ดาบสองคมของการ ‘แจกของแถม’ ชวนเช็กข้อดีข้อเสียก่อนลงมือ!

ดาบสองคมของการ ‘แจกของแถม’ ชวนเช็กข้อดีข้อเสียก่อนลงมือ!

ช่วงนี้ผมซื้อของออนไลน์บ่อยขึ้นมาก หลายๆครั้งร้านต่างๆก็จะ ‘แถมของ’ มาให้ เช่น ซื้อเคสมือถือ แถมสติกเกอร์ หรือ ซื้อของใช้ในบ้านแถมกระดาษทิชชู่ บางอย่างเราได้มาก็รู้สึกฟินดี แต่บางอย่างผมก็คิดว่าได้มาแล้วรกห้องทำงานมาก จะทิ้งก็เสียดาย

วันนี้เราจะพาทุกท่านมาเรียนรู้ข้อดีและข้อเสียของการโปรโมตแบบแจกของพรีเมียมแบบเจาะลึก หากพร้อมแล้วเตรียมปากกาขึ้นมาจดและชั่งน้ำหนักได้เลยว่าสินค้าหรือบริการของคุณเหมาะกับการตลาดประเภทนี้หรือไม่

ชวนพิจารณา 4 ข้อดีของการแจกของแถมที่ผู้ประกอบการไม่ควรพลาด!

มาเริ่มต้นกันที่แง่ดีของการแจกของแถมกันก่อน ซึ่งเราได้รวบรวมทุกแง่มุมของการตลาดประเภทนี้มาไว้ให้คุณแล้ว 5 ประการ สำหรับใครที่สงสัยคำว่าของแถม ภาษาอังกฤษต้องเขียนอย่างไร คำศัพท์นี้ง่าย ๆ ได้ใช้กันบ่อยแน่นอน นั่นก็คือ ‘freebies’ มาดูกันดีกว่าว่าฟรีบีส์จะมีดีเพียงใด

1. การเพิ่ม ‘Brand Awareness’

สำหรับประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนข้อแรกของการแจกของแถมก็คือ การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ หากคุณแจกสินค้าพรีเมียมที่มีความน่าสนใจจะดึงดูดผู้คนได้เป็นอย่างดี บางครั้งอาจจะเห็นผลิตภัณฑ์ของคุณผ่านหน้าร้านหรือหน้าฟีดโซเชียลมีเดียก็อยากหยุดมอง และหากถูกใจก็จะสามารถเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย อย่างเช่นของแถม Amazon ล่าสุดที่เป็นแก้วน้ำ x LineFriends ก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

หากถามว่า ‘Brand Awareness’ สำคัญอย่างไร ขอบอกเลยว่าเป็นการสื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างความไว้วางใจด้วยภาพลักษณ์ที่ดี แถมกลุ่มเป้าหมายยังนึกถึงสินค้าของคุณอยู่เสมอ โดยบริษัทที่ประสบความสำเร็จระกับโลกก็ล้วนแล้วแต่เริ่มต้นจากการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ทั้งสิ้น

2. Value Adding

สำหรับจุดเด่นของต่อมาของแบรนด์ที่ทำของแถมก็คือการเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์เอง เพราะสินค้าพรีเมียมทั้งหลายที่แจกจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี บ่งบอกตัวตนและมีคุณภาพจะทำให้มีคุณค่าและน่าจับตามองมากยิ่งขึ้น

3. การตลาดแบบ ‘Words of Mouth’

ของแถมที่คุณแจกอาจทำให้เกิดการบอกต่อระหว่างญาติมิตรเพื่อนสนิท ยกตัวอย่างเช่น แก้วเก็บความเย็น หากมีคนนำไปใช้ในที่ทำงานและเพื่อนร่วมงานมาสะดุดตาก็จะมีการถามและบอกต่อสินค้าพรีเมียม โดยพลังของการบอกปากต่อปากนั้นสูงมากเพราะจะทำให้คนหันมาซื้อง่ายขึ้น ทั้งนี้นักการตลาดทั้งหลายอาจทำควบคู่กับ ‘Referral Program’ แคมเปญชวนเพื่อนแล้วรับสิทธิประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดหรือบริการฟรีก็ดี ยกตัวอย่างเช่น ชวนเพื่อนมาสมัครสมาชิกร้านบิวตี้รับฟรีกระเป๋าเครื่องสำอาง เป็นต้น

4. ของแถมเผื่อกรณีฉุกเฉิน

ประโยชน์อีกหนึ่งข้อของการแจกของแถม จะช่วยให้คุณเอาตัวรอดในสถานการณ์วิกฤติได้ เช่น การขนส่งสินค้าที่ช้ากว่าปกติ การส่งผิดออร์เดอร์หรือตกหล่นที่ทำให้ลูกค้าไม่พึงพอใจและตำหนิได้ หากคุณมีของสมนาคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการไถ่โทษพร้อมกับน้อมรับความผิดจะแก้วิกฤตให้เป็นโอกาสได้ หรือพ่อค้าแม่ขายออนไลน์อาจจะมอบของแถมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปให้ทุกออร์เดอร์สร้างความโดดเด่นและแสดงความใส่ใจของร้านค้าก็เป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว

เช็ก 4 ข้อเสียของการตลาดแบบแจกของแถม

แน่นอนว่าการตลาดประเภทนี้มีดีหลายประการ แต่ในทางตรงกันข้ามหากไม่พึงระวังจะส่งผลเสียต่อแบรนด์ได้ เราจึงรวบรวมข้อด้อย 4 ประการมาให้คุณพิจารณาก่อนทำการตลาดแบบแจกของแถม

1. การโปรโมตโดยใช้ของแถมบ่อย

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจัดโปรโมชันลดแลกแจกแถมเกินพอดีจะทำให้กลุ่มลูกค้ารู้สึกยึดติดกับของแถม เพราะช่วงไหนที่ไม่มีสินค้าพรีเมียมมามอบให้ คนก็ไม่อยากซื้อและรอจับจ่ายในช่วงการจัดโปรโมชันเท่านั้น ดังนั้นนักการตลาดจึงต้องวางแผนอย่างรัดกุมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเช่นนี้

2. สินค้าไฮเอนด์อาจถูกลดคุณค่า

หากสอนค้าของคุณเป็นกลุ่มพรีเมียมอยู่แล้วการจัดโปรประเภทนี้บ่อยจะด้อยคุณค่าของแบรนด์ได้ เพราะบางคนอาจมองว่าสินค้าเหล่านั้นไม่ได้มีคุณภาพ ส่งผลเสียในระยะยาว หากต้องการโปรโมตจริง ๆ ต้องมีความสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่นของแถม Dior ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จ เพิ่มทั้งยอดขายและไม่ลดคุณค่าน่าศึกษาเป็นกรณีตัวอย่าง

3. การแข่งขันสูง

แน่นอนว่าการแจกสินค้าก็มีคู่แข่งสูงไม่น้อย หากคุณทำของแถมแล้วไม่ดีเท่ากับคู่แข่งก็อาจถูกมองข้ามไปได้และไม่ประสบความสำเร็จในการทำการตลาดครั้งนั้น ดังนั้นต้องศึกษาตลาดกันให้ดีก่อน

4. กำไรและส่วนแบ่งทางการตลาด

สำหรับผลเสียข้อสุดท้ายจากการกระตุ้นยอดขายประเภทนี้ก็คือกำไรที่ลดลง เพราะคุณต้องผลิตสินค้าพรีเมียมขึ้นและพยายามเพิ่มยอดขายเพื่อดึงกำไรส่วนนั้นกลับมา โดยบางแบรนด์ก็อาจปรับราคาสินค้าให้สูงขึ้น

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด