ขอรีวิว Canva Pro แบบพูดตรงๆ | Canva Pro คุ้มแค่ไหน?

ขอรีวิว Canva Pro แบบพูดตรงๆ | Canva Pro คุ้มแค่ไหน?

ทุกวันนี้ผมคิดว่าคนไทยหลายคนก็น่าจะรู้จักเว็บไซต์และ Application Canva กันมากแล้ว ข้อดีของ App นี้ก็คือใช้งานได้ง่าย แถมฟรีอีกด้วย อย่างไรก็ตามฟิเจอร์ต่างๆที่ทำให้ชีวิตการออกแบบของเราสบายขึ้นก็ต้องแลกมาด้วยการจ่ายค่าสมาชิกเล็กน้อยในชื่อของ Canva Pro

บทความนี้ผมจะมาวิเคราะห์กันว่าจากที่ผมใช้ Canva ธรรมดามาเป็นปีและการเปลี่ยนเป็น Canva Pro นั้น ผมรู้สึกอย่างไรและผมคิดว่า Canva Pro เหมาะกับใครและคุ้มแค่ไหน มาลองดูกันเลยครับ

Canva Pro คืออะไร

Canva Pro คือรูปแบบการเป็นสมาชิกแบบเสียค่าใช้จ่ายของ Canva ในราคา US$12.95 หรือประมาณ 400 บาท ต่อเดือน ซึ่งมีตัวเลือกทางการออกแบบมากขึ้น เช่น รูปภาพ และ การจัดเก็บข้อมูลที่มากกว่า Canva Pro สามารถใช้งานได้มากถึง 5 คน เหมาะสำหรับการใช้งานแบบธุรกิจหรือสำหรับมืออาชีพ

ก่อนอื่นเลย ผมขอบอกว่า เราสามารถทดลองใช้งาน Canva Pro แบบฟรีๆได้หนึ่งเดือน หากคุณกำลังสงสัยว่า Canva Pro ดีไหม คุ้มหรือเปล่า ผมแนะนำให้โหลดเล่นเองได้เลยครับ ลิงค์อยู่ที่นี่ ของฟรีและดีใครๆก็ชอบ แต่ถ้าคุณยังอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ ก็อ่านต่อให้จบนะครับ บทความนี้ผมลงรายละเอียดไว้เยอะอยู่

พูดง่ายๆก็คือ Canva ธรรมดาที่เราใช้ออกแบบภาพต่างๆทั่วไปแบบฟรีๆนั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น เซฟภาพออกมาได้บางไฟล์ หรือ มีภาพให้เราใช้แบบจำกัดทำให้อาจเกิดการใช้ซ้ำได้ถ้าเราใช้งานเยอะๆ ในส่วนนี้เดี๋ยวผมจะอธิบายในหัวข้อถัดไปเรื่องความแตกต่างของฟิเจอร์ทั้งหมดอีกที

จริงๆแล้ว Canva แบบฟรีก็เป็นสิ่งที่ใช้ง่ายมากๆแล้ว แถมรูปยังออกมาสวยอีกด้วย ขนาดคนอย่างผมที่ไม่ค่อยมีทักษะด้านการออกแบบเท่าไรก็ยังสามารถใช้ Canva ทำรูปสวยๆออกมาได้ในเวลาแป๊ปเดียว

แต่ข้อจำกัดในการใช้งานแบบฟรี ๆ ก็มีเยอะอยู่ เช่น ภาพที่เราใช้ได้มีจำกัด หากเราใช้งาน Canva เรื่อยๆทั้งปี เราก็จะรู้สึกได้ว่าตัวเลือกในการออกแบบของเราไม่ได้มีเยอะ ในส่วนนี้หากเราใช้เพื่อทำงานหรือทำธุรกิจ เราก็อาจยอมเสียเงินเล็กน้อย 30 บาท เพื่อซื้อภาพเป็นครั้งคราวได้

อีกหนึ่งปัญหาสำหรับคนไทยก็คือเรื่องของ Font ที่ Canva นั้นมีจำกัดมากในภาษาไทย ในส่วนนี้หากเราไม่ได้ใช้งาน Canva Pro เราก็ไม่สามารถใช้งานที่หลากหลายได้ คนที่ทำเพจ Facebook ทำโฆษณา หรือออกแบบปก YouTube บ่อยๆก็คงเข้าใจดี

ในบทความนี้ผมจะวิเคราะห์เพิ่มเติมอย่างแน่นอนว่า Canva Pro นั้นดีและคุ้มแค่ไหน แต่โดยรวมแล้ว หากคุณเป็นคนที่ใช้งาน Canva เรื่อยๆทั้งปี หรือเป็นคนที่ชอบการออกแบบอะไรสวยๆแบบง่ายๆ (และประหยัดเวลา) ผมก็คิดว่า Canva Pro เป็นตัวเลือกที่น่าพึงพอใจมาก

Canva Pro ราคากี่บาท

Canva Pro มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ US$12.95 หรือประมาณ 400 บาทต่อเดือนสำหรับผู้ใช้งานมากถึง 5 คน หากเรามีผู้ใช้งานครบจำนวน ค่าใช้จ่ายของ Canva Pro ต่อผู้ใช้งานจะอยู่ที่ประมาณ 80 บาทต่อคนต่อเดือน

หากคิดเป็นมูลค่าต่อปีแล้ว Canva Pro จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 4800 บาท แต่ถ้าเราจ่ายทีเดียวเพื่อใช้ทั้งปี ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะอยู่ที่ 3600-3800 บาท นับว่าคุ้มมากหากคุณใช้ Canva Pro ไปซักพักแล้วรู้สึกว่าคุณสามารถใช้ได้ไปเรื่อยๆทั้งปี

เราจะเห็นได้ว่า App หรือโปรแกรมอื่นๆนั้นมีราคาใกล้เคียงกับ Canva มากครับ ซึ่งหากคุณชอบการใช้งานที่ง่ายกว่าเจ้าอื่นของ Canva นั้น ราคาไม่กี่ร้อยบาทต่อเดือนก็ถือว่าคุ้มมากแล้ว แต่ความคุ้มค่าจริงๆจะอยู่ที่เวลาเรามีผู้ใช้งานหลายคน เพราะหนึ่งบัญชีสามารถแบ่งกันใช้ได้ถึง 5 คน ยิ่งเรามีเพื่อนเยอะ ก็ยิ่งคุ้ม

อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องเน้นย้ำก็คือ หากคุณใช้ Canva เรื่อยๆทั้งปี ค่าใช้จ่ายเท่านี้ก็ไม่ได้แพงเท่าไร ยิ่งถ้าคุณใช้ในการทำงาน ทำธุรกิจ หรือในอาชีพของคุณ เราก็จะเห็นว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นการลงทุนที่ปันผลได้ดี

ในส่วนนี้ผมอยากจะลองเปรียบเทียบตัวเลือกอื่นๆที่เราใช้กันบ่อยๆในการออกแบบให้ละกันนะครับ

Adobe Photoshop / Powerpoint – สำหรับคนส่วนมากโปรแกรมเหล่านี้ก็จะอยู่ในคอมอยู่แล้ว ข้อดีก็คือเราสามารถทำอะไรได้เยอะมากถ้าเราใช้เป็น ใช้ได้เยอะกว่า Canva ด้วยซ้ำ แต่ข้อเสียก็คือใช้เวลาเรียนรู้นาน แถมถ้าเราไม่ได้มีโปรแกรมค่าใช้จ่ายก็อยู่ที่ประมาณ 4-5000 บาทต่อปี แถมใช้งานบนมือถือได้ยากอีก

PicMonkey – เป็นเว็บออนไลน์สำหรับการออกแบบเช่นกัน ใช้ได้ง่ายเหมือน Canva และไม่มีแบบฟรีให้เราใช้งาน (แต่สามารถทดลองใช้ฟรีได้ชั่วคราว) ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า Canva ยังดีกว่า แต่ PicMonkey ก็มีข้อดีตรงที่ใช้ง่ายกว่าในมือถือ

Pixlr Perfect – เป็นแอพมือถือเพื่อการออกแบบและแต่งภาพ ผมคิดว่าแอพนี้แต่งภาพได้เยอะมาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายต่อการโหลดมาใช้หนึ่งครั้ง (คิดต่อปีแล้วถูกกว่า Canva) หากคุณใช้งานบนมือถือบ่อยๆ และต้องแต่งภาพเยอะๆ ผมก็คิดว่าเป็นตัวเลือกที่ดี

จริงๆ ตัวเลือกด้านการออกแบบบนอินเตอร์เน็ตยังมีอีกเยอะนะครับ แต่เราก็ต้องไปเลือกกันอีกทีว่าแบบไหนที่เหมาะกับวิธีการใช้งานและระดับทักษะของเรา

Canva Pro ต่างจากปกติ อย่างไรบ้าง

ผมได้เกริ่นมามากแล้วว่า Canva Pro นั้นมีฟิเจอร์และของแถมมากกว่า Canva แบบฟรีเยอะมาก ในส่วนนี้ผมได้เรียบเรียงมาเป็นแต่ละหัวข้อดังนี้นะครับ

  • 75 ล้านภาพและ Element เพื่อการออกแบบที่หลากหลาย
  • Font มากกว่า 1000 ตัวเลือก (ส่วนมากภาษาอังกฤษ)
  • สามารถ Upload Font ของตัวเองได้ (เหมาะกับภาษาไทย)
  • Animation ฟรี
  • Transparent Background ภาพแบบโปร่งใส – เป็นฟิเจอร์ที่ดีมากๆ และทำให้ผมหงุดหงิดมากเพราะ Canva ธรรมดาไม่มี ส่วนนี้เหมาะสำหรับการขายของหรือการทำสื่อการตลาดต่างๆ ที่คุณสามารถใช้ logo หรือภาพผลิตภัณฑ์เดิมๆซ้ำๆได้

นอกจากนั้น Canva Pro ก็ยังมีข้อดีเรื่องการใช้งานที่เหนือจากความสบายในการออกแบบด้วย ดังนี้

  • Magic Resize – เป็นฟิเจอร์ที่ทำให้เราสามารถย่อและขยายขนาดภาพได้ เหมาะสำหรับการออกแบบภาพหนึ่งภาพสำหรับสื่อหลายอย่าง เช่น ออกแบบโฆษณาหลายขนาด หรือออกแบบ Infographic บนทั้ง Facebook และ Pinterest ในขนาดที่ดีที่สุดของทั้งสองแพลตฟอร์ม
  • การเซฟ Template เพื่อให้คนอื่นร่วมใช้งานได้ง่ายขึ้น
  • จัดเก็บข้อมูลออนไลน์ได้ 100GB 
  • การตั้งเวลาโพสลงโซเชียลโอัตโนมัติใน 7 แพลตฟอร์ม

หากถามว่าคุ้มไหม เราก็ต้องมาดูกันว่าในแต่ละวันคุณใช้เวลากับการหาภาพ Stock Photo เยอะแค่ไหน คุณใช้เวลาออกแบบบ่อยหรือเปล่า และคุณใช้งานร่วมกันคนอื่นๆมากแค่ไหน

งานแบบไหนเหมาะกับ Canva Pro

ในส่วนนี้ผมคิดว่า Canva Pro น่าจะเหมาะกับคนดังนี้ครับ

คุณใช้งาน Canva ทุกอาทิตย์ – ในส่วนนี้คุณจะเห็นได้ทันทีว่า Canva Pro มีค่ามาก เพราะภาพที่คุณใช้ก็จะเริ่มซ้ำซาก แถมถ้าคุณใช้เรื่อยๆจริงๆ คุณก็จะพบว่าการจัดเก็บข้อมูล 5GB ที่ Canva แบบฟรีให้มานั้นเริ่มจะไม่พอแล้ว ทำให้คุณต้องกลับไปลบผลงานเก่าๆของคุณเรื่อยๆ หากเราใช้เรื่อยๆและใช้ทำงานหาเงิน ในส่วนนี้การตัดสินใจซื้อ Canva Pro ก็เป็นเรื่องง่ายมาก

คุณทำงานกับคนหรือองค์กรอื่น – หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ ทำงานด้านออกแบบ หรือเป็นคนทำธุรกิจ คุณก็คงไม่ได้ทำการออกแบบคนเดียว เราอาจจะต้องแบ่งกับลูกค้า แบ่งกับคู่ค้าคนอื่น หรือแบ่งกับพนักงานแผนกอื่น ในส่วนนี้การมีระบบ Canva Pro ให้หลายๆคนเข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขงานเล็กๆน้อยๆได้ ก็จะทำให้การทำงานเราเร็วขึ้นมาก 

คุณคิดว่า Photoshop ใช้งานยากเกินไป – จริงๆแล้ว Photoshop นั้นทำได้ทุกอย่างที่ Canva ทำได้ถ้าคุณใช้เป็น (แถมเดี๋ยวนี้ราคาไม่แพงด้วย) แต่บอกตามตรง Photoshop นั้นใช้งานยากมาก แถมยังใช้งานไม่ค่อยสะดวกบนมือถือ และก็ไม่ได้มีภาพหรือ Element ฟรีต่างๆให้เราใช้อีก แปลว่าเราต้องเสียเงินเพิ่ม ซื้อภาพ Stock Photo ใหม่ในการสร้างผลงาน 

ผมขอพูดเรื่องโปรแกรมออกแบบอย่างอื่นหน่อย ไม่ว่าจะเป็น Photoshop หรือแอพออกแบบภาพอื่นๆในมือถือ ส่วนตัวแล้วผมมองว่าโปรแกรมเหล่านี้เหมาะสำหรับงานทำคนเดียว เช่น งานฟรีแลนซ์ทำแล้วจบงานเลย ไม่ต้องแก้หลายรอบ หรือเหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจคนเดียวที่ทำทุกอย่าง แต่เมื่อไรที่เราอยากจะทำงานให้ได้ ‘เม็ดเงิน’ มากขึ้น เราก็ต้องมีการจ้างคนเพิ่ม 

และเพื่อที่จะทำให้งานเราสะดวกขึ้น ทำงานใด้มากขึ้น ทำงานกับคนอื่นๆได้ง่ายขึ้น Canva Pro ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดี

โดยรวมแล้ว ถ้าคุณต้องทำเพจ Facebook ทำโฆษณาต่างๆ ทำสื่อภาพในช่องทางอื่นเยอะๆ หรือจะขายของใน Shopee/Lazada ผมมองว่า Canva Pro ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากเลย

สรุปแล้ว คุณควรใช้ Canva Pro หรือเปล่า?

ผมแนะนำว่าหากคุณเป็นคนที่ต้องออกแบบอะไรใหม่ๆทุกอาทิตย์ และใช้โปรแกรมเทพๆแบบ Photoshop ไม่เป็น Canva Pro ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามหากคุณยังลังเลอยู่ ผมแนะนำให้ทำตามสองขั้นตอนนี้

#1 ลองใช้ Canva ธรรมดาซักพักก่อน – คนที่อ่านบทความนี้ก็คงคุ้นเคยกับ Canva บ้างแล้ว แต่หากเราไม่มั่นใจว่า Canva Pro จะเหมาะกับเรา เราก็ต้องเล่น Canva ให้คุ้นมือก่อน ในความคิดผม หากคุณเล่น Canva ธรรมดาไปจนรู้สึกว่าไปต่อไม่ได้ หรือรู้สึกติดขัดเรื่อยเล็กๆน้อยๆหลายครั้ง (อาจจะใช้เวลาหลายเดือนหน่อย) คุณก็ค่อยพิจารณาขั้นตอนที่ 2 

#2 สมัคร Canva Pro ใช้ฟรีหนึ่งเดือน – เราสามารถสมัคร Canva Pro แบบใช้ฟรีได้หนึ่งเดือน (ลิงค์ที่นี่) หมายความว่าแทนที่เราจะต้องอ่านรีวิวว่า Canva Pro ดีหรือไม่ดีเราก็สามารถทดสอบและทดลองด้วยตัวเองได้เลย หากคุณอ่านมาขนาดนี้และยังลังเลอยู่ ผมก็แนะนำให้ลองสมัครแบบใช้ฟรีดูก่อน หากคุณใช้งานแล้วดีคุณก็สามารถจัดสินใจใช้ต่อ หรือหากไม่ชอบก็ยกเลิกสมาชิกไปเลยก็ได้

สุดท้ายนี้เกี่ยวกับ Canva Pro

ผมขอสรุปว่า Canva Pro นั้นใช้ง่ายและคุ้มเงินก็จริง อย่างไรก็ตามหากชีวิตการทำงานของคุณไม่ได้หมุนอยู่รอบการออกแบบหรือการสร้างสื่อโฆษณาต่างๆ ผมก็แนะนำให้คุณใช้ Canva แบบฟรีๆ หรือทำการจ้างพนักงานหรือฟรีแลนซ์ที่สามารถช่วยทดแทนเวลาหรือทักษะของคุณได้แทน

พูดง่ายๆครับ Canva เป็นเครื่องมือในการช่วยออกแบบ แต่ก็ไม่ใช่ทางออกเดียวของปัญหาทุกอย่างของคุณด้านการออกแบบ ผมมองว่าปัญหาทุกอย่างมีทางออกทางแก้หลายแบบ และถึงแม้ว่า Canva จะเป็นเครื่องมือที่คุ้มราคาและใช้ง่ายมากๆ แต่หากเราต้องใช้ทุกวัน ทุกอาทิตย์ เพื่อหาเงินจริงๆ การที่เราจะหาตัวเลือกอื่นๆเพื่อเปรียบเทียบหรือเพื่อปรับให้เข้ากับวิธีการทำงานของเราก็เป็นเรื่องที่ดี

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด