการวัดกันที่ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการทดลองอะไรใหม่ๆ ในงบน้อยๆ
สำหรับหัวข้อในสิ่งที่อยากจะให้ทุกคนมองหากันก็คือ 1) กิจกรรมอะไรก็ได้ที่ทำให้เราเข้าถึงคนได้เยอะ จะไปโพสที่ไหนก็ได้ จะไปออกรายการไหนก็ได้ และ 2) เราจะทำยังไงให้เราสามารถหากิจกรรมเหล่านี้ได้เยอะที่สุด
#2 การตลาด ต้องทำออนไลน์อย่างเดียวไหม
เช่นเดียวกันครับ คำตอบก็คือไม่
หลายธุรกิจที่ผมรู้จัก ไม่จำเป็นต้องทำการตลาดออนไลน์แต่ก็สามารถหาลูกค้าได้ ถ้าถามว่าทำการตลาดออนไลน์แล้วจะกำไรเพิ่มขึ้นหรือเปล่าผมก็คิดว่าน่าจะช่วยนะ
ทุกวันนี้การเข้าหาลูกค้าในโลกออฟไลน์ก็มีอยู่หลายวิธีนะครับ เพียงแต่ถ้าเราเป็นคนตัวเล็กๆแล้วก็ทำแบบออฟไลน์บางทีมันก็เหนื่อยมาก
ตอนนี้ผมเริ่มศึกษาการตลาดใหม่ๆ ผมก็ทำเครื่องมือออนไลน์ไม่ค่อยเป็น และหลายๆสิ่งที่ผมเริ่มทดลองแล้วก็คือเป็นสายออฟไลน์ด้วยซ้ำ
ยกตัวอย่างเช่น ผมอยากจะเข้าหาลูกค้ากลุ่มธุรกิจ แต่ว่าตอนนั้นไม่มีเงินเยอะ สิ่งที่ทำก็คือผมไปเปิดพวก yellowpages หรือพวกคลังข้อมูลธุรกิจอะไรพวกนี้ และผมก็ใช้เวลาประมาณ 3 วันนะครับ เอาข้อมูลธุรกิจที่ผมคิดว่าอยู่ในหมวดที่ผมสนใจ มากรอกลงไป sheet ใน Excel ประมาณ 2-300 เจ้า หลังจากนั้นผมก็ส่ง เอกสารไปรษณีย์แนะนำสินค้าไปให้บริษัทพวกนั้น
จริงๆแล้ว จำนวนคนที่ตอบรับ หรือจะเรียกว่า Conversion Rate คือแย่มากๆ ส่งไปทั้งหมดหลายร้อย ผมจำได้ว่าตอบรับมาแค่ 3-4 เจ้า ซื้อจริงๆเจ้าเดียว
อีกหนึ่งตัวอย่างก็คือพวกงานแฟร์ต่างๆ ก่อนที่จะมียุคโควิดนะครับ งานแฟร์หรือเทรนด์โชว์ คืออะไรที่เราสามารถเข้าถึงคนได้เยอะ แต่มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายแบบการเปิดบูธ แถมก็ต้องมีคนไปอยู่หน้าบูทตลอด 1 อาทิตย์เป็นต้น
ผมก็ใช้วิธีไปเดินแทนครับ ไปในฐานะคนสังเกตการณ์ แล้วก็คอยสังเกตว่าพวกบริษัทต่างๆที่มาออกบูธน่ะ มีใครสามารถเป็นลูกค้าเราได้บ้าง ขอนามบัตรเข้ามาแล้วเราเขาติดต่อกลับภายหลัง
ในหัวข้อนี้ผมคิดว่าการตลาดออฟไลน์เป็นอะไรที่เราสามารถทำได้อยู่นะครับ เพราะสุดท้ายแล้วอย่าลืมว่าหากเทียบกับการใช้จ่ายกันจริงๆทุกวันนี้ การซื้อขายออนไลน์แนะนำควรแช่ประมาณ 3-5 เปอร์เซ็นต์ของการใช้จ่ายทั้งหมด คนส่วนมากก็ยังอยู่ในโลกออฟไลน์กันเยอะ
แต่ข้อแม้ก็คือ เราต้องรู้จริงๆว่าลูกค้าเราคือใคร และไปอยู่ที่ไหน ถ้าเราตอบโจทย์นี้ได้ มันมีโอกาสในการทำการตลาดเริ่มต้นทุนน้อยแล้วก็ไม่ต้องไปแข่งขันกับใครเยอะด้วย
#3 การหาลูกค้าคนแรกของเรา
ข้อนี้มีความหมายกับผมมากเป็นพิเศษ เพราะผมเป็นคนชอบลองวิธีใหม่ๆ หาช่องทางใหม่ๆ แล้วเวลาเราลองช่องทางใหม่ๆแล้วเราเจอลูกค้ากลุ่มใหม่เนี่ย มันเป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกสนุกมาก
ลูกค้าคนแรกมักจะมาแบบงงๆเสมอครับ โดยเฉพาะยิ่งเวลาที่เราเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ บางทีเราอยากจะมีช่องทางเป็น Facebook แต่เราเกินไปโพสขายที่ webboard อะไรก็ไม่รู้ แล้วก็ได้ลูกค้ามาหนึ่งคน
ลูกค้าคนแรกอาจจะไม่ใช่ประเภทลูกค้าคนที่คุณอยากจะได้เสมอไป เช่น ต่อราคาเยอะ พูดไม่รู้เรื่อง หรือ ใช้สินค้าคุณไม่เป็น ในส่วนนี้ก็พยายามขายไปเท่าที่คุณเห็นสมควร
พอเป็นเรื่องการหาลูกค้าและการเริ่มต้นทำธุรกิจ…มันยากที่จะมีกลยุทธ์แบบเหมารวมนะครับ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญก็คือการสังเกตและก็การทดลองอะไรใหม่ๆ
เพราะฉะนั้น ลูกค้าคนแรก ที่รักในสินค้าคุณ เป็นคนที่ควรต้องจับตามองเป็นพิเศษ ถ้าคุณสามารถหาลูกค้ากลุ่มนี้ได้ อย่างน้อย 3 ถึง 5 คน ให้ลองวิเคราะห์ลูกค้าออกมาตามเครื่องมือการตลาดแบบนี้เลยครับ
4P – Place (ซื้อหรือรับสื่อจากช่องทางไหน) Price (ซื้อของราคาเท่าไร มีปัญหากับสินค้าเราไหม สามารถจ่ายเพิ่มได้หรือปล่าว) Product (มีปัญหาอะไรในชีวิตและซื้อสินค้าอะไรมาแก้ไข) และ Promotion (ลูกค้าตอบสนองกับวิธีการขายแบบไหนมากเป็นพิเศษ เช่นโปรโมชั่น ติดตาม Influencer คนไหน ชอบโฆษณาแบบวีดีโอหรือแบบภาพ) (ลองอ่านบทที่บทความนี้ การตลาด 4P ทำยังไง)
ผมขอเน้นนะครับว่าให้พยายามวาดภาพลูกค้าออกมาให้ได้ เพราะข้อมูลส่วนนี้จะเป็นวิธีที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้
สิ่งที่อยากจะให้ทุกคนเข้าใจนะครับ บางครั้งกลยุทธ์ที่ทำให้เราเริ่มต้นได้อาจจะไม่ใช่กลยุทธ์ที่ทำให้เราตัวได้อย่างยั่งยืนหรือว่าไปไกล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ต้องปรับไปเรื่อยๆตามสถานการณ์แล้วก็สภาพธุรกิจของเรานะครับ
ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจขนาดเล็ก จะให้ไปใช้งบการตลาดระดับเดียวกันกับธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์…ก็ทำไม่ได้ใช่ไหมครับ
แต่ธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ บางทีก็ไม่สามารถใช้กลยุทธ์บางอย่างที่ธุรกิจขนาดเล็กใช้ได้ ธุรกิจแต่ละประเภทจะมีข้อได้เปรียบเหมือนกันเราต้องหาข้อได้เปรียบของตัวเองให้ได้
ซึ่งของพวกนี้ก็มาจากการทดสอบ ลองถูกลองผิด ลองทำอะไรหลายๆอย่างครับ