ไขข้อสงสัย! ทําไม Apple แพง ราคาแรงแบบฉุดไม่อยู่

ไขข้อสงสัย! ทําไม Apple แพง ราคาแรงแบบฉุดไม่อยู่

เมื่อนึกถึงแบรนด์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมสูง ‘Apple’ คงเป็นหนึ่งในคำตอบของใครหลายคน ทุก ๆ ปีสาวกแอปเปิลต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยรุ่นใหม่เปิดตัว แล้วทําไม Apple แพง เคยสงสัยกันหรือไม่? เมื่อเทียบเป็นค่าเงินไทยบาทตอนนี้ เพียง iPhone เครื่องเดียวก็สามารถซื้อรถมอไซต์ได้คันหนึ่งแล้ว! ถึงแม้จะมีกระแสลบเรื่องราคาออกมา ทางบริษัทก็ขายผลิตภัณฑ์ได้แบบเทน้ำเทท่า และครั้งหนึ่งเคยลดราคาลงแต่กลับไม่เกิดผลเสียด้วย

วันนี้เราจะพาทุกท่านมาค้นหาคำตอบไปพร้อมกันว่าหตุใดแบรนด์สุดฮอตอย่าง Apple จึงราคาไม่เป็นมิตรต่อกระเป๋า โดยรวบรวมความคิดเห็นมาจากทั้งอดีตผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท นักการตลาดและผู้บริโภคเอง หากพร้อมแล้วมาคลายข้อสงสัยกันเลย

ทําไม Apple แพงมาเจาะลึกกับ Woz อดีตผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท

อดีตคู่หูผู้ก่อตั้ง Apple ร่วมกับสตีฟ จอบส์ ‘Stephen Wozniak’ ออกมาเผยเหตุผลว่าทําไม Apple แพง ดังนี้ “ที่แบรนด์มีราคาสูงก็เพราะทางบริษัทตั้งใจสร้างระบบที่มีความเสถียรและเป็นนวัตกรรมใหม่ ให้ผู้บริโภคสามารถวางใจได้ว่าจะไม่มีปัญหากวนใจตามมาภายหลัง เรียกได้ว่า Apple มีความเสี่ยงน้อยที่สุดในตลาด ดังนั้นจุดเด่นนี้จึงสร้างผลดีแก่บริษัทในระยะยาว” หากคุณเป็นหนึ่งในสาวกผู้เทใจให้ Apple คุณจะเต็มใจจ่ายเอง — สตีเฟ่นกล่าว

นอกจากนี้ยังเสริมอีกว่า ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลนั้นดีที่สุดในเรื่องคุณสมบัติจนสามารถขึ้นแท่นอันดับ 1 ได้ ในอนาคตคุณอาจได้เห็นราคาพุ่งสูงขึ้นอีกโดยเฉพาะ iPhone ดังนั้นเราต้องมาจับตามองกันต่อว่าในยุคที่แสนเงินเฟ้อและคู่แข่งในตลาดมีการลดราคาเฉลี่ยลงเกือบ 20% ทิศทางราคาแอปเปิลจะเป็นอย่างไร

วิเคราะห์เหตุผลทําไม Apple แพงเชิงธุรกิจ

มาดูกันต่อเลยว่าหากวิเคราะห์ในเชิงธุรกิจแล้วทำไมผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลจึงราคาค่อนข้างสูงในปัจจุบัน อ่านจบแล้วถึงบางอ้อกันแน่นอน

1. โมเดลธุรกิจของ Apple

สำหรับโมเดลธุรกิจของ Apple มียอดขายหลักจากการขายฮาร์ดแวร์ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ดังเช่น Google หากเปรียบเทียบแล้วรายได้ของกูเกิลเกือบ 80% มาจากการเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการและมีการโฆษณา ยิ่งมีสมาชิกใช้งานเพิ่มสูงขึ้นบริษัททั้งหลายก็จะหันมาซื้อโฆษณามากยิ่งขึ้น ดังนั้นบริการหลายของของทาง Google จึงไม่คิดค่าใช้จ่าย

ในทางกลับกัน Apple มีรายได้กว่า 80% จากการขายฮาร์ดแวร์ เช่น iPhone, Mac, iPad, Airpods เป็นต้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาถูกหั่นลงมามีแนวโน้มที่บริการเก็บข้อมูลอย่าง iCloud, Apple Music และ Apple TV จะเพิ่มสูงขึ้น หากหันมาลดราคาเช่นนี้อาจส่งผลให้กำไรลดลงจากฮาร์ดแวร์ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลัก นอกจากนี้ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ Apple จำเป็นต้องคงราคา มาดูกันต่อเลย

2. เทคโนโลยีและ R&D ของบริษัท

หนึ่งในปัจจัยที่ราคาผลผลิตภัณฑ์ไม่อาจลดลงได้ก็เพราะต้นทุนที่สูง ในโลกอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์นั้นการแข่งขันสูงไม่พอต้นทุนในการผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ยังสูงมากอีกด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์เสื้อผ้าแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จะสามารถทำกำไรได้เทียบเท่ากว่า 250%

ซึ่งนอกจากวัตถุดิบราคาแพงแล้ว Apple ยังทุ่มทุนกับการวิจัยและพัฒนาวิศวกรรมและการออกแบบอีกด้วย ขอยกตัวอย่างการผลิต iPhone 7 ที่มีค่าอุปกรณ์ €207 (≈7,800 บาท) ประกอบด้วยแบตเตอรี กล้อง เซ็นเซอร์และโปรเซสเซอร์ ส่วนน้อยคือวัสดุในการผลิต เช่น อลูมิเนียม โคบอลต์ นิกเกิลและทองแดงที่มีมูลค่าเพียง €1 หรือราว ๆ 40 บาท 

ขั้นตอนต่อไปต้องเสียค่าทดสอบผลิตภัณฑ์ทุกองค์ประกอบที่สำคัญ เช่น อายุการใช้งานแบตเตอรี ความต้านทาน การกันน้ำ แถมลงทุนกับการตลาดทั่วโลกอีกมหาศาล แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะ Apple จำเป็นต้องจ่ายภาษีส่งออกไปต่างประเทศ ดังนั้นอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ขายในไทยจึงมีราคาแพงกว่าที่สหรัฐอเมริกานั่นเอง 

คราวนี้ทุกท่านคงเข้าใจแล้วว่าทําไม Apple แพงหรืออาจคิดใหม่แล้วว่ามันไม่ได้แพงอย่างที่คิด หากคำนวณดูคร่าว ๆ ค่าใช้จ่ายของกระบวนการผลิตดังกล่าวสูงถึง 19,000 – 20000 บาท และทำกำไรได้ประมาณ 7,400 – 10,000 บาท 

3. Apple เป็นแบรนด์ Mass Luxury

นอกจากวัสดุตั้งต้นของ Apple จะตอบคำถามว่าทําไม iPhone แพงแล้ว เรื่องการเป็นแบรนด์ติดตลาดอยู่แล้วก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ จะเรียกว่าหรูหราแต่ใครก็ซื้อได้ก็ไม่ผิด แม้วันนี้ยังไม่มีเงินคุณก็สามารถผ่อนได้ยาวนาน

หากถามว่าทำไมจึงกลายเป็นแบรนด์ Mass Luxury ก็เพราะโทรศัพท์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่น แมคบุ๊ก แอร์พอด สามารถแสดงฐานะของผู้ใช้งานได้ เช่นเดียวกันกับการซื้อรถ หลายคนเลือกรถสปอร์ตที่ทั้งราคาสูงและเปลืองน้ำมันมากกว่าอีโคคาร์ที่ประหยัดมากกว่าเพราะเป็นเสมือนเครื่องประดับแสดงฐานะนั่นเอง

ดังนั้นแนวโน้มของราคาสินค้า Apple จึงไม่น่าลดตัวลงในอนาคตเพราะเมื่อคนทั่วไปเข้าถึงกันหมดตัวผลิตภัณฑ์ก็ไม่พิเศษหรือน่าพิศมัยอีกต่อไป แม้ปัจจุบัน iPhone 14 แพงขึ้นหรือ Macbook แพงที่สุดในตลาดก็ยังขายดีชนิดเทน้ำเทท่าและสร้างกำไรได้มหาศาลอยู่แล้ว 

เจาะลึกประเด็นทําไม Apple แพงพร้อมแถลงไขให้กระจ่าง

เมื่ออ่านจบแล้วคุณคิดว่าผลิตภัณฑ์ Apple ยังแพงอยู่หรือไม่? เมื่อพิจารณาในเชิงธุรกิจแล้วราคาฟังดูค่อนข้างสมเหตุสมผลเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับอัตราค่าจ้างของแรงงานไทยและค่าครองชีพบ้านเราแล้ว ราคาค่อนข้างหูฉี่เลยทีเดียว แต่เชื่อว่าสาวก Apple ต้องยอมจ่ายอย่างแน่นอน!

บทความล่าสุด