เพราะ “เวลาไม่เคยรอใคร” ดังนั้นความตรงต่อเวลาจึงเป็นหนึ่งในนิสัยที่มีความได้เปรียบมากกว่าผู้ที่ไม่ตรงเวลา หลาย ๆ ประเทศอย่างญี่ปุ่นและชาวตะวันตกให้ความสำคัญกับเรื่องเวลาอย่างมาก มาช้าเพียงแค่ 1 นาทีก็ถือว่าเลทแล้ว แต่สำหรับคนไทยบางคนที่มีสไตล์สบาย ๆ มาสายบ้างก็ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามผู้ที่รอย่อมเกิดความรู้สึกไม่ค่อยดีในใจ หากเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ ก็พอรับได้ แต่เมื่อเป็นการนัดที่สำคัญ เช่น นัดลูกค้า นัดประชุมหรือนักสัมภาษณ์งานคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
ดังนั้นมาร่วมฝึกนิสัยให้กลายเป็นคนที่ไปตรงเวลากันเถอะ เพราะประโยชน์ของพฤติกรรมเช่นนี้นั้นมีมากมายทั้งต่อผู้ที่นัดและตัวคุณเอง วันนี้เราจะพามาดูกันว่าข้อดีจะมีอะไรบ้าง ขอบอกเลยว่าเกินคาดแน่นอน
เปิดข้อดีของการตรงต่อเวลา มีค่ามากกว่าที่คุณคิด
สำหรับใครที่นัดบ่ายโมงมาบ่ายสองควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่เพราะหากไม่ตรงต่อเวลากับผู้ที่ไม่ใช้เพื่อนสนิทแล้วอาจส่งผลเสียอย่างยิ่ง สำหรับคำว่าความตรงต่อเวลา ภาษาอังกฤษเรียกว่า ‘Punctuality’ เมื่อมีคำนี้ติดเป็นนิสัยแล้วล่ะก็ ประโยชน์มหาศาลจะตามมาในทันที มาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง
1. แสดงถึงความสุภาพใส่ใจผู้อื่น
มาเริ่มกันที่ข้อดีข้อแรก หากคุณไปตรงเวลาหรือก่อนเวลาเล็กน้อยผู้ที่นัดหมายจะรู้สึกว่าคุณให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าในเวลาของเขา ไม่ใช่เพียงเรื่องงานเท่านั้น จะเป็นการไปเดทหรือทานข้าว ก็ไม่ควรปล่อยให้อีกฝ่ายรอนานโดยเฉพาะครั้งแรก First Impression เท่ากับศูนย์แน่นอน เพราะเพียงแค่นัดหมายยังไม่สามารถทำได้ จะเชื่อมั่นได้อย่างไรและในอนาคตก็คงไม่รู้สึกอยากนัดหมายด้วยเท่าไหร่เพราะเขาอาจจะต้องรอนาน
2. มีความน่าเชื่อถือ
ต่อเนื่องมาจากข้อแรก นอกจากการไปให้ตรงต่อเวลาจะแสดงถึงความสุภาพและใส่ใจแล้ว ยังทำให้ผู้นัดหมายเกิดความรู้สึกดี ว่าคุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง หากเป็นเรื่องการงานก็น่าจะไว้วางใจได้มากกว่าคนที่มาสายอย่างแน่นอน ดังนั้นหากเป็นธุระสำคัญหรือแม้จะเป็นเพื่อน คนสนิทก็ไม่ควรปล่อยให้เขาเสียเวลารอ เนื่องจากตารางเวลาการใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทุกคนต่างมีภารกิจของตัวเองต่อ ดังนั้นมาให้ไว ตรงเวลาทุกครั้ง
3. โอกาสในหน้าที่การงาน
แน่นอนว่าผู้ที่มีความตรงต่อเวลาจะมีโอกาสสูงที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง มากกว่าพนักงานที่มาสายเป็นประจำและทำงานเชื่องช้า เพื่อแสดงความเป็นมืออาชีพและความรับผิดชอบทุกคนไม่ควรมาช้าเด็ดขาด ไม่เพียงแต่พนักงานแต่รวมถึงหัวหน้าเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี ลองจินตนาการหากการประชุมของคุณถูกเลื่อนอยู่บ่อยครั้งเพราะมีคนมาสายแบบนี้นอกจากจะทำให้รู้สึกแย่แล้ว งานยังเดินช้าเพราะไม่เป็นไปตามแผนที่วาง ดังนั้นความวุ่นวายจะตามมาอย่างแน่นอน
4. จัดสรรเวลาได้ดีและมีชีวิตที่เป็นระบบ
เพราะเหตุใดเราจึงเน้นย้ำการตรงต่อเวลาของคนไทยบางกลุ่มน่ะหรือ นั่นก็เพราะมีประโยชน์ต่อทั้งคนรอบข้างและตัวเขาเอง โดยเฉพาะการจัดระเบียบชีวิต หารจัดสรรเวลาในการทำกิจวัตรต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อไปตามเวลานัดหมายและเสร็จสิ้นภารกิจตรงเวลาก็สามารถทำอย่างอื่นได้เต็มประสิทธิภาพ
ยกตัวอย่างเช่น คุณกำลังอยู่ในช่วงใกล้สอบกลางภาคของมหาวิทยาลัยและมีโปรเจ็กต์ที่ต้องทำร่วมกันเป็นกลุ่ม หากคุณมาช้าไปครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงก็จะทำให้งานเดินช้าเข้าไปอีก แถมเพื่อนคุณก็มาช้าเหมือนกันแบบนี้แย่แน่นอนเพราะคุณต้องใช้เวลามากขึ้นและไม่เหลือเวลาสำหรับอ่านหนังสทอเตรียมความพร้อม
5. ลดความประหม่าตื่นเต้น
ในสถานการณ์บางอย่างอาจเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่หากคุณมีความตรงต่อเวลาและไปถึงสถานที่ล่วงหน้าเล็กน้อยจะสามารถคลายความกังวลได้ เพราะเกิดความคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมขึ้นมาหน่อย เช่น การนำเสนอผลงานหรือผลิตภัณฑ์ เมื่อไปถึงสถานที่ช้าหน่อยอาจจะตื่นเต้นและกังวล ใช้อุปกรณ์ไม่คล่องแคล้วและรวนไปหมด ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปรอดีกว่าให้คนอื่นรอแน่นอน
6. สามารถทำงานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
สำหรับในบริษัทหรือองค์กรที่พนักงานมาทำงานอย่างตรงต่อเวลาจะช่วยให้บริษัทขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้รวดเร็วกว่าเพราะในการทำงานทุกฝ่ายและทุกคนต่างก็เป็นฟันเฟืองสำคัญหากหยุดหมุนอาจทำให้งานของคนอื่นชะงักและภาพรวมก็ช้าลงทั้งหมดด้วย
7. อุดรอยรั่วปัญหา 108 จัดการได้ทันเวลา
เพราะเหตุการณ์คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอในชีวิตประจำวัน หากคุณมีความตรงต่อเวลาไปถึงก่อนสักเล็กน้อยเมื่อเกิดสิ่งที่ไม่คิดขึ้นก็สามารถรับมือได้ทันท่วงที เช่น นัดเพื่อนหรือนัดลูกค้านอกสถานที่แต่ดันเกิดอาหารปวดท้องเข้าห้องน้ำ ต้องวิ่งหาสุขาและเสียเวลาคนอื่น ๆ ไปอีก หรือในกรณีที่นัดวิดีโอคอลออนไลน์หรือสอบออนไลน์แต่คุณดันตื่นสายมาพบว่าอุปกรณ์เจ๊ง แบบนี้คงแย่ไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ ดังนั้นหากตรงเวลามาเช็กความพร้อมสักหน่อยก็พอจะหาวิธีแก้ได้บ้าง