TikTok Ads คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง?

TikTok Ads คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง?

ผมคิดว่าในโลกการตลาดออนไลน์ คงไม่มีใครไม่รู้จัก TikTok แล้ว ซึ่งจริงๆ เพียงแค่คิดคอนเทนต์เก่ง เราก็เข้าถึงคนได้เยอะแบบฟรีๆแล้วครับ … อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่สนใจเรื่องการทำโฆษณา ทาง TikTok เค้าก็มีบริการในการช่วยเราเข้าหาคนมากขึ้นด้วย

ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า TikTok Ads คืออะไร ทำอะไรได้ และ มีเทคนิคหรือทริกอะไรในการทำบ้าง

TikTok Ads คืออะไร?

TikTok Ads คือ การโฆษณาบนแพลตฟอร์ม TikTok ที่มีจุดเด่นคือการสร้างและแชร์วิดีโอสั้นๆ กับผู้คนบนโลกออนไลน์ ซึ่งเราสามารถสร้างและกำหนดตัว Ads และแคมเปญที่เหมาะสำหรับเป้าหมายทางธุรกิจต่างๆ รวมถึงยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของเราได้อีกด้วย

จุดเด่นก็คือ TikTok Ads จะเป็นวิดีโอสั้นๆแนวตั้ง มักจะเป็นวิดีโอที่เน้นความขี้เล่น เป็นกันเองมากกว่า โดยรวมแล้วก็จะต่างจากโฆษณาวิดีโอแนวซีเรียส จริงจัง หรือดูมืออาชีพที่แบรนด์ต่างๆทำกันเลย

TikTok Ads ทำอะไรได้บ้าง

ก่อนที่เราจะพูดถึงรูปแบบโฆษณา TikTok Ads นั้น ผมขอแนะนำก่อนว่าปัจจุบันทาง TikTok ได้มีการแบ่งประเภทรูปแบบโฆษณาบนแพลตฟอร์มของเขาไว้ตามวัตถุประสงค์เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ครับ

#1 Reach หรือรูปแบบโฆษณาเพื่อเพิ่มการเข้าถึง

ซึ่งรูปแบบโฆษณาเพื่อการสร้าง Reach นั้นจะมีทั้งหมด 3 แคมเปญด้วยกันก็คือ Brand Takeover, Top View และ In-Feed Ads

Brand Takeover หรือ TikTok’s Takeover

เป็นรูปแบบโฆษณาที่ทำให้เราสามารถสร้าง Reach หรือการเข้าถึงได้มากที่สุด (สูงสุดถึง 100%) เพื่อสร้างการรับรู้ก่อนที่คนจะเข้าไปยังหน้า Feed นั่นเอง

โฆษณาที่ใช้รูปแบบ Brand Takeover นี้จะแสดงผลขึ้นมาทันทีเมื่อผู้ใช้งานเปิดแอปขึ้นมา และจะเด้งขึ้นมาเต็มจอเพื่อให้เข้าถึงใช้งาน TikTok เวลาเปิดหรือปิดแอป ซึ่งการันตีได้ว่าคนก็จะเห็นโฆษณาของเราอย่างแน่นอน

โดยเราสามารถใช้โฆษณา Brand Takeover ในหลายรูปแบบ ทั้งภาพนิ่งหรือวิดีโอ ภาพเคลื่อนไหว รวมถึงกำหนดระยะเวลาได้เช่น ภาพนิ่ง 3 วินาที หรือภาพเคลื่อนไหว 3-5 วินาที รวมถึงสามารถใช้ข้อความโฆษณาเพิ่มลงไปได้ด้วย

ข้อดีของโฆษณาแบบ Brand Takeover คือผู้ใช้งานจะเห็นโฆษณาของเราแบบตรงไปตรงมา และช่วยสร้างการรับรู้เป็นวงกว้างได้ด้วยเพราะตัว Ads จะเด้งขึ้นมาทันทีหลังจากเปิดหรือปิดแอปนั่นเอง

Top View

เป็นรูปแบบโฆษณาล่าสุดที่ต่อยอดมาจากรูปแบบ “Brand Takeover” นั่นเอง ซึ่งจะแตกต่างกันตรงที่ผู้ใช้งาน TikTok จะไม่ถูกรบกวนด้วยโฆษณาทันทีที่เปิดแอป โดยโฆษณาในรูปแบบนี้จะแสดงเป็นโพสต์ใน Feed แรกหลังจากผ่านไป 3 วินาทีแทน

ซึ่งโฆษณาในรูปแบบ Top View ถือเป็นโฆษณาที่เด่นชัดที่สุดบน TikTok ก็ว่าได้ เพราะโฆษณาจะโชว์เป็นวิดีโอแรกที่ผู้ใช้งานแอปจะเห็นเต็มๆ ทั้งภาพ เสียง และคำอธิบายโฆษณา

นอกจากนี้ Top View ยังถูกจัดเป็นโฆษณาระดับพรีเมียมที่ถ้าเปิดใช้แล้ว ยังไงผู้ใช้งานแอปที่เราเลือกเป็นเป้าหมายแคมเปญก็จะเห็นโฆษณาแน่ๆ

เพราะ TikTok กำหนดให้โฆษณารูปแบบ Top View นั้นใช้วิดีโอ 60 วินาทีแบบเต็มหน้าจอ (Full Screen) รวมถึงวิดีโอจะเล่นเองอัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องคลิกที่ตัวโฆษณาก่อน พูดง่ายๆก็คือ Reach ถึง 100% แน่นอนครับ

นอกจาก Reach แล้วเรายังสามารถสร้างเป้าหมายแคมเปญแบบอื่นๆใน Top View ได้เช่น Traffic (จำนวนผู้ใช้งานที่เข้ามาบนแพลตฟอร์ม), Consideration (การพิจารณาเพื่อตัดสินใจ) รวมถึงจำนวนการแสดงผลเช่น View (จำนวนการมองเห็น) และ Impression (จำนวนครั้งที่แสดงโฆษณา)

In-Feed Ads

รูปแบบโฆษณาที่จะปรากฏในหน้า News Feed ของกลุ่มเป้าหมายระหว่างที่ผู้ใช้งานกำลังดูวิดีโอต่างๆ บนหน้า Feed

ซึ่งโฆษณาในรูปแบบ In-Feed Ads นั้นแม้จะไม่เด่นเหมือนแบบ Top View แต่ก็มีประโยชน์ในการเจาะจงเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม เพราะผู้ใช้งานจะเห็นโฆษณาของเราเมื่อเลื่อนผ่าน Feed ที่ตัวเองชอบหรือติดตาม

โฆษณา In-Feed Ads มีจุดเด่นที่เราสามารถสร้างคอนเทนต์ของสินค้า บริการหรือแบรนด์ของเรา และโฆษณาที่เราสร้างนั้นจะไปโผล่ในหน้า Feed ข่าว “For You” ของผู้ใช้งานนั่นเอง

โดยปกติโฆษณา In-Feed Ads จะกำหนดรูปแบบทั่วไปเป็นวิดีโอยาว 60 วินาทีแบบเล่นอัตโนมัติบนหน้า Feed และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถไลค์ คอมเมนต์ แชร์ ติดตาม หรือถ่ายวิดีโอด้วยธีมเดียวกับสินค้าหรือบริการของเราได้อีกด้วย

#2 Engagement หรือรูปแบบโฆษณาเพื่อการสร้างปฏิสัมพันธ์

โดยรูปแบบโฆษณาเพื่อการสร้าง Engagement นั้นจะมี 2 แคมเปญด้วยกัน คือ Hashtag Challenge และ Branded Effect

Hashtag Challenge

เป็นรูปแบบโฆษณาในลักษณะของการจัดแคมเปญเพื่อท้าให้ผู้ใช้งานใน TikTok มาร่วมกิจกรรมหรือมีส่วนร่วมในการโฆษณา ทำให้เราสามารถสร้าง Engagement หรือปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้กับแบรนด์ของเราได้นั่นเอง

พูดง่ายๆคือเราสามารถสร้างแฮชแท็กเฉพาะเจาะจงสำหรับแคมเปญของเราและใส่ฟังก์ชันเช่น กดสั่งซื้อสินค้า ไว้บนคอนเทนต์นั้นๆ โดยเราจะให้ลูกค้าหรือผู้ใช้งานแอปสามารถร่วมสนุกโดยการโพสต์ลงในแอคเคาท์ตัวเองได้อีกด้วย

การทำโฆษณาแบบ Hashtag Challenge นั้นมีข้อดีที่สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มเพื่อนบอกต่อเพื่อน หรือได้เห็นโฆษณานี้จากกลุ่มคนรู้จักหรือมีความสนใจตรงกัน

เช่นผู้ใช้งานเห็นเพื่อนเล่น Challenge ของแบรนด์หนึ่งก็เลยไปเล่นตาม รวมถึงอาจจะชักชวนคนทั่วไปให้มาร่วมสนุกหรือแสดงความเห็นในแฮชแท็กที่มีธีมเฉพาะเป็นสินค้าหรือบริการของเราก็ได้

โฆษณาในรูปแบบ Hashtag Challenge นั้นจะปรากฏอยู่บน Discovery page เพื่อให้คนอื่นมีส่วนร่วม หรือช่วยกัน “ปั่น” แฮชแท็กให้ยิ่งกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น และโฆษณารวมถึงแฮชแท็กก็จะอยู่ไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าของแคมเปญจะถอนโฆษณาออกนั่นเองครับ

Branded Effect หรือ Branded AR Content

การรโฆษณาในรูปแบบ Branded Effect นั้น เราสามารถสร้างเอฟเฟกต์ต่างๆ ทั้งภาพและเสียง เช่นสร้างสติกเกอร์หรือเอฟเฟกต์ในนามของแบรนด์ทั้งแบบ 2D 3D หรือ AR (Augmented Reality) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้และเอาไปประกอบวิดีโอของตัวเองได้

ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถสร้าง AR ของสินค้าตัวหนึ่งขึ้นมา เมื่อมีผู้ใช้งานเอฟเฟกต์เวลาถ่ายรูป ระบบก็จะทำการจำลองภาพให้เหมือนผู้ใช้กำลังถือสินค้าอยู่ในมือ หรือมีสินค้าวางอยู่บนโต๊ะจริงๆ

Branded Effect เป็นการดึงเทคโนโลยีจำลองโลกเสมือนจริง ซึ่งสำหรับหลายๆคนแล้วเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจและสามารถทำให้แคมเปญนั้นกลายเป็นกระแสได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงส่งผลให้เกิดการจดจำแบรนด์และทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกอยากปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มากขึ้นอีกด้วยครับ

ทำโฆษณา TikTok ดีไหม

ถึงแม้หลายๆคนจะเห็นว่า TikTok เป็นแอปที่ได้รับความนิยมสูง แต่บางคนก็อาจจะยังลังเลที่จะโฆษณาบน TikTok อยู่ดี ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่นั้นก็หนีไม่พ้น

  • คิดว่าผู้ใช้งาน TikTok มีแต่เด็ก
  • คิดว่า TikTok ก็เป็นแค่อีกโซเชียลมีเดียที่ไม่น่าจะใช้โฆษณาเชิงธุรกิจได้

ซึ่งนั่นอาจทำให้เราเสียโอกาสที่จะเพิ่มยอดขายรวมถึงขยายแบรนด์ของเราออกไปอีกด้วย จริงอยู่ที่ TikTok อาจไม่เหมาะกับการทำโฆษณาสำหรับทุกธุรกิจ แต่สำหรับกลุ่มต่อไปนี้ ผมขอแนะนำให้คุณลองพิจารณา TikTok เป็นตัวเลือกในการทำโฆษณาของพวกคุณครับ

ธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายหลากหลาย

จริงอยู่ที่ผู้ใช้งาน TikTok ส่วนใหญ่เป็นคนในยุค Gen Z (อายุ 16-24 ปี) มากถึง 41% แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าอีก 59% ที่เหลือนั้น คือผู้ใช้งานใน Gen Y, Gen X, แม้กระทั่งคนยุค Baby Boomer ก็ยังมีบนแอปนี้ครับ แถมยังเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงเกินครึ่งด้วย

นอกจากนี้ TikTok ยังเปิดโอกาสให้เราเลือกและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากกว่านั้น (ขึ้นอยู่ว่าเราเลือกทำโฆษณาแบบนั้น) ดังนั้นใครที่กังวลบน TikTok จะขายได้แค่สินค้าสำหรับพวกเด็กๆหรือวัยรุ่น อาจจะต้องลองคิดกันใหม่ดูนะครับ

ธุรกิจที่มีงบโฆษณาจำกัด

หลายๆแบรนด์ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กหรือ SME อาจจะคิดทำโฆษณาใน TikTok ไปก็คงไม่คุ้ม หรือว่าค่าโฆษณาจะต้องแพงมากแน่ๆ โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ระบาดที่เราต้องใช้จ่ายให้รัดกุมนี้

ไม่ต้องกังวลไปครับเพราะจริงๆแล้ว TikTok มีเครื่องมือที่ช่วยให้เราปรับแต่งโฆษณาได้ตามงบประมาณที่เรากำหนดอย่าง Flexible Budgets และ Performance Targeting ที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายของแคมเปญโฆษณาในราคาที่เรากำหนดไว้อย่างคุ้มค่านั่นเองครับ

ธุรกิจที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์

ถ้าหากคุณเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้วยตัวเอง หรือเป็นหนึ่งแบรนด์ที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการทำโฆษณาแล้วล่ะก็ TikTok เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดเลยครับ

ในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เห็นอินฟลูเอนเซอร์หน้าใหม่ๆที่มียอดฟอลโลว์หลายล้านเกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นการทำโฆษณาร่วมกับ TikTok Creators จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ทรงพลังมากๆในการเข้าถึงผู้ใช้งานและกลุ่มเป้าหมายของเรา โดยเฉพาะถ้าหากกลุ่มผู้ติดตามของ Influencer ที่เราร่วมงานด้วยนั้นมีความสนใจแบบเดียวกับกลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดด้วยนั่นเองครับ

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด