13 เทคนิคขายของในไอจี มือใหม่ก็ทำได้ | วิธีขายของให้ปังบน IG

13 เทคนิคขายของในไอจี มือใหม่ก็ทำได้ | วิธีขายของให้ปังบน IG

ในประเทศไทยมีบัญชีผู้ใช้ Instagram มากถึง 16 ล้านบัญชี ถือเป็นโซเชียลมีเดียใหญ่เป็นอันดับ 3 ที่คนไทยนิยมใช้ แล้วผู้ใช้ Instagram มักใช้เวลาบนแอพไปมากถึง 53 นาทีต่อวัน ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับเวลาที่ใช้งานบน Facebook อย่างมาก

โดยจากสถิติของ Facebook Business 83% ของผู้ใช้ Instagram บอกว่าแอพพลิเคชั่นนี้ช่วยให้ค้นพบ สินค้าและบริการใหม่ๆ, 81% บอกว่าช่วยให้สามารถรีเสิร์ชเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้อย่างละเอียด และอีก 80% ช่วยให้สามารถตัดสินใจว่าจะซื้อสินค้าและบริการนั้นดีหรือไม่

จากพฤติกรรมผู้บริโภคจึงเห็นได้ว่า Instagram ได้เข้ามามีบทบาทที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้ตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ดังนั้น หากคุณสนใจจะทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ Instagram ก็ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มโปรโมตสินค้าที่คุณไม่ควรมองข้าม

ในบทความนี้ ผมจึงมีอีก 13 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถขายของบนไอจีแบบที่มือใหม่ก็เริ่มทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ครับ

13 เทคนิคขายของในไอจี มือใหม่ก็ทำได้

#1 ตั้งชื่อไอจีให้มีคีย์เวิร์ด

แบรนด์ส่วนใหญ่มักตั้งชื่อไอจีตามชื่อแบรนด์เพียวๆของตัวเอง แต่คุณทราบไหมว่าถ้าหากคุณเพิ่ม keyword ที่ผู้ใช้มักใช้ค้นหาเมื่อต้องการสินค้าหรือบริการบนไอจี ก็จะช่วยทำให้ผู้ใช้สามารถค้นพบ สินค้าของคุณได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

เช่น หากคุณเปิดร้านดอกไม้ในกรุงเทพฯ คุณอาจจะอยากใส่คำว่า “ร้านดอกไม้” และ “กรุงเทพ” หรือคำอื่นๆที่คุณคิดว่าลูกค้าจะเสิร์ชลงไปในชื่อโปรไฟล์ แต่ต้องให้มีความยาวที่พอดี และเป็นชื่อที่จดจำได้ง่าย

ข้อแนะนำนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่กำลังเปิดร้านมาก เพราะในตอนแรกที่คนยังไม่รู้จักเรา การปรับชื่อบัญชีเล็กน้อยก็ทำให้คนเห็นร้านเรามากขึ้นแล้ว (แต่เราก็ต้องทำตามข้อแนะนำข้ออื่นด้วย เพราะแค่เปลี่ยนชื่ออย่างเดียวไม่ได้ทำให้คุณรวยร้อยล้านได้)

#2 ตั้งค่าบัญชี Instagram Business ให้ครบ

หากคุณต้องการขายของบน Instagram การเปลี่ยนรูปแบบบัญชีจากบัญชีส่วนตัว (Personal Account) มาเป็นบัญชีธุรกิจ (Business Account) จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงฟังก์ชันที่จะช่วยในการขาย อีกทั้งยังสามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าที่เข้ามาดูหน้าโปรไฟล์ของคุณได้อีกด้วย

ที่คุณต้องทำก็แค่ไปที่ “Setting” แล้วกด “Switch to Business Profile” แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ

นอกจากนี้ ก็อย่าลืมกรอกข้อมูลโปรไฟล์ธุรกิจของเราให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นการใส่รายละเอียดใน bio ว่าธุรกิจของคุณนำเสนอสินค้าและบริการอะไร และอย่าลืมใส่รูปโปรไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้านั้นๆ และใส่ลิงค์ไปยังเว็บไซต์หรือเว็บ E-commerce ของร้านค้าคุณด้วย

#3 ใส่ข้อมูลสินค้าพร้อมราคาให้ชัดเจน

ลูกค้าส่วนใหญ่หากต้องการซื้อของ สิ่งสำคัญที่ลูกค้าอยากรู้ก็คือราคาสินค้า โดยยิ่งถ้ารู้ราคาในทันที ก็ยิ่งทำให้ตัดสินใจซื้อของได้ง่ายขึ้น

การที่คุณไม่เปิดเผยราคาและบอกให้ลูกค้า message มาถาม เพื่อหวังว่าหากลูกค้าได้คุยกับเราก่อนก็จะช่วยเพิ่มโอกาสการขายได้มากขึ้น … ขอบอกเลยว่าคิดผิดครับ เพราะสิ่งนี้จะยิ่งทำให้ลูกค้าเกิดความรำคาญ หรือไม่กล้าคุยกับเราตรงๆทั้งๆที่ก็อาจจะมีกำลังซื้อ เพราะกลัวว่าถ้าถามราคาแล้วไม่ซื้อ อาจจะเกิดความบาดหมางกับทางร้านได้

ถ้าคุณกล้าบอกราคาไปเลย ก็จะยิ่งดึงดูดให้ลูกค้าที่มีกำลังซื้อสินค้าของคุณตัดสินใจซื้อได้เลยในทันที รวมถึงช่วยกรองลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเรา หรือเป็นกลุ่มที่อ่อนไหวกับราคาจนเกินไปอยู่แล้วให้ไม่ต้องติดต่อคุณไปเลย จะช่วยประหยัดเวลาของคุณได้อีก

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ต้องอย่าลืมว่าการไม่เปิดเผยราคาสินค้ายังผิดพรบ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการอีกด้วยนะครับ เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการโพสต์รูปเพื่อขายของ ก็อย่าลืมใส่ข้อมูลสินค้าให้ครบ ทั้งสี ขนาด จุดเด่น ฟังก์ชั่นการใช้งาน และที่สำคัญคือราคาและค่าส่งครับ

#4 ใช้ #hashtag ให้เป็น

การใช้แฮชแท็กในโพสต์ จะทำให้ผู้ที่สนใจอยากสั่งสินค้าและบริการสามารถเจอโปรไฟล์ของคุณได้อย่างง่ายดายและอาจกลายมาเป็นลูกค้าคุณได้ในที่สุด โดยคุณสามารถใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องได้ทั้งบนส่วน bio และในแคปชั่นของแต่ละรูป

วิธีการเลือกแฮชแท็กที่เหมาะกับธุรกิจคุณก็คือ เมื่อคลิกที่ช่อง search ให้เลือก “ Tags” แล้วพิมพ์คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ Instagram จะแสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องเป็นแฮชแท็กต่างๆ ให้คุณเลือกใช้ โดยเลือกทั้งแฮชแท็กที่เหมาะสมกับธุรกิจและความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงแฮชแท็กที่มีจำนวนโพสต์เยอะ เพราะจะเป็นคำที่ลูกค้านิยม search หา และแฮชแท็กที่มีจำนวนโพสต์น้อย เพราะหากลูกค้า search ก็อาจจะมีโอกาสจะแสดงผลเป็นไอจีของคุณง่ายกว่า

อีกเคล็ดลับนึงก็คือ ให้คุณเข้าไปที่โปรไฟล์ของ Influencer ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ แล้วดูว่าเขาใช้แฮชแท็กอะไร แต่ให้เลือกแฮชแท็กที่เมื่อใช้แล้วได้รับความสนใจเยอะ ไม่ใช่แฮชแท็กที่คนนิยมกันจนเกร่อครับ

สิ่งที่ผมทำก็คือแบ่ง hashtag ออกมาเป็นสามเซท เซทละ 5-10 hashtag ที่แตกต่างไม่ซ้ำกับเซทอื่นเรา แล้วก็นำ hashtag เหล่านี้ไปวนใช้ในโพสต์ต่างๆ สลับวันกันโพสต์ก็ได้ การทำแบบนี้จะเป็นการช่วยไม่ให้ Instagram หาว่าเราสแปม hashtag ครับ

#5 เน้นที่รูปภาพมากกว่าข้อความ

เพราะ Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการปฏิสัมพันธ์ผ่านรูปภาพมากกว่าการอ่านข้อความ ดังนั้น โพสต์รูปภาพสินค้าหรือรูปภาพสวยๆที่ผ่านการคิดและออกแบบรวมถึงถ่ายทำอย่างมีคุณภาพจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยดึงดูดให้ผู้ใช้บน Instagram สนใจสินค้าในโพสต์ของคุณ

ให้คุณลองเรียนรู้การจัดองค์ประกอบของรูปให้สมดุลเพื่อให้ถ่ายออกมาแล้วดูลงตัว โดยคุณอาจจะลองศึกษาตัวอย่างรูปภาพสวยๆแบบต่างๆจากเว็บไซต์ Pinterest ก็ได้ครับ

#6 คุมโทนทั้งโปรไฟล์

หากเป็นไปได้ การคุมโทนทั้งหน้าโปรไฟล์ให้ทั้งหมดรูปดูเข้ากัน จะทำให้ลูกค้าอยากเลื่อนดูรูปภาพในโปรไฟล์ของคุณมากกว่า โดยคุณอาจลองคุมโทนตามสีของแบรนด์ ไม่โพสต์รูปที่มีโทนสีขัดกันจนเกินไป หรือใช้เทมเพลตรูปในแนวทางเดียวกันทั้งโปรไฟล์ก็ได้

อีกเทคนิคหนึ่งที่สามารถช่วยคุมโทนโปรไฟล์ของคุณให้ดูสบายตาได้ก็คือการโพสต์หลายรูปพร้อมกันทีเดียว เช่น 3 รูป 6 รูป หรือ 9 รูป ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าตัวเดียวกัน มีโทนเดียวกัน หรือคุณอาจจะแบ่งรูปแต่ละรูปเป็นส่วนๆเหมือนจิ๊กซอว์ก็ได้ครับ

การคุมโทนสำคัญเป็นอย่างยิ่งหากสินค้าที่คุณขายเป็นสินค้าแนวแฟชั่นหรือเป็นของหรู เพราะสุดท้ายแล้ว ‘ภาพลักษณ์’ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยในการขายได้ดีเยี่ยม

#7 โพสต์บ่อยๆ และโพสต์สินค้าหลายแบบให้เลือก

Instagram เองก็ยังแนะนำว่าคุณควรโพสต์อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาเดิมๆ เพื่อที่ผู้ใช้จะเริ่มชินและรู้ว่าคุณจะโพสต์ในช่วงไหน การโพสต์บ่อยๆจะทำให้ธุรกิจของคุณดูแอคทีฟและพร้อมขายของกับลูกค้า ซึ่งจะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น

แต่ถ้าสินค้าของคุณมีตัวเลือกหลากหลายแบบ ก็อย่าลืมโพสต์รูปสินค้าหลากหลายสีหรือหลายฟังก์ชัน อันจะช่วยเพิ่มตัวเลือกในการตัดสินใจให้ลูกค้า และเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสินค้ามากขึ้นครับ

ยิ่งในตอนที่คุณเริ่มต้นทำไอจีใหม่ๆ เนื่องจากว่าเราไม่ได้มีผู้ติดตามเยอะ เราก็ไม่ต้องไปกังวลว่าเราจะไปสแปมใครมากใช่ครับ หากเรามองในมุมมองนี้ เราก็ควรที่จะโพสต์ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนแรก ยิ่งโพสต์เยอะ ยิ่งมีโอกาสในการเข้าถึงคนเยอะ ข้อจำกัดมีแค่ 1) เรามีเวลามากแค่ไหน และ 2) เยอะแค่ไหนไอจีถึงจะหาว่าเราสแปม

#8 ลง Story บ่อยๆ

ในปี 2017 Instagram ได้รายงานว่ามีโอกาสที่ลูกค้าจะส่งเมสเสจหาคุณในคอนเทนต์ประเภท Story ทุก 1 ใน 5 อัน ดังนั้น ยิ่งคุณลงสตอรี่บ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าในทุกๆวันได้มากขึ้นเท่านั้น

เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้การสร้าง Story ช่วยให้คุณขายสินค้าที่ต้องการก็คือการใช้ฟังก์ชั่น Insert Link เพื่อนำลูกค้าไปสู่เว็บไซต์ขายสินค้าที่ต้องการ หรือนำลูกค้าเข้าสู่ Messenger เพื่อพูดคุยกับคุณได้โดยตรงครับ

Instagram จะชอบมีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆมาเสมอ ซึ่งส่วนมากก็มักจะเพิ่มการเข้าถึงให้เราเป็นอย่างดี (เพราะ IG อยากโน้มน้าวให้คนเล่นฟีเจอร์เหล่านี้เยอะๆ แย่งลูกค้าจากโซเชียวอื่นๆ) ช่วงไหนมีฟีเจอร์ใหม่เราก็ควรใช้ให้เป็นประโยชน์ครับ

#9 ตอบ Message ให้ไว

เมื่อลูกค้ารู้จักสินค้าและบริการของคุณผ่าน Instagram แล้ว หากเขาสนใจซื้อก็มักจะส่งข้อความหาคุณเพื่อถามรายละเอียดเพิ่มเติม โดยไม่ว่าลูกค้าจะ Direct Message (DM) มาหาคุณบน Instagram หรือส่งข้อความหาคุณจากช่องทางใดๆ ก็ควรตอบข้อความให้ไวและเป็นมืออาชีพ ลูกค้าถึงจะเชื่อถือในแบรนด์ของคุณและทำให้คุณสามารถปิดการขายได้อย่างน่าประทับใจครับ

#10 มีกิจกรรมให้ลูกค้าร่วมสนุก

อย่างเช่นกิจกรรมคิดสโลแกนเจ๋งๆ คิดรสของ product ใหม่ๆในแบบสร้างสรรค์ หรือการแชร์รูปของลูกค้าคู่กับสินค้าเพื่อแลกกับของรางวัลน่าดึงดูดใจ ก็ล้วนแต่ช่วยให้แบรนด์และสินค้าของคุณเป็นที่สนใจ และช่วยให้ยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้นได้อย่างง่ายดาย คุณอาจจะลองโปรโมตกิจกรรมผ่าน Story แล้วแนบ link ของกิจกรรมลงไปด้วยก็ได้ครับ

#11 ลงโฆษณาบน Instagram Ads

นอกจากการโปรโมตบนหน้าโปรไฟล์ของแบรนด์คุณเองแล้ว การยิงโฆษณาบน Instagram ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะจะยิ่งทำให้คุณสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

โดยวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะลงโฆษณาบน Instagram ก็คือให้คุณ boost post ที่มี engagement ค่อนข้างดีอยู่แล้วออกไปด้วยฟังก์ชั่น Promote โดยฟังก์ชั่นนี้จะให้คุณเลือกได้ว่าอยากจะสร้างกลุ่มเป้าหมายเอง หรือใช้กลุ่มเป้าหมายอัตโนมัติ อีกทั้งคุณยังสามารถปรับแต่งงบประมาณในแต่ละวัน รวมถึงระยะเวลาในการยิงโฆษณาได้อย่างง่ายดาย

#12 ลองใช้ Instagram Shopping

ฟังก์ชั่นนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถคลิกที่ตัวสินค้าในรูปภาพ แล้วจะปรากฏแท็กที่มีชื่อสินค้าพร้อมราคา หากคลิกเข้าไปก็จะเห็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าสามารถเข้าไปซื้อสินค้าต่อบนเว็บไซต์ของเราได้อีกด้วย ทำให้ถ้าหากคุณมีเว็บไซต์ขาสินค้าอยู่แล้ว การเชื่อมต่อเว็บไซต์เข้ากับ Instagram Shopping ก็ถือเป็นเคล็ดลับที่ดีที่ทำให้สามารถขายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว

#13 รีวิวจากลูกค้าจริง ดีที่สุด

คอนเทนต์จากลูกค้าจริง หรือ User-Generated Content (UGC) เช่นรูปภาพจริงที่ลูกค้าถ่ายมารีวิว ถือเป็นคอนเทนต์ที่สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้ามากที่สุด เพราะเป็นประสบการณ์การใช้สินค้าโดยตรงจากลูกค้าตัวจริง ทำให้ถ้าเป็นไปได้ ลองหาโอกาสนำเนื้อหาที่ลูกค้าจริงสร้างมาโพสต์ใหม่ จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มาก

ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจากแบรนด์ไม่มีลิขสิทธิ์ในรูปภาพหรือเนื้อหาเหล่านี้โดยตรง คุณจึงต้องขออนุญาตเจ้าของรูปหรือเจ้าของเนื้อหาก่อนด้วยทุกครั้งก่อนที่จะโพสต์เนื้อหาออกไปครับ

บทสรุปเทคนิคขายของบน Instagram

ดังนั้นแล้ว หากคุณต้องการจะขายของบน Instagram ให้ได้ผล ให้คุณใช้แพลตฟอร์มนี้เหมือนเป็นการลงทุนที่ต้องใช้เวลา ความพยายาม และความเชื่อใจจากลูกค้า แพลตฟอร์มนี้ถือว่าใช้ไม่ยาก ยิงโฆษณาง่าย ขอเพียงให้คุณสื่อสารกับลูกค้าด้วยความเป็นมิตร เปิดเผยข้อมูลที่ลูกค้าควรรู้ก่อนซื้อสินค้า และลงทุนในรูปสินค้าให้ดูดี คุณก็สามารถมียอดขายจากแพลตฟอร์มสนุกๆนี้ได้แน่นอนครับ

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด