5 ขั้นตอนการทำ Social Media สำหรับธุรกิจ | Social Media Marketing

5 ขั้นตอนการทำ Social Media สำหรับธุรกิจ | Social Media Marketing

ในบทความนี้ ผมจะมาสอนทุกคนทำการตลาดผ่าน Social Media แบบตามขั้นตอน แนะนำให้อ่านให้จบนะครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งโบนัสแถมตอนสุดท้าย ซึ่งเป็น mindset ที่สำคัญมากที่อยากจะให้ทุกคนเข้าใจก่อนจะทำ Social Media เพราะผมคิดว่าเป็นตัวชี้วัดหลักสำหรับคนที่อยากจะประสบความสำเร็จในด้านการตลาดออนไลน์ 

ไม่ว่าคุณจะเป็น Social Media Manager หรือจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่อยากทำ Social Media ของตัวเอง วิดีโอนี้จะเป็นคู่มือว่าเราควรจะมองและทำอย่างไรบ้างกับ Social Media ในมุมมองธุรกิจและการตลาด

วิธีทำการตลาดบน Social Media

Social Media Marketing คือการตลาดออนไลน์ผ่านการทำ Social Media เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้เยอะขึ้น เป้าหมายหลักของการทำ Social Media ก็คือการเข้าถึงลูกค้าและการเพิ่มยอดขาย โดยวิธีหลักของการทำ Social Media ก็คือการสร้างคอนเทนต์ที่เหมาะสำหรับช่องทาง รวมถึงคอนเทนต์ในการขายและคอนเทนต์ในการให้คุณค่าหรือความรู้กับผู้ติดตาม

ซึ่งในบทความนี้ผมจะขอแบ่งวิธีทำSocial Media ออกมาเป็นห้าขั้นตอน และในตอนจบบทความก็จะมีโบนัสพิเศษด้วยครับ

#1 การตั้งเป้าหมายของ Social Media

สิ่งแรกที่เราต้องทำกันก่อนก็คือการวางเป้าหมาย อาจจะเป็นคำที่คุณฟังบ่อยแล้วและอาจจะเบื่อแล้วด้วยซ้ำ แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าเป้าหมายเราคืออะไร เราก็จะไม่รู้ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง

เป้าหมายของธุรกิจส่วนมากก็มักจะมีอยู่ 2 อย่างก็คือ การเข้าถึง และ ยอดขาย

การเข้าถึง – ส่วนมากเป้าหมายนี้มักจะเป็นการดูว่าเพจของเรามีผู้ติดตามมากขึ้นเยอะแค่ไหน หรือโพสต์แต่ละโพสต์เข้าถึงคนแค่ไหน โดยรวมแล้วมักจะเป็นสำหรับบริษัทที่มีขนาดใหญ่หน่อย อยากจะสร้างแบรนด์ หรืออยากจะสร้างความน่าเชื่อถือบางอย่าง 

ยอดขาย – ส่วนมากสำหรับบริษัทขนาดเล็กผมก็แนะนำให้เริ่มดูที่ยอดขายก่อน เพราะเราไม่ได้มีเงินทุนเยอะ หากเรามียอดขายเข้ามาบ้างแล้วก็จะมีกำลังใจ เราก็จะสามารถทำสิ่งนี้ต่อไปได้เรื่อย ให้โตตามธรรมชาติเอง

โดยรวมแล้วผมอยากจะให้ทุกคนตั้งเป้าหมายไว้ก่อน ว่าเราอยากจะทำให้เพจเราโตเท่าไหร่ อยากจะให้ยอดขายมากขึ้นอีกเท่าไหร่ ในระยะเวลาที่เราวางแผนไว้ ยกตัวอย่างเช่นอยากจะให้เพจโตขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา 3 เดือน หรืออยากจะเพิ่มยอดขายในช่องทางนี้ 100,000 บาทต่อเดือน ในระยะเวลาครึ่งปี.

ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าเราต้องทำอะไรต่อไป เพราะหากเราอยากได้อะไรที่โตเร็วมากๆ หรือทำงานให้กับเราได้ทันที บางทีเราก็ต้องเลือกช่องทางที่มันโตเร็วขึ้นหน่อย ยกตัวอย่างเช่นทำ TikTok แทนทำบน Facebook … หรือหากเราบอกว่าเราอยากจะทำให้ Facebook หรือ Instagram โตให้เร็วมากๆ เราก็อาจจะต้องไปเลือกทำโฆษณาบ้าง หรือไปจ้างเพจดังๆมาช่วยรีวิวบ้าง ก็ได้ 

#2 การเข้าใจกลุ่มลูกค้าของคุณ

หลายๆคนคงฟังเรื่องนี้มาจนเบื่อแล้วเช่นกัน ว่าหากเราจะทำอะไรก็ตามในการตลาดแต่เราก็ต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าหรือว่ากลุ่มเป้าหมายของเราโดยเบื้องต้นแล้วคือใครบ้าง

แน่นอนว่าเราอาจจะไม่ได้รู้เรื่องลูกค้าแบบละเอียดลึก แต่โดยรวมแล้วผมอยากจะให้มีภาพไว้ในใจไว้ก่อนว่ากลุ่มคนที่เราอยากจะสื่อสารด้วยเขาอยู่ที่ไหน อายุเท่าไหร่ ติดตามเพจอะไรเป็นพื้นฐาน ชอบ Content แนวไหน

เป้าหมายของการทำแบบนี้ก็คือเราจะได้รู้ว่าเราต้องสร้างสื่อแบบไหน Content แบบไหน หรือไปติดต่อให้เพจไหนช่วยโปรโมทให้เรา เพราะไม่อย่างนั้นเราก็จะตัดสินใจไม่ถูกหรอกครับ ว่าเราต้องทำอะไรกันแน่

ซึ่งวิธีทำความเข้าใจลูกค้าแบบตรงไปตรงมาที่สุดก็คือการลองพูดคุยกับลูกค้าโดยตรงดู ว่าเขาชอบอะไร เขาตาม Social Media ตัวไหนอยู่ ถ้าคุณทำธุรกิจอยู่แล้วหรือว่าขายของอยู่แล้ว ส่วนนี้ถามลูกค้าไปตรงๆเลยก็ได้ หรือถ้าเรามี Facebook Page อยู่แล้ว เราก็สามารถเข้าไปดูใน เครื่องมือฟรีของ Facebook ชื่อว่า Audience Insight เพื่อดูข้อมูลพื้นฐานก็ได้

แต่ถ้าคุณเพิ่งเริ่มทำช่อง Social ใหม่ๆ ยังไม่ได้มีข้อมูลหลังบ้าน ยังไม่ได้มีกลุ่มลูกค้าเยอะ ในส่วนนี้ก็อาจจะต้องแบ่งเวลามาสักเดือนสองเดือนเพื่อลองทดสอบ Content ดูนะครับ ความยากของโซเชียลมีเดียก็คือเวลาเราเริ่มต้นจะลำบากมากๆเพราะถ้าเราไม่ได้มีตัวผลักดันภายนอก แบบการซื้อโฆษณา การจ้างเพจรีวิว หรือการแชร์ไปไหนโปรไฟล์ Facebook ส่วนตัวเรา เราก็จะต้องใช้เวลาตั้งตัวนาน 

#3 ตารางคอนเทนต์และการดูตัวเลขต่างๆ

หากเราอยากจะทำ Social Media ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องมีการสร้าง Content ครับ โดยเบื้องต้นแล้วก็จะมีทั้งการเขียนแคปชั่น การแต่งรูป หรือหาคนทำช่องทางอื่นๆคุณก็อาจจะต้องมีการทำวีดีโอด้วย 

จริงๆแล้ว การสร้าง Content มีหลายวิธีมาก ส่วนมากจะขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร หากอยากให้มีผู้ติดตามเยอะๆ โดยรวมแล้วเราก็ต้องเน้นการทำ Content ให้ความรู้หรือให้คุณค่ากับลูกค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งสำหรับธุรกิจส่วนมากก็จะตามมาด้วยการจัดตาราง Content หรือการวางแผนล่วงหน้าว่าในแต่ละเดือนเราต้องโพสต์อะไรบ้าง

เรื่องการสร้าง Content ผมมีบททความกับการทำ Content Marketing ไว้แล้ว ใครที่สนใจเชิงลึกสามารถศึกษาได้ แต่ถ้าจะให้สรุปง่ายๆ Content จะมีอยู่ 2 รูปแบบ

  • อนเทนต์ขาย ส่วนมากจะเข้าถึงคนไม่ได้เยอะ แต่จะทำให้เราขายได้บ้าง เป็นตัวทำเงิน
  • คอนเทนต์ให้ความรู้ ความบันเทิง ส่วนมากจะขายได้น้อย หรือไม่ได้เลย แต่จะทำให้เราดึงดูดคนใหม่ๆมาติดตามเราได้

โดยรวมแล้วธุรกิจส่วนมากก็ต้องแบ่งทำ Content ทั้งสองอย่างนี้ หากคุณเป็นสินค้าที่ดังอยู่แล้ว ติดตลาดอยู่แล้ว คุณก็ไม่ต้องให้ความรู้คนมากก็ได้ เพราะคนรู้จักอยู่แล้วซื้อง่าย แต่ถ้าคุณเป็นเพจใหม่ไม่มีผู้ติดตามเลย คุณก็อาจจะต้องเน้นเรื่องการทำให้ความรู้คนเยอะขึ้นหน่อย ส่วนตัวแล้วผมชอบสัดส่วนให้ความรู้ 3 ครั้ง ขายของ 1 ครั้ง แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนอีกทีนะครับ

… ส่วนถ้าถามว่าจะเอาไอเดียทำ Content มาจากไหน สำหรับมือใหม่ผมแนะนำให้ดู 3 อย่างนี้นะครับ 

  • คุยกับลูกค้า
  • การดูคู่แข่ง
  • Content ติดเทรนด์ 

บอกตามตรง Content ที่ดีที่สุดก็คือ Content ที่ลูกค้าชอบ ส่วนมากก็มักจะมาจากการทำอะไรที่มันติดเทรนด์ แต่ปัญหาก็คือเราไม่สามารถวางแผนอนาคตได้ว่าอะไรจะติดเทรนด์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีรองลงมาก็คือการมีแผน Content พื้นฐานจากการคุยกับลูกค้าหรือว่าดูคู่แข่ง แต่ก็เหลือเวลาเผื่อไว้ให้ตัวเองเล็กน้อยเพื่อทำ Content ติดเทรนด์บ้างในแต่ละอาทิตย์

สุดท้ายนี้ ทำ Content ไปแล้วก็อย่าลืมวัดผลด้วยนะครับ แนะนำให้พยายามเก็บตัวเลขไว้ว่าแต่ละโพสต์มีคนมองเห็นเยอะแค่ไหน มีคนให้ความสนใจเยอะแค่ไหน เพราะต่อให้เราเป็นคนที่เก่งเรื่องการทำ Content จริง สุดท้ายแล้วเราก็ไม่รู้จนกว่าเราจะได้ลองทำจริงๆนะครับ เพราะฉะนั้นตัวเลขผลตอบรับจากลูกค้าหรือว่าผู้ติดตามเรานี่แหละที่จะเป็นตัวตัดสินใจว่าต่อไปนี้เราต้องทำ Content เยอะแค่ไหนหรือทำอะไรบ้าง 

#4 การทำ Social Media หลายช่องทาง

สำหรับธุรกิจส่วนมาก เราไม่ควรที่จะมี Social Media เยอะเกินไปนะครับ เพราะถ้าเราไม่ได้มีพนักงานเยอะพอ เราจะคุมทุกช่องทางไม่อยู่จริงๆครับ ทั้งเรื่องการสร้าง Content และการตอบลูกค้า โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าคนหนึ่งคนดูแลได้มากสุดก็คือ Social Media แค่ 1-2 ช่องทาง

เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ ถ้าคุณมี Social Media แต่ละช่องทางอยู่แล้วแล้วคุณอยากจะขยายไปทำช่องทางอื่นเพิ่ม ผมก็อยากจะให้พิจารณาทรัพยากรด้วยว่ามีคนดูแลพอหรือเปล่า

แต่สำหรับคนที่อยากจะทำ Social Media หลายช่องทางจริงๆ และมั่นใจว่าตัวเองมีทรัพยากรมากพอ หนึ่งเทคนิคที่ผมอยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้ก็คือเรื่องของ การ Repurposing Content แปลเป็นภาษาไทยก็คือการนำ Content เก่ามาปรับใช้ใหม่ ในช่องทางอื่นๆ

เทคนิคนี้ Youtuber หลายคนใช้กัน ยกตัวอย่างเช่นเขาจะทำวีดีโอมา 1 อันแล้วเขาก็จะเอาไปโพสต์ลงบนยูทูปแล้วก็ลง Facebook บางคนก็อาจจะเอาคลิปใหญ่ๆย่อยมาเป็นคลิปเล็กๆไปโพสต์ลง TikTok อีกทีนึงด้วย การทำแบบนี้จะทำให้เราใช้เวลา 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงอัดคลิปทีเดียว แต่ว่าเรามี Content ลงในหลายช่องทางพร้อมกัน

หากคุณมีเวลามากหน่อย ก็อาจจะใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อปรับ Content ให้เหมาะกับ algorithm ของแต่ละ Social Media มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นสมมุติว่าคุณไลฟ์สดลงไปใน Facebook 2 ชั่วโมง แต่คุณมองว่าคอนเทนต์นี้อาจจะไม่เหมาะกับการลงใน YouTube หรือ TikTok

  • คุณก็ตัดวีดีโอนี้ให้เหลือแค่ 10 นาที เพื่อลงใน YouTube แล้ว
  • ตัด 10 นาที เป็นหนึ่งนาทีสิบอัน สำหรับเอาไปลงใน TikTok
  • แกะข้อคิดจากวีดีโอหลัก 2 ชั่วโมง ออกมาเป็นโพสสวยๆรูปภาพ 10 ภาพเพื่อลงใน Facebook ใหม่อีกรอบก็ได้

การทำแบบนี้จะใช้เวลามากขึ้นในระดับหนึ่ง แต่อย่างน้อยในฐานะคนคิด Content เราก็ไม่ต้องมานั่งคิด Content ใหม่เรื่อยๆใช่ไหมครับ เราคิดทีเดียวแล้วก็เอาไปแปะทุกที่เลย หรืออาจจะใช้เวลาในการผลิตคอนเทนต์เพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยเพื่อให้ Content แต่ละอย่างเหมาะกับแต่ละช่องทางมากขึ้น

#5 การเก็บข้อมูล 

ผมชอบหัวข้อนี้มากที่สุด เพราะการเก็บข้อมูลจะเป็นตัวบอกว่าสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดดีหรือไม่ดีและเราต้องปรับปรุงไปในทิศทางไหน

ก่อนที่เราจะเริ่มทำอะไรก็ตาม แบ่งตารางออกมาเลยครับ เดือนนี้ก่อนที่จะเริ่ม มียอดผู้ติดตามเท่าไหร่ มียอดขายเท่าไหร่ และในเดือนต่อๆไปอีก 6 เดือน 12 เดือนในอนาคต ให้เรามากรอกตัวเลขเหล่านี้ทุกเดือน เพื่อที่จะดูว่าตัวเลขเหล่านี้มันเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากแค่ไหน

และหากคุณอยากจะลงละเอียดมากกว่านั้น ก็สามารถใช้ระบบหลังบ้านของแต่ละเครื่องมือได้เพื่อวัดผลเลยว่า Content แต่ละอันมีผลประกอบการดีแค่ไหน ซึ่ง 3 ช่องทางหลักที่ผมใช้บ่อยๆ Facebook YouTube Website จะมีเครื่องมือที่ผมสามารถดาวน์โหลดไฟล์ Excel ออกมาได้เพื่อใช้วิเคราะห์แต่ละ Content

ในหัวข้อที่ 3 ผมได้บอกไปแล้วใช่ไหมครับว่าผมมีตาราง Content ของตัวเองอยู่แล้ว ทีนี้ผมก็แค่เอาตาราง Content มาชนกับตารางผลประกอบการในระบบหลังบ้านของแต่ละช่องทาง ให้ดูว่า Content ไหนดีหรือไม่ดี ก็เท่านั้นเอง 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนนี้ก็จะดูได้แค่ข้อมูล engagement และยอดวิวเท่านั้น หากเราอยากจะวัดข้อมูลอื่นที่เกี่ยวกับรายได้และยอดขายมากขึ้น ผมก็แนะนำให้เริ่มจาก Bitly เพื่อดูว่าคนคลิกลิงค์เพื่อทักคุณเข้ามามากแค่ไหนกัน

ในโลกที่สมบูรณ์แบบผมก็อยากจะแนะนำให้ทุกคนวัตไปเลยนะครับว่าแต่ละโพสต์คิดเป็นเงินได้เท่าไหร่ (คนเห็นโพสต์หรือวิดีโอแล้วซื้อกี่คน) แต่ระบบหลังบ้านส่วนมากจะทำตรงนี้ไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้นให้เริ่มจากวัดคลิกแล้วทักเราเข้ามาเยอะแค่ไหนก่อนก็พอ

โบนัส: ทดสอบและพัฒนา

ในส่วนนี้จะไม่ได้เป็นเกี่ยวกับเรื่องการสอนมือใหม่แล้ว แต่หากคุณเริ่มทำมาซัก 2 เดือน 3 เดือน ข้อแนะนำนี้จะเหมาะกับคุณมาก 

ผมอยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่าพอเรามาอยู่ในโลกของการตลาดออนไลน์และเครื่องมือออนไลน์ต่างๆ ข้อดีและก็คือเราสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เยอะและทันที เพราะฉะนั้นต่อให้เราวางแผนมาดีแค่ไหน สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเลขผลลัพธ์ที่เราได้จากการกระทำแต่ละอย่างของเรา

เพราะฉะนั้น mindset ที่ผมอยากจะให้ทุกคนมีก็คือเป็นเรื่องของการทำเยอะๆและทดสอบเยอะๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นคู่มือธุรกิจหรือการตลาดแนะนำที่ไหนก็ตาม หรือจะเป็นกูรูด้านการตลาดคนไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วธุรกิจก็คือธุรกิจครับ ไม่มีคำแนะนำไหนที่เหมาะสำหรับ ทุกกลุ่มลูกค้า ทุกสินค้า ทุกช่องทาง 

โดยคำแนะนำของผมก็คือในเดือน 2 เดือนแรก ให้ลองอะไรเยอะๆเข้าไว้ ลองโพส Content หลายรูปแบบ หากมีเวลาก็ลอง Social Media หลายๆอันก็ได้ พอเราทำไป 2 เดือนเรารู้ว่าช่องทางไหนบอกช่องทางไหนไม่เหมาะ  Content ไหนดี Content ไหนไม่ดี เราค่อยปรับกลยุทธ์กันอีกทีนึง เพราะ 1 และข้อแนะนำการตลาดที่ดีที่สุดที่คนไม่ค่อยสอนกันก็คือ เราจำเป็นที่จะต้องรู้ว่างานส่วนไหนของเราที่ไม่จำเป็นแล้วต้องตัดทิ้ง เพื่อที่เราจะได้มีเวลาไปทำสิ่งที่มันสำคัญมากกว่า

และหลังจากที่เราทดสอบเสร็จแล้วหลังจากนั้นทิศทางการทำงานเราก็จะชัดเจนมากขึ้น แล้วก็จะเข้าสู่เรื่องของการทำธุรกิจหรือว่าการทำงานแล้วใช่ไหมครับ งานไหนที่เรามองว่าสำคัญแต่เราทำไม่เก่ง เราก็อาจจะไปเรียนทักษะเพิ่ม หรือถ้าเราบอกว่าเราไม่มีเวลาจริงๆ รอก็จ้างฟรีแลนซ์มาลองดูก่อน ถ้าเรามีงบแล้วก็จ้างคนมาทำประจำแทนเลย

บทความผมขอพูดแค่นี้นะครับ อย่างที่บอกผมอยากจะให้ทุกคนมองโซเชียลมีเดียว่าเป็นเรื่องของการทดสอบ Content หลายๆรูปแบบ ผมคิดว่าหากเราสนุกไปกับการสร้างคอนเทนต์ที่ผู้ติดตามเราชอบ เราก็กลายเป็นนักการตลาดผ่าน Social Media ที่เก่งได้โดยอัตโนมัติ

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด