7 ลักษณะของภาวะผู้นำที่ดี สำหรับธุรกิจ (Leadership)

7 ลักษณะของภาวะผู้นำที่ดี สำหรับธุรกิจ (Leadership)

สำหรับธุรกิจภาวะผู้นำจะช่วยทำให้ธุรกิจของเราเกิดวัฒธนธรรมองค์กร หรือ Culture ยิ่งถ้าธุรกิจใดมีผู้นำที่มีภาวะผู้นำที่ดี มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลและมีความโดดเด่นก็จะพากลุ่มของตนเองไปได้ไกลทำให้ทุก ๆ คนในกลุ่มสามารถที่จะทำงานได้อย่างเป็นระบบระเบียบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า 1 บริษัทจะรวมคนจากร้อยพ่อพันแม่ที่มีความแตกต่างทั้งภูมิหลังความรู้, ความสามารถ, ทัศคติ  มาอยู่ด้วยกันผู้นำจำเป็นต้องหล่อหลอมลูกน้องให้เป็นเนื้อเดียวกัน คอยหล่อหลอมให้เป็นเนื้อเดียวกันด้วยวัฒนธรรมองค์กรด้วย Leadership หรือภาวะผู้นำที่ดี

เข้าใจความหมายของ  “ผู้นำ” และ “ภาวะผู้นำ”

“ผู้นำ” คือ บุคคลที่เป็นที่ยอมรับในองค์กรและมีคุณลักษณะเฉพาะบุคคลนั้นๆ เป็นจุดศูนย์กลางของทุกคน ในการกำหนดแนวทางของกลุ่มเพื่อให้ บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้  และ “ภาวะผู้นำ” คือ ทักษะที่ผู้นำจะแสดงออกมาส่งผลให้ผู้นำแต่ละคนมีความเหมือนและแตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องความมีอิทธิพลการจูงใจการโน้มน้าว และกระตุ้นคนในกลุ่มเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันสร้าง

โดย ภาวะผู้นำและคุณลักษณะของผู้นำด้วยตนเองมีสิ่งที่เราต้องรู้อยู่ด้วย 7 ข้อ

แต่ก่อนที่เราจะไปอ่านคุณลักษณะผู้นำที่ดีทั้ง 7 ข้อ เรามาดูปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องไม่อยากทำงานด้วยว่ามีลักษณะอย่างไรบ้าง ?

เช่น การที่ผู้นำไม่รักษาคำพูด รับปากง่ายๆแต่สุดท้ายทำไม่ได้หัวหน้าไม่ประชุมส่งลูกน้องไปประชุมแทนเราต้องลุกขึ้นมาทำเรื่องวัฒธรรมองค์กรอย่างจริงจังและต่อเนื่องเมื่อปฏิบัติไปนานๆ เข้าจนเกิดความเคยชินคนของเราก็จะไม่ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ

หรือกรณีพนักงานร้านของเราคนไหนที่ทำงานเก่งเราก็จะให้โอกาสเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเรื่อยๆจนเป็นผู้จัดการร้านตั้งแต่ อายุยังน้อย เพราะเข้ามาทำงานตอนอายุ 16  ถ้าทำงานดีๆ อายุ 18-19 ก็อาจจะได้เป็นผู้จัดการร้าน แล้วมีลูกน้อง สิบกว่าคนในร้าน

ซึ่งเราจะพบว่าเขาอาจใช้คำพูดไม่ดีกับลูกน้องพูดด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดผู้ใหญ่ไปเห็นก็ถามว่าซึ่งทั้ง 7 ข้อนี้จะทำให้ เราทำผู้และภาวะผู้นำที่ดีขึ้น

7 ลักษณะของภาวะผู้นำที่ดี สำหรับธุรกิจ (Leadership)

“ภาวะผู้นำในตัวผู้นำเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่จะคอยกำหนดทิศทาง
สำหรับธุรกิจในการทำงานและสร้างอิทธิพล ความมุ่งมั่น กระตุ้นสมาชิกในกลุ่มให้
ทุกคนบรรลุทิศทางที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้”

1.สร้างอิทธิพลทางความคิด หรือ ภาวะผู้นำเชิงบารมี 

หมายถึง ผู้นำที่ประพฤติตัวเป็นแบบอย่างเป็น ‘โมเดลสำหรับผู้ตาม’ และสามารถถ่ายทอดไปยังผู้อื่นได้ในสถานการณ์วิกฤติ สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีมีศีลธรรมและจริยธรรมสูง หลีกเลี่ยงที่จะใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตน ประพฤติตนให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นและองค์กร

โดยผู้นำที่มีข้อนี้เด่นจะแสดงวิสัยทัศน์และแสดงความมั่นใจรวมถึงจะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อการบรรลุเป้าหมายนั้นสำหรับธุรกิจเพราะผู้นำต้องมีอิทธิพลอย่าง มีอุดมการณ์นี้เป็นพื้นฐานข้อแรกที่มีความสำคัญมากครับ 

2.การแสดงออกเพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจ 

หมายถึง การสร้างแรงจูงใจที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจกับผู้ตามโดยการสร้างแรงจูงใจภายในให้ความหมาย และสิ่งท้าทายในเรื่องงานของผู้ตามกระตุ้นจิตวิญญาณของทีมให้มีชีวิตชีวาสื่อสารอย่างชัดเจน

ซึ่งรวมถึงการ ‘แสดงการอุทิศตัวหรือความผูกพันต่อเป้าหมายและวิสัยทัศน์ร่วมกัน’ ‘แสดงความเชื่อมั่นให้เห็นความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้’ ‘สื่อสารอนาคตในแง่บวก’ และ ‘มีการกระตุ้นผู้ตามให้ตระหนักถึงปัญหา’

การสร้างความหวังให้กับทีม และหาแนวทางใหม่มาแก้ปัญหาในงานเพื่อหาข้อสรุปใหม่ที่ดีกว่าเดิม จะกระตุ้นให้ผู้ตามแสดงความคิดและเหตุผล ทำให้ผู้ตามรู้สึกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งท้าทายและเป็นโอกาสที่ดีที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน

ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ตามว่าปัญหาทุกอย่างต้องมีวิธีแก้ไขเริ่มจากเป็นแบบอย่างที่ดี เพราะหากตอนนี้คุณมีลูกน้องจำนวนมาก คุณจะทำตัวให้ลูกน้องยอมรับได้อย่างไรบ้าง? (คำตอบคือ การทำตัวให้ดีเป็นแบบอย่างให้ลูกน้องเห็นแล้วเชื่อถือและศรัทธา)

3.เข้าใจถึงความสามารถที่จำเป็นสำหรับธุรกิจ

ผู้นำต้องรู้ว่าทักษะใดบ้างที่มีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการขององค์กร เพื่อดึงความสามารถของกลุ่มคนเก่งให้เกิดผลดีต่อธุรกิจ

เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจลูกน้องเข้าให้ถึงความสามารถที่แท้จริงและส่งเสริมในจุดที่ลูกน้องต้องการเพื่อที่จะให้ลูกน้องสามารถแสดงความสมารถข้างในออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องมีความยุติธรรม

ข้อนี้สำคัญมากถ้าคุณมาลูกน้อง 2 คน คนหนึ่งรักมาก คนหนึ่งรักน้อยแต่คุณจะให้รางวัลกับคนที่คุณรักมากกว่าอีกคนหนึ่งไม่ได้ ถ้าทั้งคู่ทำดีเหมือนกันต่อให้รักหรือไม่รักก็ต้องให้เท่ากัน ถ้าทำผิด ก็ต้องลงโทษเท่ากันไม่สามารถเลือกที่รักมักที่ชังไม่เช่นนั้นคนที่ทำดีก็จะน้อยใจ อึดอัด คับข้องใจ สุดท้ายก็จะเป็นอย่างคำโบราณที่ว่าคับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยากครับ

4. การคำนึงถึงความเป็นบุคคลและพัฒนาบุคลากร

ผู้นำเป็นบุคคลที่จะต้องดูและเอาใจใส่ผู้ตามเป็นรายบุคคลทำให้ผู้ตามรู้สึกมีคุณค่าและมีความสำคัญพร้อมเป็นที่ปรึกษาและพัฒนาผู้ตาม

อาจจะมาในการให้โอกาสเรียนรู้ สร้างบรรยากาศของการให้การสนับสนุนโดยเอาใจใส่เป็นพิเศษถึงความแตกต่างในความต้องการ และปรับแก้ไขตามความจำเป็นของบุคคลเพื่อผลสัมฤทธิ์และการเติบโตของแต่ละคน

หากจะให้ผมสรุป ผู้นำที่ใส่ใจบุคลากรก็ควร:

ทำให้แน่ใจว่าพนักงาน หรือ ลูกน้องเข้าใจทิศทางของผู้นำได้เป็นอย่างดี ต้องรู้จักตั้งข้อสังเกตยุทธศาสตร์ของตนเองและรู้จักพัฒนามันอยู่ตลอดเวลา

รู้จักแชร์ความคิดและสอบถามความคิดของลูกน้องในระดับต่าง ๆ ในธุรกิจเพื่อให้ลูกน้องสามารถตอบสนองและก้าวไปได้ด้วยกันและไม่มีปัญหา

ช่วยบ่ม คนดี คือ สร้างคนดี คนเก่งขึ้นมา เป็นกำลังสำคัญของธุรกิจและสังคม เปิดทางให้คนรุ่นใหม่ได้เติบโตมาแทนที่เราในอนาคต

โดยท้ายที่สุดแล้ว กิจกรรมเหล่านี้สามารถนำพาธุรกิจก้าวไปข้างหน้าได้ (ไม่ใช่แค่ช่วยคนในทีมหรือองค์กรอย่างเดียว จนองค์กรโดยรวมไปไม่รอด)

5.สามารถสร้างกลุ่มคนที่มีความสามารถในการสานต่อธุรกิจ

ถ้าเราต้องการให้ธุรกิจของเราเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ผู้บริหารจำเป็นจะต้องมี ‘ใจเปิดกว้าง’

ซึ่งผู้นำที่มีอายุส่วนใหญ่ มักยิ่งอายุเยอะก็จะดื้อที่สุด…. เราอย่าเป็นผู้นำแบบนี้เด็ดขาด

ถ้าผู้นำเหล่านี้ ลดอีโก้ลงเพื่อเปิดใจรับฟัง และเรียนรู้คนหนุ่มสาวดูบ้าง คำพูดเหล่านี้อาจจะฟังแล้วระคายหู แต่ถ้าเราชอบฟังแต่ถ้อยคำที่ระรื่นหู เราก็จะไม่ได้เรียนรู้และพัฒนาเพราะผู้นำไม่ยอมเรียนรู้ก็จะค่อยๆ เป็นธุรกิจที่ตายแล้วแต่ยังหายใจ

ผู้นำที่รู้จักในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จะรู้ดีว่า “เพื่อให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน จำเป็นที่จะต้องสร้างผู้สานต่อที่จะทำให้ธุรกิจก้าวต่อไปได้”

ไม่ใช่แค่แผนระยะสั้นที่จะต้องประสบความสำเร็จ ผู้นำก็จำเป็นที่จะต้องรู้จักการวางแผนเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลในองค์กรเพื่อให้สามารถเติบโตได้ในระยะยาว ดังนั้นการสร้างหรือส่งเสริมให้คนที่มีความสามารถมาทำงานในด้านต่าง ๆ หรือ สามารถที่จะสืบทอดความรู้กันได้จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก สำหรับองค์กรที่จะอยู่ได้อย่างยั่งยืน

6. ผู้นำที่ดีจะต้องรู้จักติดตามข่าวสารใหม่ๆ อยู่อย่างสม่ำเสมอ

เพื่อนำมาปรับแผนและอัพเดทข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรหรือทีมอยู่เสมอมีความเข้าใจในสิ่งที่ตนเองรู้และนำสิ่งที่จะทำและสามารถสื่อสารไปถึงลูกน้องเพื่อที่ลูกน้องจะได้นำกลยุทธ์ดังกล่าวไปลงมือปฏิบัติจริง

ผู้นำต้องทำให้ลูกน้องเข้าใจว่าสิ่งที่ทำแล้วจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรนอกจากการสื่อสารแล้วการที่ผู้นำเป็นนักปฏิบัติหรือเป็นแบบอย่างที่ดีจะทำให้ลูกน้องมีแรงจูงใจที่ดีในการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ที่ได้ตั้งและเปลี่ยนแปลงเอาไว้ด้วย

7.มีการลงทุนในตนเอง           

ผู้นำที่มีประสิทธิภาพต้องไม่ปล่อยให้ตนเองเสียความตั้งใจลงต้องรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาทำตัวเป็นผู้เรียนอยู่ตลอดเวลาเรียนรู้จากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเพื่อพัฒนาตนเองให้พร้อมเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ

เราจะไม่สามารถเป็นบุคคลที่กล่าวมาใน 6 ข้อบนได้เลยถ้าผู้นาคนนั้นยังไม่รู้จักตนเองดีพอการที่จะสามารถนำคนอื่นได้นั้นจะต้องรู้จักตนเองต้องรู้ว่าสามารถทำอะไรได้ และอะไรบ้างที่ยังต้องปรับปรุง

ตัวผู้นำที่ดีนั้นจะต้องรู้จักพัฒนาตัวเองอยู่อย่างสม่าเสมอจะต้องไม่หยุดอยู่กับที่ ต้องพัฒนาตนเองทั้งในด้านการศึกษาหาความรู้ในเรื่องงานและเรื่องต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อหน้าที่การงาน (ซึ่งความท้าทายหลักจะกลายเป็นว่าจะหาเวลาที่ไหมมาทำเรื่องทั้งหมดนี้พร้อมกัน จึงกลายเป็นเรื่องของทักษะการบริหารเวลา และการตัดสินใจให้เร็วแต่ถูกต้องแทนด้วย)

เพราะผู้นำแต่ละคนก็มีลักษณะและสไตล์การนำที่เหมือนและแตกต่างกันอยู่มากมาย แล้วผู้นำแบบไหนกันละที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเป็นคำถามที่ไม่สามารถระบุเจาะจงได้เลยว่าผู้นาแบบไหนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะผู้นำทุกคนใช่ว่าจะสามารถประสบความสาเร็จไปไหนทุก ๆ สถานการณ์

ดังนั้นใน Leadership ทั้ง 7 ข้อดังกล่าวจะช่วยมาเสริมตรงนี้ได้ครับให้เรานำไปปรับใช้ในองค์ของตนเองและพัฒนาภาวะผู้ของตัวเองได้ดีขึ้นครับ

สุดท้ายนี้อย่างจะฝากไว้ว่าความสำคัญภาวะผู้นำและวัฒนธรรมองค์กรนั่นสำคัญมากที่ธุรกิจคุณควรมีตัวอย่าง เช่น ถ้าเรามีสองบริษัทมีพนักงาน 1,000 คนเท่ากัน แต่มีวัฒนธรรมองค์กรไม่เท่ากัน ย่อมจะเอื้อให้เกิดพลังชีวิตที่ต่างกัน และ สามารถสร้างผลงานได้ไม่เหมือนกันนี่คือพลังของ Corporate Culture ที่แม้จะมองไม่เห็นแต่มีความสำคัญมากครับ

“ต่อให้คุณมีทุน มีเทคโนโลยี 
มีอุปกรณ์ มีตลาด มีสินค้า
แต่ถ้าคนของคุณอยู่ด้วยกันแล้ว
ไม่ก่อให้เกิดพลัง
ธุรกิจของคุณก็ไปไหนไม่ได้ไกล!!”



Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด