รู้หรือไม่ว่าธุรกิจที่ประสบความสำเร็จกับล้มเหลวมาจากปัจจัยใดบ้าง แน่นอนว่าหนึ่งในคำตอบนั้นต้องมี ‘แนวคิด เจ้าของธุรกิจ’ หรือ Entrepreneur Mindset แน่นอน
ลองนึกภาพว่าผู้ที่มีวิธีการคิดที่ดีจะสามารถตั้งรับกับปัญหาและจัดการได้ดีกว่าคนอื่นขนาดไหน ซึ่งนำมาสู่ความสำเร็จของธุรกิจได้ไม่ยากเลย วันนี้เราจะพาทุกท่านมาเรียนรู้ว่า Mindset แบบไหนที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่วาดฝันไว้ หากพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย
แนวคิด เจ้าของธุรกิจ (Mindset) คืออะไร มาทำความรู้จักกันก่อน
สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจความหมายของแนวคิด เจ้าของธุรกิจ (Mindset) เราขออธิบายง่าย ๆ ว่าเป็นหนึ่งในความเชื่อที่สามารถส่งผลต่อการมองโลก วิธีคิดและการแสดงความรู้สึก การแก้ไขปัญหาในแต่ละสถานการณ์ ฟังดูแล้วจึงไม่น่าแปลกใจเลยใช่ไหมล่ะที่นักธุรกิจให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และต้องการพัฒนาอยู่เสมอ
ยกตัวอย่างประโยชน์ของวิธีคิดที่ดีในสถานการณ์โควิด-19 ที่ใคร ๆ ต่างต้องปรับตัวและเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ผู้ประกอบการที่มองโลกในแง่ดีพร้อมเปลี่ยนแปลง คิดและลงมือทำอย่างรวดเร็วใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบ้างจะช่วยให้การดำเนินกิจการเป็นไปอย่างราบรื่นนั่นเอง
พาส่อง! 5 Entrepreneur Mindset ที่ต้องมีก่อนเริ่มธุรกิจในยุค 2023
สำหรับใครที่มีคำถามในใจว่าทําธุรกิจ เริ่มยังไง เราจะพามาดูส่วนประกอบที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าความรู้และความสามารถในการบริหาร ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด มาดูกันเลยว่าจะมี Mindset แบบไหนบ้าง
1. Growth Mindset
มาเริ่มกันที่ข้อแรก เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างแน่นอน แล้ว ‘Growth Mindset’ เป็นอย่างไร ขอเฉลยเลยว่าเป็นแนวคิดที่เชื่อว่าตนเองมีความสามารถในการพัฒนาศักยภาพหากตั้งใจลงมือทำจนเชี่ยวชาญ ผู้ที่มีแนวคิด เจ้าของธุรกิจเช่นนี้จะมีความพยายามสูงไม่หนีปัญหาและมองว่าเป็นส่วนช่วยให้เติบโต
ดังนั้นเมื่อทำธุรกิจหากประสบปัญหาใหญ่หรือขาดทุนก็จะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ในทางกลับกันจะมีสติและเรียนรู้จากปัญหา สำหรับวิธีคิดเหล่านี้ถามว่าสามารถสร้างได้ไหม บอกเลยว่าได้! อาจเริ่มจากการวางแผนรายวัน จับปัญหามาวิเคราะห์และตั้งคำถามเพื่อให้คุณเป็นคนที่เก่งและมีศักยภาพกว่าเดิม
2. Resilient Mindset
สำหรับหลักสูตร เจ้าของธุรกิจข้อต่อมาที่อยากแนะนำในการพัฒนาวิธีคิดก็คือ ‘Resilient Mindset’ หรือการยืดหยุ่นทางความคิดสามารถฟื้นตัวจากความล้มเหลวได้อย่างรวดเร็ว ใครที่ไม่ได้ทำธุรกิจก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ โดยใครที่มี Resilient Mindset จะมีความรู้สึกแง่บวกต่อชีวิตของตัวเองเพราะเข้าใจตัวเองและสิ่งรอบข้างอย่างชัดเจน สามารถจัดการความเครียดได้เองและมองการณ์ไกลในเรื่องงาน/ความสัมพันธ์
เพราะนักธุรกิจอาจมีความเครียดเข้ามาอยู่เสมอ หากไม่สามารถกำจัดได้ธุรกิจก็อาจไม่ได้ไปต่อ ดังนั้นจงฝึกพัฒนาไว้ โดนอาจจะทำสมาธิแล้วพิจารณาสถานการณ์ ตัวเองและวิธีการจัดการปัญหาหากเกิดขึ้นอีกครั้งจะต้องทำยังไง เพื่อพร้อมต่อความท้าทายที่จะเข้ามา
3. Risk Management Mindset
สำหรับข้อต่อมาคงผ่านหูผ่านตากันมาบ้างใช่ไหม เพราะ Risk Management ก็คือการบริหารจัดการความเสี่ยงนั่นเอง หากคิดไวทำไวไปหน่อยก็อาจประสบกับผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจใช่ไหมล่ะ สำหรับคนที่มี Risk Management Mindset จะสามารถตัดสินใจได้เป็นอย่างดีเพราะมองเห็นความเสี่ยงของแต่ละด้านอย่างชัดเจน มีมุมมองหลากหลาย หากถอดบทสัมภาษณ์ เจ้าของธุรกิจเก่ง ๆ ระดับโลกจะพบแนวคิดนี้หลายคนแน่นอน
ตัวอย่างของแนวคิด เจ้าของธุรกิจประเภทนี้ เช่น การขยายสาขาที่อาจมีคอสท์สูงเกินไปจึงใช้วิธีการกระจายสินค้าจากจุดหนึ่งเพื่อลดค่าใช้จ่าย เป็นต้น ซึ่งในปี 2023 มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาด้านนี้เพราะความเสี่ยงหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ สำหรับวิธีการคุณอาจฝึกจากการแขวนการตัดสินใจ ไม่หุนหันพลันแล่น คิดวิธีกำจัดความเสี่ยงทั้งหมดก่อนลงมือ
4. Creative Mindset
คำถามทําธุรกิจอะไรดี 2565 จะหมดไปเมื่อคุณมี ‘Creative Mindset’ เป็นผู้ที่ชอบริเริ่มสร้างนวัตกรรมหรือสิ่งใหม่ ๆ จากความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดจากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและสร้างผลลัพธ์ที่ดีและสดใหม่เกินใคร
คุณอาจจะเริ่มต้นจากการนำประสบการณ์มาประกอบกับความครีเอทีฟเพื่อรังสรรค์การดำเนินการแบบใหม่จากเดิมที่เคย เช่น จากที่เคยขายแต่ออนไซต์หันมาใช้ช่องทางออนไลน์ให้เกิดประโยชน์และดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เพราะใช้งบน้อยมากแถมมีประสิทธิภาพมากที่สุดในยุคนี้ หรือในช่วงโควิดที่ไม่มีใครสามารถออกไปสังสรรค์ร้านบาร์ได้ก็เกิดระบบออนไลน์ ‘Drinks on me’ ขึ้นให้คุณได้รู้จักคนแปลกหน้าแลกเปลี่ยนพูดคุยและสร้างรายได้ในช่วงวิกฤติ
5. Abundant Mentality
มาปิดท้ายกันด้วยแนวคิด เจ้าของธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะช่วยสร้างความมั่นใจในการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเชื่อว่าตัวเองมีทรัพยากรเพียงพอที่จะสำเร็จ มีความสุขและผ่อนคลายในทุกช่วงเวลา เต็มเปี่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์และรู้สึกกระตือรือร้นกับความท้าท้ายใหม่ ๆ จึงสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีเหตุผลไม่ถูกอารมณ์ครอบงำ สามารถฝึกได้โดยการพูดให้กำลังใจตัวเองในทุก ๆ วัน