สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนใช้ Canva ในการทำงาน (เชิงพาณิชย์)

สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนใช้ Canva ในการทำงาน (เชิงพาณิชย์)

ในแวดวงการตลาดหรือกราฟิกดีไซน์ คุณอาจจะเคยได้ยินการใช้เว็บไซต์ที่ชื่อว่า Canva มาบ้าง โดยในประเทศไทย มีนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจหลากหลายเจ้าที่เริ่มใช้ Canva ในการทำงานกราฟฟิกเชิงพาณิชย์ โดยถือเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้การทำงานกราฟฟิกเป็นเรื่องง่ายและประหยัดต้นทุนเป็นอย่างมาก

แล้ว Canva คือเครื่องมืออะไรกันแน่ ใช้ฟรีได้ไหม หรือถ้าต้องจ่ายต้องจ่ายเท่าไหร่ หากจะเริ่มต้นใช้ Canva มีข้อควรทราบอะไรบ้าง ผมมีคำตอบทั้งหมดให้คุณในบทความนี้แล้วครับ

Canva คืออะไร? ใช้ทำงานอะไรได้?

Canva คือแพลตฟอร์มออกแบบกราฟฟิกออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานกราฟฟิกได้กว่า 100 รูปแบบด้วยตัวคุณเองอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบกราฟฟิกบน Instagram งานโลโก้ของแบรนด์ หน้าปกนิตยสาร หรือรูปภาพบนบล็อก โดยที่คุณแทบไม่ต้องเสียเงินเลยแม้แต่แดงเดียว

จริงๆแล้ว Canva เป็นโปรแกรมฟรีครับ แต่ก็จะมีหลายฟีเจอร์ที่ถ้าเราไม่จ่ายเงิน เราก็จะใช้งานไม่ได้ สำหรับคนที่อยากอ่านรายละเอียด Canva แบบเสียเงินเพิ่มเติม (เรียกว่า Canva Pro) ลองดูรีวิวของผมได้นะครับ Canva Pro คุ้มแค่ไหน?

คุณสามารถใช้แพลตฟอร์ม Canva ได้อย่างง่ายดาย ด้วยเทมเพลตกราฟฟิกกว่า 250,000 แบบ ทั้งสำหรับรูปภาพ ฟอนต์ และกราฟฟิกรูปแบบต่างๆที่มีให้บนเว็บไซต์อยู่แล้ว พร้อมหน้าจอ interface ในการปรับแต่งรูปกราฟฟิกที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย

Canva ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2012 ในประเทศออสเตรเลีย มีจุดประสงค์เพื่อให้ทุกคนสามารถดีไซน์อะไรก็ได้ที่ตัวเองต้องการแบบไม่ยุ่งยาก โดยในปี 2020 Canva มีผู้ใช้งานต่อเดือนมากกว่า 30 ล้านคน ทั้งนี้ คุณยังสามารถใช้ Canva ได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ ทั้งระบบ iOS และ Android อีกด้วย

เพื่อจะเริ่มต้นใช้ Canva คุณเพียงแค่ต้องสมัครบัญชีโดยใช้อีเมล์ หรือเชื่อมต่อกับบัญชี Facebook หรือบัญชี Google ของคุณเท่านั้นเองครับ เมื่อสมัครใช้งานแล้ว คุณก็จะใช้รับพื้นที่ Cloud Storage สำหรับเก็บผลงานกราฟฟิกของคุณมากถึง 5GB

ใช้ Canva ฟรีเพื่อทำงาน จะติดลิขสิทธิ์ไหม

ขอตอบเลยว่าไม่ติดครับ คุณสามารถใช้งาน Canva ด้วยเทมเพลตต่างๆได้ฟรี (ไม่ติดลิขสิทธิ์ แต่ถ้าถามว่าจะติดปัญหากฏในบริษัทหรือเปล่า ก็ต้องถามแผนกต่างๆอีกทีนะครับ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณจะไม่สามารถใช้ฟังก์ชั่นบางอย่าง หรือเข้าถึงเทมเพลตทั้งหมดได้แบบคนที่จ่ายเงินเพื่อใช้ Canva Pro โดยผู้ที่ใช้ Canva แบบฟรี จะติดข้อจำกัดดังนี้ครับ:

  • เข้าถึงเทมเพลตฟรีได้เพียงบางส่วน ในขณะที่ Canva Pro สามารถเข้าถึงเทมเพลตได้มากถึง 420,000 แบบ พร้อมมีอัพเดตดีไซน์ใหม่ๆทุกวัน
  • เข้าถึงงานกราฟฟิกได้จำกัด ในขณะที่ Canva Pro สามารถเข้าถึงรูปภาพแบบ Stock Photos, วีดีโอ, คลิปเสียง และงานกราฟฟิกรูปแบบต่างๆได้มากถึง 75 ล้านไฟล์ และฟอนต์กว่าอีก 1,000 แบบ
  • ได้รับ Cloud Storage จำกัดที่ 5GB ขณะที่ผู้ใช้งาน Canva Pro จะได้รับ Cloud Storage มากถึง 100GB
  • ไม่ได้รับสิทธิ์การเข้าถึงฟังก์ชั่นเจ๋งๆอีกหลายอย่าง ทั้ง:
    • ฟังก์ชั่นสร้าง Brand Kit ไว้สำหรับอัพโหลดฟอนต์ โลโก้ และ Colour Palette ของแบรนด์โดยเฉพาะ
    • เครื่องมือ Magic Resize ที่ช่วยให้การปรับไซส์รูปภาพในขนาดที่เหมาะที่สุดสำหรับหลากหลายแพลตฟอร์มกลายเป็นเรื่องง่าย
    • ฟังก์ชั่น Transparent Background ที่ทำให้วางรูปแบบโปร่งใสได้ เช่นการวางโลโก้หรือภาพไดคัทต่างๆ
    • การตั้งเวลาโพสต์ลงบนแพลตฟอร์ม Social Media อัตโนมัติทั้ง 7 แพลตฟอร์ม
    • การเซฟเทมเพลตที่เราสร้างขึ้น เพื่อนำไปใช้งานร่วมกับคนอื่นๆในทีม

Canva Pro แบบไม่ติดลิขสิทธิ์ ราคาเท่าไร

คุณสามารถใช้งาน Canva Pro ด้วยค่าใช้จ่ายเพียง US$12.99 หรือประมาณ 380-450 บาทต่อเดือน สำหรับการใช้งานหนึ่งคน แต่ถ้าหากคุณซื้อ Canva Pro สำหรับทีม 5 คน ราคาต่อหัวจะตกอยู่ที่เพียง US$8.19 หรือ 230-300 บาทต่อคนเท่านั้น และราคาจะยิ่งลดลงเรื่อยๆหากซื้อเป็นแพคเกจสำหรับทีมที่ใหญ่ขึ้น หรือซื้อแพคเกจแบบเหมาจ่ายรายปีครับ

ทำให้ถ้าหากสมมุติคุณเหมาจ่าย Canva Pro แบบรายปี ราคาจะอยู่ที่ US$119.99 หรือประมาณเกือบ 4,000 บาทเท่านั้น หากลองเปรียบเทียบกับการจ้างคนทำกราฟฟิกเพื่อเข้ามาออกแบบสื่อรูปแบบต่างๆให้ ค่าจ้างเริ่มต้นอาจอยู่ที่รูปละ 100-500 บาท หากคิดต้นทุนเป็นรายปีก็อาจสูงถึงหลักหมื่นบาทเป็นต้นไป ยังไม่นับรวมเวลาและแรงงานในการพูดคุย บรีฟงาน และตรวจงานอีกด้วยนะครับ

ดังนั้น หากแบรนด์ของคุณอยากได้งานกราฟฟิกที่ดูเป็นมืออาชีพ คุณก็สามารถใช้ Canva Pro เพื่อออกแบบสื่อโฆษณาและคอนเทนต์แบบที่สามารถดึงดูดสายตาลูกค้าได้ด้วยตัวคุณเองเช่นกัน อีกทั้งยังช่วยประหยัดต้นทุนให้ธุรกิจของคุณอีกด้วย

การใช้งานแบบไหน เหมาะกับ Canva Pro

จากฟังก์ชั่นทั้งหมดที่ผมพูดถึง Canva Pro น่าจะเหมาะกับบุคคลต่อไปนี้ครับ:

  • ผู้ที่ต้องผลิตงานกราฟฟิกถี่ๆ บ่อยๆ: เช่นการทำกราฟฟิกทุกอาทิตย์เพื่อนำไปลงเป็นคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งแม้คุณก็สามารถใช้ Canva แบบฟรีทำได้เช่นกัน แต่การออกแบบกราฟฟิกบ่อยๆจะทำให้คุณต้องมีทรัพยากรในงานออกแบบที่เพียงพอเพื่อไม่ให้งานออกแบบออกมาจำเจ ทั้งรูปภาพ,​ เทมเพลตงาน, ฟอนต์ และยังรวมไปถึงพื้นที่เก็บไฟล์งานที่ใหญ่พออีกด้วย (อย่างการเก็บไฟล์ .psd ของ Photoshop ไว้เผื่อแก้งาน แต่ละไฟล์ก็อาจมีขนาดใหญ่หลาย MB แล้ว) ซึ่งหากมีพื้นที่บน Canva ฟรีเพียง 5GB ก็อาจจะไม่เพียงพอในการทำงานระยะยาว
  • ต้องการงานออกแบบเพื่อธุรกิจ: ทั้งงานขายและงานการตลาด ที่เน้นรูปภาพที่สื่อสารกับคนอ่านได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและดึงดูดใจได้เร็วที่สุด Canva Pro ก็มีเทมเพลตกราฟฟิกสำเร็จรูปที่ผ่านการปรู๊ฟมาแล้วว่าดูเป็นมืออาชีพให้คุณเลือกใช้ได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลามาออกแบบกราฟฟิกใหม่ ทำให้หากมองในมุมของธุรกิจแล้ว Canva Pro ถือว่าคุ้มค่าในเรื่องของการประหยัดต้นทุนและช่วยเพิ่มผลกำไรเป็นอย่างมาก
  • ใช้กันเป็นทีม ร่วมงานกันได้ง่าย: ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ หรือธุรกิจทำคนเดียวที่ต้องร่วมงานกับลูกค้า ก็สามารถใช้ Canva Pro เพื่อร่วมงานกับคนอื่นๆในการแก้ไขงานกราฟฟิกได้อย่างง่ายดาย
  • สื่อสารธุรกิจเก่ง แต่ไม่ถนัดใช้เครื่องมือกราฟฟิก: โดยพื้นฐาน คนที่ทำงานด้านการตลาด ธุรกิจ หรืองานขาย มักมีภาพในหัวอยู่แล้วว่าต้องการให้ภาพกราฟฟิกสื่อสารกับลูกค้าออกมาเป็นประมาณไหน แต่ก็มักติดที่การใช้โปรแกรมออกแบบกราฟฟิกต่างๆเป็นเรื่องยาก ทั้งโปรแกรม Adobe Photoshop หรือ Adobe Illustrator ที่คุณต้องเริ่มออกแบบจากศูนย์ด้วยตัวคุณเอง แต่ Canva Pro จะเข้ามาอุดช่องว่างการทำงานตรงนี้ และทำให้คุณสามารถสื่อสารทางธุรกิจได้ตรงใจตามต้องการแบบไม่ยุ่งยากเลย

Canva Pro ใครๆก็เป็นนักออกแบบได้

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว Canva Pro ก็น่าจะเป็นตัวเลือกการทำงานกราฟฟิกที่คุ้มค่าแก่การลงทุน ที่จะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจของคุณผ่านงานออกแบบที่เป็นมืออาชีพ ง่ายเพียงคลิก หรือถ้าหากคุณยังไม่แน่ใจว่า Canva เหมาะกับธุรกิจของคุณจริงหรือไม่ ผมแนะนำให้ลองสมัครใช้ Canva ฟรีดูก่อนก็ได้ครับ หรือ จะลองสมัคร Canva Pro แบบช่วงทดลองฟรี 30 วันดูก็ได้ครับ หรือหากใครอยากได้รีวิวจากการใช้งานจริง สามารถอ่านรีวิว Canva Pro จากผมได้ครับ ผมใช้มาหลายเดือนแล้ว แนะนำมากๆ

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด