Soft Skill คืออะไร ? สำคัญอย่างไรในการทำงาน

Soft Skill คืออะไร ? สำคัญอย่างไรในการทำงาน

การทำงานในปัจจุบันแค่เก่งงานในเชิงเทคนิคหรือ Hard Skill อาจทำให้คุณกลายคนโดดเด่น แต่อาจไม่ประสบความสำเร็จหากขาด Soft Skill ที่ดี เมื่อต้องทำงานเป็นทีมหรือทำงานร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะพนักงาน หัวหน้างาน หรือผู้บริหาร ซึ่ง Soft Skill ที่ว่านี้คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร มีทักษะอะไรที่จำเป็นบ้าง และสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างไร ตามไปดูพร้อม ๆ กันครับ 

Soft Skill คืออะไร ?

Soft Skill คือ คุณลักษณะหรืออุปนิสัยภายในของบุคคลนั้น ๆ ที่ติดตัวมาจากการเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ อาจประเมินความรู้ความสามารถในเชิงปริมาณออกมาเป็นตัวเลขแบบ KPI ไม่ได้ แต่รู้ได้ด้วยคำบอกเล่าจากเพื่อนร่วมงาน ที่เคยทำงานด้วยกัน ที่เปรียบเหมือนเสียงสะท้อนว่าคนคนนั้นมีความสามารถในการจัดการบริหารงาน การทำงานร่วมกับผู้อื่น มีความคิดสร้างสรรค์ และแก้ไขปัญหาได้ดีแค่ไหน เป็นต้น 

เนื่องจากว่าการทำงานในสมัยนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้ Soft Skill เป็นอุปนิสัยและลักษณะส่วนบุคคลที่มีความสำคัญต่อการทำงานไม่น้อยไปกว่า Hard Skill เพราะนอกจากจะช่วยให้สามารถทำงานกับผู้อื่นได้ดีแล้ว ยังเป็นทักษะที่เพิ่มความสามารถในการแก้ไขปัญหา การจัดการบริหารเวลา ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ตรงเป้าหมายขององค์กร และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นด้วยครับ 

Soft skill สำคัญอย่างไร ?

การมี Soft Skill ที่ดีนอกจากจะทำให้เข้าใจตัวเองในการจัดการกับความรู้สึกต่าง ๆ และแสดงออกมาได้อย่างเหมาะแล้ว ยังช่วยให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ง่าย และเมื่อพนักงานทุกคนมี Soft Skill ที่ดี ยังช่วยสร้างบรรยากาศอันยอดเยี่ยมในการทำงาน ช่วยลดอัตราการลาออก บริษัทไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายไปกับการสรรหารวมถึงจ้างพนักงานใหม่ 

ที่สำคัญหากทุกคนให้ความร่วมมือและการสื่อสารที่ดีแล้ว ยังส่งผลดีต่อการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ช่วยให้ผลงานเป็นไปตามเป้าหมาย ความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะช่วยสร้างความสำเร็จต่อบริษัทได้อย่างยั่งยืน 

ในขณะเดียวกัน Soft Skill ยังทำให้เราได้เปรียบในเวลาที่หลายบริษัทนำระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ในการทำงานมากขึ้น เพราะระบบเหล่านั้นถูกพัฒนามาเฉพาะงานเชิงเทคนิคหรือ Hard Skill ที่ถอดการทำงานแบบเครื่องจักร แต่ยังขาดความเข้าอกเข้าใจการทำงานแบบมนุษย์

9 ทักษะของ Soft Skills ที่ดี

1. มีการสื่อสารที่ดี (Communications)

เรียกได้ว่าเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดในทุกการทำงานเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน ลูกทีม หรือลูกค้า การสื่อสารที่ดีไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ผ่านอีเมล์ แชท การพูดต่อหน้า หรือผ่านทางโทรศัพท์ ควรใช้ถ้อยคำที่มีความชัดเจน สุภาพ กระชับ รวบรัด เข้าใจง่าย วางท่าทางให้เหมาะสม ในขณะเดียวกันก็ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดี สามารถจับความรู้สึกและใจความสำคัญที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อได้ 

2. มีภาวะผู้นำ (Leadership)

มีความสามารถในการตัดสินใจเมื่อเกิดปัญหา ด้วยการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล รวมไปถึงความสามารถในการบริหารคนและการจัดการกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ตรงหน้า เช่น เมื่อเพื่อนร่วมทีมเกิดความขัดแย้ง กล้าแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับงาน และเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับผู้ร่วมทีม 

3. มีทัศนคติเชิงบวก (Optimism)

เพราะทัศนคติที่ดีนอกจากจะช่วยส่งพลังบวกให้กับเพื่อนร่วมงานได้แล้ว ยังส่งผลดีเมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับการทำงานที่มีความเครียดหรือท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่มีความกดดันสูง ทั้งในเรื่องของเนื้องาน คน เวลา และสามารถทำงานให้ลุล่วงได้ตามเวลาที่กำหนด 

4. ให้ความสำคัญกับทีมเวิร์ก (Teamwork)

ต้องยอมรับเลยว่าหลายบริษัทในตอนนี้อาจจะไม่ได้หาแค่คนเก่งอีกต่อไป แต่หาคนที่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ด้วย ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละแผนก คนละสาย หรือไม่เคยรู้จักกันมาก่อน รวมไปถึงความสามารถในการพูดคุยต่อรอง และความสามารถในการยอมรับคำติชมจากผู้อื่นได้ด้วย

5. มีจรรยาบรรณในการทำงาน (Ethics)

เป็นทักษะที่สอนกันไม่ได้ แต่เราสามารถฝึกให้กลายเป็น Soft Skill ที่ดีได้ เช่น เข้างานตรงเวลา ทำงานเสร็จตามเวลา สามารถบริหารงานและจัดการเวลาได้ดีทั้งในสภาวะปกติและภายใต้ความกดดัน ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของบริษัท รวมถึงรักษาจรรยาบรรณในวิชาชีพของตัวเอง รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ 

6. มีความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

สิ่งที่จะทำให้งานของเรามีความโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่น อีกทั้งยังเป็นทักษะที่เลียนแบบกันไม่ได้ และความคิดสร้างสรรค์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงงานด้านศิลปะเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความคิดใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาหรือช่วยพัฒนาสิ่งเดิม ๆ ในองค์กรให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

7. ปรับตัวเก่ง (Adaptability)

ในโลกของการทำงานไม่สามารถเลือกงานหรือผู้ร่วมทีมได้ อีกทั้ง ณ ปัจจุบันหลายบริษัทมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานมากขึ้น ดังนั้นความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี พร้อมทั้งมีความยืดหยุ่นในการทำงาน จึงเป็นอีกหนึ่ง Soft Skill ที่สำคัญที่คนทำงานในยุคนี้ขาดไม่ได้ 

8. มีความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)

มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์และแสดงออกมาได้อย่างเหมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ สามารถรับรู้ความต้องการและมีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ไม่เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางและตัดสินคนอื่นด้วยความรู้สึกของตัวเองเพียงอย่างเดียว 

9. พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ (Self-Improvement)

พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา ไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว เพราะอย่าลืมว่าหลายบริษัทกำลังนำเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่แรงงาน ดังนั้นควรเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีและเพิ่มทักษะที่เป็นประโยชน์กับตัวเองและหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานพร้อมทั้งเป็นการปรับตัวให้ทันโลกท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา 

Soft skill พัฒนาได้อย่างไร ?

รับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น 

เช่น ลูกทีม เพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้างาน เพราะพวกเขาเหล่านี้ทำงานเกี่ยวข้องกับเราโดยตรง ดังนั้นจึงเป็นเสียงสำคัญที่ช่วยสะท้อนตัวตนและวิธีการทำงานของเราได้ดี ดังนั้นการเปิดใจรับฟังความคิดเห็นหรือ Feedback จากพวกเขาจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการนำมาปรับปรุงจุดอ่อนการทำงานของเราให้ดีและพัฒนาจุดแข็งของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เทคคอร์สเพิ่มเติม

โดยลองสอบถามจากคนรอบตัวและลองสังเกตตัวเองว่า จุดอ่อนของเราคืออะไร แล้วลองหาคอร์สเรียนเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาทักษะนั้น ๆ ให้ดียิ่งขึ้น เช่น หากรู้สึกว่าเป็นคนพูดไม่เก่ง แต่ในโลกของการทำงานจำเป็นต้องพูดคุยกับหลายฝ่าย อาจจะลองหาคอร์สเพื่อฝึกทักษะการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีและวิธีการพูดเพิ่มเติม 

สื่อสารกับผู้อื่นให้มากขึ้น 

ถึงแม้ว่าลักษณะงานของเราไม่จำเป็นต้องประสานกับหลายคนหลายแผนกมากนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการสื่อสารเป็นทักษะสำคัญที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นควรหาโอกาสให้ตัวเองได้พูดคุยกับคนในออฟฟิศให้มากขึ้น ทั้งการพูดคุยต่อหน้า การตอบแชทหรืออีเมล์ หรือขออาสาเป็นคนพรีเซนต่อหน้าคนหมู่มากดูบ้าง จากนั้นลองสังเกตตัวเองและนำสิ่งที่คิดว่าเป็นจุดอ่อนของตัวเองมาปรับปรุงไปเรื่อย ๆ เช่น คำพูดหรือข้อความที่ใช้ น้ำเสียงหรือท่าทางในการพูด ให้น่าฟังและดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น 

เรียนรู้จากคนในทีม  

ในการทำงานแต่ละชิ้นประกอบด้วยบุคคลที่หลากหลาย และแน่นอนว่าแต่ละคนมีความถนัดที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นหากต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม ควรเปิดโอกาสให้คนในทีมได้เสนอความคิดเห็นและทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด ในขณะเดียวกันตัวเราก็คอยสังเกตพร้อมกับเรียนรู้ทักษะการทำงานแบบอื่น ๆ จากพวกเขาเหล่านั้นและนำมาพัฒนาตัวเอง  

สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นจะช่วยให้การทำงานราบรื่นมากขึ้น ดังนั้นลองทักทายหรือชวนคนอื่นพูดคุยบ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องงานอย่างเดียว อาจจะเป็นเรื่องอื่นทั่วไปก็ได้ เช่น แพลนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ งานอดิเรก หรือสิ่งที่สนใจ แล้วต่อยอดบทสนทนาไปเรื่อย ๆ เพื่อทลายกำแพงและเข้าถึงเพื่อนร่วมงานแต่ละคนได้มากขึ้น ในการหาวิธีเข้าหาเมื่อถึงเวลาที่ต้องทำงานร่วมกัน 

ก้าวออกจาก Comfort Zone

การได้ทดลองทำอะไรใหม่ ๆ หรือลองทำอะไรที่ไม่ถนัดก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยพัฒนา Soft Skill ได้เช่นกัน และอาจจะช่วยค้นพบความสามารถด้านอื่นที่ซ่อนอยู่อีกด้วย เช่น ขออาสารับผิดชอบโปรเจกต์งานที่ต่างออกไปจากเดิม หรือจากเดิมที่เคยเป็นผู้ทำตามคำสั่งตลอดก็ลองเปลี่ยนมาผู้นำดูบ้าง 

ปรับนิสัยให้เป็นคนตรงต่อเวลา 

อาจจะดูเหมือนไม่เกี่ยวกับการพัฒนา Soft Skill แต่จริง ๆ แล้วการตรงต่อเวลาแสดงให้เห็นถึงการจัดการและบริหารเวลาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเข้างานให้ตรงเวลา จัดลำดับความสำคัญของงานและทำให้เสร็จตามเป้าหมายภายในเวลางาน ที่สำคัญคือทำให้เป็นนิสัย แล้วสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ก็จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและโดดเด่นในหมู่เพื่อนร่วมงาน 

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด