5 ไอเดียธุรกิจเล็กๆ สำหรับวัยรุ่น (ลงทุนน้อย)

5 ไอเดียธุรกิจเล็กๆ สำหรับวัยรุ่น (ลงทุนน้อย)


จากเหตุการณ์โควิด-19 ทำให้หลายคนตระหนักเห็นถึงความสำคัญของการมีอาชีพที่ 2 เพราะหากมีแค่งานประจำหรืออาชีพเดียวต่อไปก็ไม่แน่ว่าอาจได้รับผลกระทบเหมือนที่ผ่านมา เดือดร้อนถึงขนาดต้องเอาเงินออมที่เก็บสะสมไว้ยามเกษียณมาใช้

ไอเดียหนึ่งที่น่าสนใจคือการหันมาลงทุนสร้างธุรกิจของตัวเอง และเมื่อพูดถึงธุรกิจก็ต้องมีเงินลงทุน แล้วธุรกิจอะไรที่เหมาะสมสำหรับยุค 4G ในสถานการณ์ที่เงินลงทุนก็มีไม่มากบ้าง วันนี้เราจะมาชวนคุยกัน

5 ไอเดียธุรกิจเล็กๆ สำหรับวัยรุ่น (ลงทุนน้อย)

การลงทุนมีหลายรูปแบบ เช่น ลงทุนในหุ้นหรือสลากออมสิน หรือพวกกองทุนต่างๆ แต่ก็เป็นในรูปแบบของการใช้เงินต่อเงินที่ผู้ลงทุนอาจจะไม่ได้มีความสามารถควบคุมปัจจัยในการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ต้องการได้

ไม่เหมือนกับการทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ที่สามารถลองผิด ลองถูก ได้ใช้ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ ในยุค 4G ที่ใครก็รู้ว่าคือโลกออนไลน์สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก

ดังนั้นหากจะเริ่มทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ควรเริ่มจากอะไรที่ทำบนออนไลน์ได้ เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมาจะได้ไม่เจ็บตัว พอธุรกิจอยู่ตัวแล้วค่อยหันไปเริ่มต้นกับไอเดียใหม่ๆ ก็ยังไม่สาย ธุรกิจที่น่าสนใจในยุค 4G ทำแล้วตรงใจวัยรุ่นมีธุรกิจไหนบ้างไปดูกัน

#1 ธุรกิจ Cloud Kitchen หรือการใช้ครัวร่วมกัน

Cloud Kitchen เป็นไอเดียธุรกิจที่เห็นชัดมากในช่วงที่โควิด-19 ระบาดอย่างหนัก ร้านอาหารถูกสั่งปิด เจ้าของธุรกิจที่มีหน้าร้านอาหารนั่งกินได้แค่อย่างเดียวเจ็บตัวกันเป็นแถบ เพราะสั่งอาหารแบบ Delivery ได้อย่างเดียว ไอเดีย Cloud Kitchen จึงได้ผุดขึ้นมา

ซึ่งอันที่จริงไอเดียนี้เกิดขึ้นมาแล้วและค่อนข้างไปได้ดีในหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย อินเดียหรือประเทศแถบฝั่งยุโรป

สาเหตุที่ธุรกิจ Cloud Kitchen น่าสนใจเพราะมีจุดเด่นตรงที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนในการทำหน้าร้าน แค่บรรดาเหล่าร้านอาหารเช่าพื้นที่ครัวกลางร่วมกัน ความท้าทายของธุรกิจนี้อยู่ที่การหาทำเลครัวกลางที่สามารถส่งอาหาร Delivery กระจายไปสู่ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

Cloud Kitchen เป็นธุรกิจที่เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่สนใจทำธุรกิจร้านอาหาร เพราะเป็นการได้ทดลองก่อนว่าแบรนด์ของธุรกิจจะได้รับการตอบรับมากน้อยแค่ไหนจากผู้บริโภคโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนทำหน้าร้าน

#2 ธุรกิจขายของออนไลน์

ขายของออนไลน์มีมาซักพักแล้ว แต่ในยุคนี้ผมมีทริกที่ทำให้ธุรกิจเราแตกต่างและมีความได้เปรียบ

ไม่ว่าใครมีอะไรก็เอามาขายทางออนไลน์ได้หมด จะเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อาหารแห้ง เครื่องสำอาง อุปกรณ์ IT หรือของตกแต่งบ้านก็เอามาประกาศขายได้ทั้งนั้น

แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไปได้ดี เพราะในเมื่อมีสินค้าให้เลือกมากผู้บริโภคยิ่งมีทางเลือกมาก และการทำธุรกิจบนออนไลน์ ต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้เร็ว

ถึงการขายออนไลน์จะมีข้อดีตรงที่แทบไม่ต้องใช้เงินลงทุนอะไรเลย แค่มีแพล็ตฟอร์มออนไลน์ของตัวเอง อย่างพวก Facebook หรือ Instagram แถมไม่ต้องมีหน้าร้านให้ยุ่งยาก แต่ความท้าทายคือคู่แข่งมีมาก แต่ละเจ้าก็มีไอเดียในการดึงดูดลูกค้าต่างกัน ผู้บริโภคก็ต้องการความรวดเร็วทันใจอีก

หากตอบแชทไม่ทันใจวัยรุ่น หรือสินค้าที่ขายไม่ได้โดดเด่นกว่าเจ้าอื่น มิหนำซ้ำยังตั้งราคาขายสูงกว่าอีกก็มีโอกาสให้สูญเสียรายได้ส่วนนี้ไปได้เหมือนกัน ดังนั้นใครที่จะทำธุรกิจขายของออนไลน์จะต้องมีไอเดียในการขายของที่โดดเด่นและแตกต่าง

ใช้โซเชี่ยลเจาะกลุ่มเป้าหมายให้เป็น เลือกช่องทางออนไลน์ที่โตได้เร็ว เช่น ไลฟ์สด หรือทำ TikTok ธุรกิจเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นจึงสามารถไปต่อได้สวย และ ถ้าเป็นไปได้ให้หาวิธีทำการตลาดแบบวิดีโอบวกการให้ความรู้ด้วย จะเป็นการดึงดูดลูกค้าให้มาชอบธุรกิจเราได้ง่ายขึ้น

#3 ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ

ยุคนี้คือเทรนด์ของสังคมสูงอายุ (Aging Society)  สังเกตได้ว่าเด็กเกิดใหม่น้อยลง ขณะที่อัตราของผู้สูงอายุในบ้านเรามีมากขึ้น หัวใจที่สำคัญของธุรกิจนี้คือ ‘ใจ’ ล้วนๆ

คนที่จะเข้ามาดูแลคนสูงอายุต้องใจเย็น เข้าอกเข้าใจสถานภาพรวมถึงนิสัยของผู้สูงวัยที่อะไรๆ อาจเชื่องช้าไม่ได้ดังใจ หรือบางทีก็วุ่นวายเหลือทน ซึ่งถ้าจะเริ่มทำธุรกิจนี้โดยที่ยังมีเงินลงทุนไม่มากอาจเริ่มจากการบริการดูแลผู้สูงอายุถึงที่บ้านก่อนก็ได้

สิ่งที่ต้องลงทุนในขั้นตอนนี้คือการอบรมพนักงานหรือทีมงานที่คอยบริการตามบ้านให้มีการให้บริการอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนในการดูแลผู้สูงอายุอย่างชัดเจน วิธีนี้ยังแสดงให้ญาติของผู้สูงอายุเห็นถึงศักยภาพของบริการเราก่อนได้ด้วย

เมื่อไหร่ที่พอจะลงทุนเปิดเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุได้ ก็ค่อยๆ ขยายขีดความสามารถในการให้บริการโดยเฉพาะด้านความสะอาดแบบครบวงจรเพื่อสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าสามารถใช้บริการต่อในระยะยาวได้

#4 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพ

จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนในสังคมหันมาใส่ใจและดูแลเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น จากผลวิจัยพบว่า 78% ของผู้บริโภคเริ่มไม่ติดแบรนด์ของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ใช้มาก่อนหน้านี้ เพราะรายได้ลดลง

ทางเลือกใหม่ด้านสุขภาพของผู้บริโภคยุค 4G คือผลิตภัณฑ์เพื่อการรักษาสุขภาพ เช่น พวกผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จึงเป็นช่องทางให้นักลงทุนน้องใหม่สามารถสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของตัวเองเข้ามาสู่ตลาดให้เป็นทางเลือกของผู้บริโภคมากขึ้น

ช่องทางการทำธุรกิจสำหรับคนที่มีเงินลงทุนไม่มากคือการเป็นตัวแทนขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลากหลายแบรนด์บนช่องทางออนไลน์นั่นเอง ส่วนจะขายดีหรือไม่ก็ต้องอาศัยเทคนิคหรือไอเดียการทำการตลาดออนไลน์ให้น่าสนใจและแตกต่างจากคู่แข่ง

ของแถมอย่างหนึ่งก็คือเรื่องสุขภาพ ‘การยศาสตร์’ (ergonomics) ที่รวมถึงวิธีแก้ปัญหา office syndrome ต่างๆ อย่างเก้าอี้โต๊ะแก้อาการปวดหลัง หรือวิธีออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหานี้เฉพาะทางเป็นต้อ

#5 ธุรกิจขายคอร์สออนไลน์

ขายคอร์สเป็นอีกธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก สิ่งที่ต้องใช้คือความรู้ ความสามารถ และความถนัดของตัวเองมาโฆษณาขายบนโลกออนไลน์ผ่านแพล็ตฟอร์มฟรีต่างๆ เช่น Youtube , Facebook หรือ Tiktok

ไอเดียก็คือต้องเปิดสอนหลักสูตรที่กำลังเป็นที่สนใจ เช่น การทำการตลาดออนไลน์ ไม่ก็ต้องเป็นหลักสูตรที่คนเรียนสามารถนำไปใช้ต่อยอดในอาชีพของตัวเองได้

เช่น คอร์สสอนถ่ายภาพ สอนการทำเพจ หรือสอนการเล่นหุ้นเป็นต้น ความท้าทายของธุรกิจนี้คือจะทำอย่างไรให้เรามีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์เพื่อที่จะขายคอร์สมากกว่า

ข้อแนะนำคือให้เริ่มทำวิดีโอให้เป็นก่อน จะทำวิดีโอสอนฟรีๆก่อนก็ได้ พอคุณทำวิดีโอเป็นและมีผู้ติดตามระดับหนึ่งแล้ว จะทำคอร์สขายก็ไม่ใช่เรื่องเกินฝันเกินไป

เอาเป็นว่าอาจจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์กันเล็กน้อย แต่ถ้าทำได้เชื่อเถอะว่ามีคนสนใจสมัครเรียนออนไลน์กับเราแน่นอน

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด