บริษัท amazon เว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่อันดับต้นๆของโลกเคยทำงานวิจัยว่า หากเว็บไซต์เราโหลดช้าแค่เพียง 0.1 วินาที ลูกค้าก็จะหายไป 1 เปอร์เซ็นต์ทันที หากมองในแง่นี้ ยิ่งเราตอบลูกค้าช้าเท่าไหร่ เงินของเราก็จะหายไปมากขึ้นเท่านั้น
ซึ่งการตอบลูกค้าให้เร็ว พูดง่ายแต่ทำได้ยากมาก ระบบแจ้งเตือนของ facebook ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น จะจ้าง admin มาตอบไลน์หลายคน คิดเป็นรายเดือนก็มีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นสำหรับหลายๆธุรกิจคำตอบก็คือการนำแชทบอทหรือโปรแกรมตอบลูกค้าอัตโนมัติมาใช้งาน
ซึ่งจริงๆแล้วโปรแกรมตอบลูกค้าหรือแชทบอทในสมัยนี้ ติดตั้งได้ง่ายๆ ใช้งานได้ง่ายมากๆ ไม่ต้องเก่งคอมก็ทำได้ และที่สำคัญก็คือโปรแกรมเหล่านี้มันไปไกลกว่าแค่การตอบลูกค้าได้เร็วแล้ว ในบทความนี้ผมอยากจะมาแนะนำว่าเราสามารถใช้โปรแกรมแชทบอทเพิ่มยอดขายให้กับเราได้อย่างไรบ้าง และในตอนจบท้ายบทความ ผมจะมีโบนัสแถมให้อีกนะครับ แนะนำให้รอดู
3 เคล็ดลับสร้างยอดขายด้วย ChatBot (ด้วย Kaojao Chatbot)
#1 การขายของเพิ่ม
หัวข้อนี้ผมมองว่าสำคัญที่สุดแล้ว ทำเงินให้กับเราได้เยอะมาก แต่หลายคนไม่ค่อยพูดถึงกัน ธุรกิจส่วนมากที่ใช้ chatbot ก็คือธุรกิจที่ขายมาซักพักแล้ว เหมือนมีลูกค้าทักเข้ามาเยอะจนตอบไม่ทัน ซึ่งแปลว่าอะไรครับ… มีข้อมูลเยอะนั่นเอง
มีรายงานด้านการขายของออนไลน์บอกไว้ว่า การแนะนำสินค้าเพิ่มเติมหลังลูกค้าชำระเงินแล้ว สามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 10-30% เลย … หากยอดคุณต่อเดือนคือหนึ่งแสน เพียงแค่คุณแนะนำสินค้าให้ลูกค้าเป็น คุณสามารถเพิ่มยอดได้ถึง 120-130,000
การแนะนำลูกค้าพูดเหมือนง่ายครับ แต่คนที่ทำงานด้านการขายหรือเป็นแอดมินก็จะรู้ว่าเป็นงานที่ต้องอาศัยวินัยและการทำงานให้เป็นระบบ ยิ่งเวลาขายดีๆ บางทีเราก็ลืมคุยกับลูกค้า ลืมขายเพิ่ม ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถสร้าง Flow ใน chatbot เราได้เลยว่า ลูกค้าคนไหนที่ซื้อรองเท้าเราแล้ว สามารถซิ้อเชือกผูกรองเท้าต่อได้ ใครซื้อเสื้อหนึ่งตัวเราก็ขายตัวที่สองเพิ่มได้
ข้อดีก็คือเราได้รายได้เพิ่มครับ ข้อเสีย…แทบจะไม่มีเพราะลูกค้าโอนเงินให้เราเสร็จแล้ว เราค่อยขายเพิ่ม ทำอย่างเดียวคือแค่คิดว่าเราอยากจะแนะนำอะไรให้ลูกค้าแล้วก็ไปใส่ในระบบ chatbot เราให้ตอบลูกค้าอัตโนมัติหลังลูกค้าส่งใบโอนมา
#2 การสร้าง Sales Page ที่ขายได้จริง
อีกหนึ่งฟีเจอร์ของ Chatbot ที่ทำให้ปิดยอดขายได้มากกว่าเดิมก็คือการนำมารวมกับ Sales Page
Sales Page ก็คือหน้าเว็บไซต์ที่มีไว้เพื่อขายลูกค้า ส่วนมากก็คือหน้าเว็บไซต์หนึ่งหน้าที่มีไว้ให้ราคาสินค้าและคำอธิบายต่างๆ เรานึกถึงเว็บไซต์ Market Place ออนไลน์ต่างๆ แต่ละหน้าก็จะมีสินค้าและคำอธิบายที่มีไว้โน้มน้าวให้คนซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
ซึ่ง Sales Page จริงๆแล้วก็เป็นหนึ่งในวิธีการลดปริมาณข้อความตอบลูกค้าครับ ลูกค้าส่วนมากมีคำถามซ้ำไปซ้ำมา หากเราคุยกับลูกค้าบ่อยๆ เรารู้ว่าลูกค้ามีคำถามอะไร เราก็นำมาเรียบเรียงเป็นวิดีโอ แต่งภาพ หรือเขียนบทความทำเพื่อตอบคำถามลูกค้าได้ สินค้าเหมาะกับใคร มีประกันไหม ซื้อไปทำอะไรได้
แต่ในยุคนี้ เทคโนโลยีที่ใหม่กว่านั้นก็คือการนำ Sales Page มาประกอบกับ Chatbot อีกรอบ ระบบ Chatbot ส่วนมากสามารถนำไปใส่ในเว็บไซต์ได้ ไม่ต้องเก่งคอมก็ทำได้ง่ายครับ ทีนี้ลูกค้าที่เห็นหน้าSales Page เราก็จะสามารถทักมาถามเราได้ทุกเมื่อเวลามีคำถาม แต่คนที่ตอบจะเป็น Chatbot นั่นเอง
เปรียบเทียบก็เหมือนกับว่า เราให้ Sales Page เป็นเมนูอาหารครับ ลูกค้าเข้าเว็บไซต์ก็คือลูกค้ามานั่งในร้านแล้ว ลูกค้าดู Sales Page หรือเห็นเมนูเราแล้ว ลูกค้ากลุ่มหนึ่งก็จะตัดสินใจซื้อได้เลยหากเค้ารู้ว่าเค้าต้องการอะไร แต่ลูกค้าอีกหนึ่งกลุ่มใหญ่ก็จะสามารถทักเราเพิ่มเติมมาถามได้ หากมีข้อกังวลอะไร เหมือนมีหุ่นยนต์พนักงานมาคอยดูแลลูกค้าตลอดเวลา ตอนนี้ระบบขายของออนไลน์เราก็จะมีทั้งเว็บไซต์ที่ทันสมัยและก็มีระบบตอบChat ที่ดูเป็นส่วนตัวด้วย
ซึ่งก็มีรายงานหลายที่ ที่ระบุว่าลูกค้าส่วนมากต้องการ Chat คุยก่อนตัดสินใจซื้อครับ ลูกค้าอย่างน้อย 40% อยาก Chat กับคน หรือ Chatbot ก่อนตัดสินใจซื้อ เทียบกับการตอบอีเมลหรือพิมพ์มาใน social media ทั่วไป
#3 การยิงแอด และ การสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
หัวข้อสุดท้ายและน่าจะเป็นหัวข้อที่ทำเงินให้กับทุกคนได้มากสุดก็คือเรื่องของการทำโฆษณา หลายคนรู้อยู่แล้วว่าการทำโฆษณา Facebook ส่วนมากมาจากการเลือก ‘กลุ่มเป้าหมาย’ ยกตัวอย่าง เช่น คนที่สนใจความสวยความงาม ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย หรือ ครอบครัว
ถึงแม้ว่ากลุ่มเป้าหมายแบบนี้จะสามารถทำเงินได้ แต่โดยรวมแล้วเราก็มักจะเห็นได้บ่อยๆว่ามีคู๋แข่งเยอะ ซึ่งก็ทำให้เกิดคำว่ากลุ่มเป้าหมายลับหรือกลุ่มเป้าหมายที่ Facebook ซ่อนไว้แต่เราไม่สามารถค้นหาเจอได้ โดยรวมแล้ว เพราะกลุ่มเป้าหมายแบบเดิมๆเป็นสิ่งที่ใครก็เข้าถึงได้ ทำให้มีต้นทุนการแข่งขันสูง
ในส่วนนี้ อยากแรกคือเราสามารถนำ Facebook มาสร้างกลุ่มเป้าหมายต่างได้ อย่างกลุ่มเป้าหมายที่ทักเรามาในแต่ละ Keyword เราเอาข้อมูลจาก Chatbot เหล่านี้มาสร้างกลุ่มเป้าหมายเฉพาะของเราเพื่อการยิงโฆษณาได้
หรือถ้าส่วนนี้ยังฟังดูยากไป ในส่วน Kaojao Chatbot เค้าก็มีระบบแนะนำกลุ่มเป้าหมายลับ ที่เพจหรือคนทำโฆษณาทั่วไปเข้าถึงไม่ได้ด้วย หากใครได้ส่วนนี้ไปก็สามารถยิงโฆษณาที่คนทำคนอื่นทำไม่ได้ ซึ่งก็มีแนวโน้วที่จะทำให้ขายได้มากขึ้น ในงบประมาณที่น้อยลงทั่วเอง
ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้เป็นแค่ฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับการเพิ่มยอดขายด้วย Chatbot นะครับ ในสมัยนี้โปรแกรม Chatbot ที่ดีๆนั้นพัฒนาไปไกลมาก สามารถช่วยคุณทั้งประหยัดเวลาประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในหลายกรณีเลย เรียกว่าเป็นโปรแกรมช่วยคุณทำธุรกิจในโลกออนไลน์เลยก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น Kaojao Chatbot ที่เป็นสปอนเซอร์ของโพสต์นี้ ที่นอกจากจะช่วยตอบลูกค้า และช่วยเก็บข้อมูลออเดอร์ต่างๆแล้ว ยังสามารถสร้างใบปะหน้าพัสดุ แล้วก็มีฟีเจอร์ในการตรวจสอบสลิปโอนเงินให้อีกด้วย ซึ่งก็ล้วนเป็นฟีเจอร์ที่ทำขึ้นมาเพื่อช่วยร้านค้าออนไลน์ประหยัดเวลามากขึ้น เราจะได้มีเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นเพิ่มเติม
เว็บไซต์ของผมสอนทุกคนทำการตลาดครับ ไม่ว่ายังไงก็ตามในโลกการตลาด ความคิดเห็นของลูกค้าสำคัญที่สุด สุดท้ายแล้วเราจะคิดฟีเจอร์อะไรเราจะทำอะไรดีๆมา แต่ถ้าลูกค้าไม่เอา เราก็ขายไม่ได้ครับ ในกรณีนี้ การพูดคุยกับลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ แต่การที่คุณต้องมานั่งดิวกับลูกค้าโดยตรงทุกคน ทุกเจ้า หากเป็นธุรกิจที่ใหญ่พอสมควรแล้วทำได้ยากมาก ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีตัวช่วย
ซึ่งการจ้าง Admin ก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่นะครับ แต่หน้าที่ของ Admin ไม่ควรจะเป็นการตอบลูกค้าหรือการตอบคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมา คำถามพวกนี้เราควรผลักไปให้ Chatobt ตอบได้แล้ว และเราค่อยเอา Admin มาตรวจสอบดูแลการทำงานของ Chatbot หรือช่วยลูกค้าแก้ปัญหาบางอย่างที่นานๆเกิดขึ้นทีจะดีกว่า ผมขอบอกตามตรงครับ ราคา Chatbot เดือนละ 500 – 1000 บาท ยังไงก็คุ้มกว่าการจ้าง Admin ตอบลูกค้าทุกคน
สำหรับคนที่สนใจอยากจะศึกษาเกี่ยวกับ Kaojao Chatbot เพิ่มเติมนั้น ผมจะทิ้งรายละเอียดฟีเจอร์หรือว่าวิธีการใช้ต่างๆที่ผมเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์มากสำหรับหลายธุรกิจไว้ในรายละเอียดได้บทความนะครับ นอกจากนั้นแล้วทางเข้า Kaojao ก็ใจดี มีให้ลูกค้าทดลองใช้งานฟรีด้วย 14 วัน เพราะฉะนั้นหากใครอ่านบทความถึงตอนนี้ สามารถกดเข้าไปทดลองใช้งานฟรีได้
Facebook : Kaojao เเชทบอท
เว็บไซต์ : Kaojao.com