อินสตาแกรมถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางโซเชียลมีเดียที่เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชื่นชอบการโพสต์ตัวตนลงบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นภาพตัวเอง สถานที่ท่องเที่ยวหรือช่วงเวลาสำคัญของชีวิต
แต่ประโยชน์ของอินสตาแกรมไม่ได้มีแค่การโพสต์ภาพสวยๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เรายังสามารถสร้างแบรนด์และธุรกิจของตัวเองหรือโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ช่วยสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งที่จะทำให้อินสตาแกรมของเราเป็นที่รู้จักหรือเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้นคือ ‘ยอดผู้ติดตาม’ หรือ ‘ฟอลโลเวอร์’ ยิ่งมีฟอลโลเวอร์มาก ก็ยิ่งมีคนรู้จักหรือโอกาสในธุรกิจมากยิ่งขึ้น
7 วิธีการเพิ่มยอดฟอลโลเวอร์บนอินสตาแกรม
วิธีการเพิ่มยอดฟอลโลเวอร์วิธีหนึ่งคือการ “ซื้อผู้ติดตาม” ซึ่งช่วยดันยอดฟอลโลเวอร์ให้มากขึ้น แต่เราไม่แนะนำเพราะบางครั้งฟอลโลเวอร์ที่เข้ามาก็เป็น Spam คนที่ไม่พึงปรารถนา หรือคนที่เข้ามาก็ไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
ดังนั้น ต่อให้มีฟอลโลเวอร์มากขึ้น ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหากไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย แถมยุคสมัยนี้ทุกคนก็ดูออกว่าอันไหนแค่เรียกยอดและอันไหนของจริง สู้เพิ่มยอดฟอลโลเวอร์ควบคู่คุณภาพด้วยจะดีกว่าครับ
วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีเพิ่มยอดฟอลแบบไม่ต้องเสียเงินซื้อแต่ได้คุณภาพกันครับ
#1 โพสต์สม่ำเสมอ
หากคุณต้องการให้ตัวตนหรือธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จัก การโพสต์วันละภาพถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องทำนะครับ คนจะไม่รู้จักคุณเลยถ้าคุณไม่ได้โพสต์ภาพเกี่ยวกับตัวคุณเองว่าวันนี้คุณทำอะไรหรือมีอะไรน่าสนใจบ้างในวันนั้นๆ
สำหรับในปี 2021โดยอ้างอิงมาจาก https://www.rainmaker.in.th/ วันที่ดีที่สุดในการโพสต์อินสตาแกรม คือ วันพุธ พฤหัสและศุกร์ โดยวันพฤหัสเป็นวันที่มีอัตราการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงที่สุด
และช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์ ได้แก่ 11 นาฬิกา 13 นาฬิกา 14 นาฬิกา 18 นาฬิกาและ 21 นาฬิกา
ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาวิธีการเพิ่มยอดฟอลโลเวอร์ ช่วงวันและเวลาที่คุณต้องโพสต์เป็นประจำถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย
#2 โพสต์ให้หลากหลายและมีคอนเซ็ปต์
แม้ว่าคุณจะมีตัวตนที่ชัดเจนหรือโลกรับรู้ว่าการมีตัวตนของแบรนด์คุณแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องโพสต์เกี่ยวกับตัวตนหรือธุรกิจของคุณย้ำๆ เสมอไป เพราะจุดเด่นของอินสตาแกรมอย่างหนึ่งคือการมีเครื่องมือที่หลากหลายและเทคนิคที่มากมายซึ่งทำให้ภาพที่โพสต์ออกมาสวยงามและเสริมตัวตนของคุณให้เด่นมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น การโพสต์อะไรที่แหวกแนวดูบ้างก็ช่วยเรียกยอดฟอลได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอสั้นๆ สตอรี่ คำคมหรือแม้กระทั่งการจัดเรียงภาพให้สวยงาม ดูเป็นงานศิลปะและสบายตา…หรือกำหนดไปเลยว่าวันจันทร์เราจะโพสต์ให้กำลังใจคนทำงาน แล้ววันอังคารโพสต์เรื่องทั่วไป ส่วนวันพุธค่อยทำโปรโมชั่นหรือพูดถึงสินค้าของเรา
สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มยอดฟอลโลเวอร์ให้เข้ามามากขึ้นได้เช่นกันครับ
#3 ใช้ช่องทางอื่นๆ เข้ามาเสริม
แม้ว่าคุณจะโพสต์รูปภาพสวยๆ บนอินสตาแกรมของคุณแล้ว แต่คนบางกลุ่มอาจยังไม่รับรู้ถึงการมีตัวตนของคุณ คุณก็สามารถโปรโมทอินสตาแกรมของคุณผ่านช่องทางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Line เพื่อให้คนที่กำลังติดตามคุณในช่องทางนั้นมาเป็นฟอลโลเวอร์บนอินสตาแกรมได้
ด้วยวิธีนี้ คุณก็จะรู้ด้วยว่ากลุ่มคนที่เข้ามาติดตามหรือสนใจเป็นกลุ่มคนประเภทไหนหรือมียอดฟอลโลเวอร์เพิ่มขึ้นเท่าไร หากใช้ข้อมูลส่วนนี้ดีๆ ก็เป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจเช่นกัน
#4 สร้างกิจกรรมให้คนเข้าร่วม
หากคุณกำลังสร้างแบรนด์หรือทำธุรกิจโดยมีอินสตาแกรมเป็นช่องทาง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการออกแคมเปญ โปรโมชั่นหรือกิจกรรมชิงรางวัลมีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยเรียกฟอลโลเวอร์และลูกค้าเข้ามาติดต่อเป็นจำนวนมาก
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังสอนภาษาจีน ก็อาจโพสต์คำถามให้คนมาตอบ หากใครตอบถูกเป็นคนแรกๆ ก็ได้รางวัลเป็นชุดหนังสือบทสนทนา เป็นต้น หรืออาจถามคำถามง่ายๆ ให้คนมาตอบแล้วตอบคอมเมนต์กลับก็ช่วยสร้างความประทับใจให้ฟอลโลเวอร์ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการนี้ตลอด เพราะคนจะคิดว่าคุณกลายเป็นเพจแจกของไปแล้ว การใช้โปรโมชั่นหรือแคมเปญในช่วงเวลาสำคัญ เช่น วันหยุดเทศกาล จะช่วยดึงคนเข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
หรืออาจจะทำการโฆษณาว่าสินค้าของคุณเป็นแบบ Limited Edition หรือสั่งได้ที่อินสตาแกรมของคุณเท่านั้น จึงจะได้ราคาพิเศษ ก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งในการดึงฟอลโลเวอร์เข้ามาเช่นกัน
#5 ลองตามกระแสดูบ้าง
วิธีการหนึ่งที่จะช่วยดึงฟอลโลเวอร์เข้ามามากยิ่งขึ้นก็คือการดูกระแสในโซเชียลมีเดีย ณ ช่วงเวลานั้นว่ามีเรื่องอะไรน่าสนใจหรือคนพูดถึงในวงกว้างกันบ้าง ก็จะช่วยให้คุณไม่ตกเทรนด์
อย่าลืมว่าแม้คุณจะขายของเก่งแค่ไหน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่ช่วยดึงคนเข้ามาส่วนหนึ่งมาจากการตามกระแส ยิ่งจับกระแสได้ไวเท่าไร คนก็ยิ่งรับรู้การมีตัวตนของคุณมากยิ่งขึ้น และทำให้ภาพลักษณ์ของคุณดูเป็นคนที่ทันสมัยตลอดเวลา ส่งผลต่อการทำธุรกิจไปในตัว
แต่การเล่นตามกระแสก็ต้องรู้จักเลือกให้ดี เพราะไม่ใช่ทุกกระแสจะสร้างความประทับใจได้ หากเล่นไม่ดีก็อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และปัญหาที่ต้องแก้ไขตามมาอีกแน่นอน
#6 ติด Hashtag
Hashtag เป็นสิ่งที่ช่วยจัดหมวดหมู่คอนเทนต์ของแบรนด์และลูกค้าเพื่อช่วยค้นหาเรื่องราวที่ตนสนใจได้อย่างรวดเร็ว การติด Hashtag ที่จำง่ายและตรงหมวดหมู่ เช่น หากคุณทำอาหารรสเผ็ดก็อาจติด #spicyfood จะช่วยให้คนที่ติดตามหรือชอบเรื่องเดียวกับเราหาเราเจอและกดติดตามอย่างแน่นอน
หรือหากคุณคิดสโลแกนของแบรนด์คุณเองได้เจ๋งๆ เป็นที่ติดหู ก็อาจใส่เป็น Hashtag เพิ่มโอกาสที่คนอื่นจะหาคุณเจอได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
#7 ลองฟิเจอร์ใหม่ๆ
วิธีสุดท้ายที่คุณต้องทำก็คือการทดลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆของอินสตาแกรมเสมอ ซึ่งเราจะเห็นได้บ่อยว่าฟีเจอร์อย่าง Story (ที่ตอนนี้ก็ถือว่าอยู่มานานแล้ว) นั้นถูกผลักดันอย่างต่อเนื่อง
ตัวบริษัทโซเชียลเน็ตเวิร์คในสมัยนี้ต้องทำการแข่งขันกับบริษัทอื่นๆอีกมากมาย (เช่น YouTube TikTok) ทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องพยายามดันฟิเจอร์ใหม่ๆมาเรื่อยๆ ไม่อย่างนั้นผู้ใช้งานก็อาจจะรู้สึกเบื่อเราย้ายไปใช้แอปพลิเคชันอื่นก็ได้
เพราะฉะนั้นเพื่อให้ฟีเจอร์ใหม่ๆประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว บริษัทพวกนี้ก็จะหาวิธีดันฟิเจอร์เหล่านี้ ให้เข้าถึงคนเยอะ เพื่อทำให้ผู้ใช้งานจะใช้มากขึ้น เพราะฉะนั้นแม้ว่าคุณจะอ่านบทความนี้ในปี 2021 หรือในปี 2030 หากอินสตาแกรมมีฟีเจอร์อะไรใหม่แนะนำให้คุณใช้ คุณก็ต้องเป็นหนึ่งในคนแรกๆที่พยายามใช้ฟีเจอร์นี้ เพราะคุณจะเขาถึงคนได้เยอะมาก ซึ่งคนเหล่านี้ก็จะกลายมาเป็นผู้ติดตามคุณ
การสร้างตัวตนบนอินสตาแกรมนั้น นอกจากภาพที่สวยงามแล้ว การทำคอนเทนต์หรือเนื้อหาก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะทำให้ตัวตนหรือแบรนด์ของคุณมีความชัดเจนแล้ว ยอดฟอลโลเวอร์ของคุณก็จะเติบโตอย่างมั่นคงและสะท้อนถึงคุณภาพของอินสตาแกรมของคุณเช่นกันครับ