ไม่ว่ายังไงเจ้าของกิจการก็อยากให้พนักงานรักองค์กรตัวเองทั้งนั้น
เพราะวิธีที่จะทำให้องค์กรโตเร็วและโตอย่างมั่นคงก็คือการทำให้พนักงานรักในสิ่งที่ตัวเองทำ
และถ้าพนักงานรักองค์กรสิ่งที่จะตามมาก็คือประสิทธิภาพในการทำงานที่มากขึ้น พนักงานลาออกน้อยลง และในฐานะเจ้าของบริษัท คุณก็จะเริ่มสนุกไปกับงานมากขึ้นด้วยเช่นกัน
แต่คุณจะทำยังไงให้พนักงานอยากเข้ามาทำงาน และรักในงานที่ตัวเองทำทุกวัน?
ทํายังไงให้พนักงานรักองค์กร
วิธีที่จะทำให้พนักงานรักองค์กรก็คือ การทำให้พนักงานรู้สึกว่างานตัวเองสำคัญและมีค่า อาจจะทำด้วยการให้อำนาจในการตัดสินใจพนักงานมากขึ้น สร้างทิศทางที่ชัดเจนให้พนักงานโตในบริษัทได้ ให้รางวัลหรือคำชมถ้าทำงานดี และเพิ่มสวัสดิการหรือผลประโยชน์ต่างๆในการทำงาน
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงในองค์กรเพื่อทำให้พนักงานมีความสุขมากขึ้นอาจจะใช้เวลา ความพยายาม หรือทรัพยากรอย่างมาก บริษัทมหาชนที่ผมเคยทำงานด้วยทั้งในและนอกประเทศล้วนลงทุนหลายล้านบาทต่อปีเพื่อทำให้พนักงานรักองค์กรตัวเองมากขึ้น
ซึ่งถ้าผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการไม่ตั้งใจจริงๆ มันก็ยากที่จะทำให้ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงนี้ออกมาดี
แต่ก่อนที่จะไปดูวิธีทำให้พนักงานรักองค์กรและมีความสุขมากขึ้นเรามาเข้าใจข้อดีของการทำให้พนักงานรักองค์กรกันก่อนครับ
ข้อดีของการให้พนักงานรักองค์กร
ทำไมเราต้องทำให้พนักงานรักองค์กรด้วย? มันสำคัญยังไงกันเหรอ?
เจ้าของธุรกิจบางคนอาจจะมองว่าพนักงานเป็นเหมือนเครื่องจักรหรือชิ้นส่วนในระบบองค์กรเรา แค่เราปล่อยทิ้งไว้ให้ทำตามงานที่ตัวเองสั่งหรือตามสัญญาว่าจ้างก็เรียบร้อยแล้ว
แต่สิ่งที่จะตามมาก็คือ พนักงานไม่สามารถทำงานออกมาได้ดั่งใจ หรือสามารถทำได้แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน
ซึ่งปัญหาก็เริ่มมาจากการที่พนักงานไม่มีกระจิตกระใจทำงาน หรือไม่รักในงานและองค์กรที่ตัวเองทำนั่นเหล่ะครับ
ข้อดีของการทำให้พนักงานรักองค์กรมีดังต่อไปนี้
- พนักงานตั้งใจทำงานมากขึ้น สามารถตัดสินใจได้แบบมีความรับผิดชอบมากขึ้น
- ประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกานเข้างานตรงเวลา การตั้งใจทำงานระหว่างวัน หรือแม้แต่การลาป่วยที่น้อยลง
- พนักงานลาออกน้อยลง ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาและทรัพยากรในการฝึกคนใหม่เรื่อยๆ
- พนักงานพร้อมที่จะชวนเพื่อนหรือคนรู้จักมาสมัครงาน ทำให้เวลาหาคนเพิ่มง่ายขึ้น
- พนักงานที่รักองค์กรจะเผยแพร่ความคิดที่ดีไปสู่พนักงานคนอื่น ทำให้เราประหยัดงบในการดูแลบริหารพนักงานได้เยอะขึ้นในระยะยาว
ข้อดีก็ดีมากใช่ไหมครับ แต่ข้อดีพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ เรามาดูวิธีทำให้พนักงานรักองค์กรและมีความสุขกับการทำงานกัน
วิธีทำให้พนักงานมีความสุขและรักองค์กร
อย่างที่ผมบอก วิธีที่จะทำให้พนักงานมีความสุขและรักองค์กรมีหลายอย่าง คุณสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับงบประมาน เวลา และทรัพยากรอื่นๆของคุณนะครับ
- สวัสดีการและเงินเดือน สิ่งที่ยากที่สุดที่เจ้าของจะยอมรับก็คือการเพิ่มเงินเดือนและสวัสดีการให้พนักงาน โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หากคุณคิดว่าธุรกิจยังไม่พร้อมที่จะเพิ่มเงินให้พนักงาน คุณสามารถเริ่มง่ายๆด้วยการซื้ออะไรให้พนักงานแบ่งกันใช้หรือช่วยพนักงานลดค่าใช้จ่ายแทน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อตู้เย็น ตู้กดน้ำ(คิดราคาต่อพนักงานต่อปีแล้วถือว่าไม่แพง) หรืออาจจะเป็นการเลี้ยงข้าวพนักงานอาทิตย์ละมื้อบ้าง สุดท้ายแล้วคุณต้องเข้าใจว่าไม่มีใครมีความสุขได้ถ้าเค้ายังมีหนี้หรือยังมีเงินไม่พอเลี้ยงครอบครัวด้วยซ้ำ
- ให้อำนาจในการตัดสินใจพนักงานมากขึ้น การฟังความคิดเห็นหรือนำความคิดเห็นของพนักงานมาใช้ในการติดสินใจด้วยคือวิธีเริ่มที่ดีครับ แน่นอนว่าในฐานะผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการคุณไม่สามารถให้พนักงานตัดสินใจทุกอย่างได้ แต่อย่างน้อยที่สุด เรื่องเล็กๆหรือเรื่องที่พนักงานต้องทำบ่อยๆ พนักงานควรมีอิสระในการทำหรือตัดสินใจเองบ้าง มันอาจจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกใจคุณที่สุดหรือมีประสิทธิภาพที่สุดในบางครั้ง แต่การปล่อยความควบคุมบางอย่างออกไปนอกใจจะให้เวลาคุณทำอย่างอื่นเพิ่มแล้ว ยังทำให้พนักงานมีความสุขอีกด้วย
- สร้างทิศทางที่ชัดเจนให้พนักงานโตในบริษัทได้ นอกจากอิสระในการคิดและการตัดสินใจ คุณควรให้อิสระในการเติบโตและพัฒนาด้วย ในฐานะที่ผมเคยเป็นพนักงานมนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน ผมบอกได้เลยว่าถ้าพนักงานไม่สามารถโตได้เค้าก็จะไปหาบริษัทที่ไตได้มากกว่า ในทางตรงข้ามถ้าเรามีทิศทางหรือโอกาสให้พนักงานโตได้ เราก็จะเปลี่ยนให้พนักงานเลิกมองปัญหาที่มีในปัจจุบันและมองอนาคตที่ดีกว่าได้ชัดเจนมากขึ้น เพราะฉะนั้นเวลาคุณวางแผนที่จะขยายธุรกิจ คุณต้องเริ่มคิดว่าพนักงานที่มีอยู่ปัจจุบันจะสามารถช่วยอะไรคุณได้ไหมในอนาคต
- ให้รางวัลหรือคำชมถ้าทำงานดี เจ้าของกิจการบางคนจะจมอยู่กับปัญหาการบริหารวันต่อวันจนลืมไปว่าพนักงานก็ต้องการคำชมและกำลังใจเหมือนกัน จากที่ผมทำงานมา ยิ่งบริษัทมีปัญหาเยอะ ยิ่งมีโอกาสให้พนักงานเสนอไอเดียหรือทำอะไรใหม่ๆได้มากขึ้น ซึ่งก็เป็นโอกาสที่คุณจะใช้ในการให้รางวัลและคำชม ผมคิดว่าจุดหลักของการบริหารธุรกิจก็คือการที่เจ้าของเลิกคิดที่จะบริหารเรื่องเล็กๆน้อยๆด้วยตัวเอง และปล่อยให้พนักงานทำ ถึงแม้ว่างานอาจจะออกมาไม่ดีเท่าเจ้าของทำเอง เราก็จะสร้างโอกาสให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้น
- ทำให้งานสนุกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งที่ทำงานหรือการเปิดโอกาสให้พนักงานทำโปรเจคใหม่ๆหรือร่วมงานกับคนใหม่ๆ เราก็สามารถทำให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เรียนรู้วิธีการทำงานแบบใหม่หรือกับผู้คนใหม่ๆ และทำให้พนักงานตื่นเต้นรู้สึกอยากเข้าบริษัททุกวัน คุณอาจจะซื้อโซฟามาให้พนักงานนั่งพักผ่อนเวลาพัก หรือหากคุณเป็นบริษัทที่จ้างเด็กรุ่นใหม่เยอะอาจจะซื้อเครื่องเล่นเกมมาวางไว้ให้คนเล่นหลังเลิกงานก็ได้ครับ
- ขอคำแนะนำจากพนักงาน ถ้าคุณสามารถประเมินผลพนักงานได้ คุณก็ควรให้โอกาสพนักงานประเมินผลบริษัทและเนื้องานด้วย พนักงานเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันบริษัทโดยเฉพาะพนักงานที่ทำในสิ่งที่คุณไม่ได้ทำทุกวัน เพราะฉะนั้นความคิดเห็นและประสบการณ์ตรงของพนักงานจะทำให้คุณสามารถทำให้ระบบการทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองสำคัญมากขึ้นด้วย คุณสามารถทำได้ง่ายๆด้วยการทำเซอร์เวย์สอบถามความคิดเห็นทุกหลายเดือนหรือทุกปีเป็นต้น
สิ่งที่เจ้าของกิจการควรทำให้พนักงานรักองค์กร
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ผู้บริหารต้องทุ่มใจทุ่มแรงกับการพัฒนาองค์กรด้วย
หากคุณมีความคิดที่จะทำให้องค์กรหรือบริษัทของคุณดีขึ้น คุณควรจะเริ่มแสดงสิ่งเหล่านี้ออกมา
- ผู้บริหารต้องเปิดใจกว้างและรับฟัง พนักงานคงไม่กล้ารายงานเรื่องแย่ๆถ้าเค้าคิดว่าคุณจะต่อว่าหรือไม่รับฟังความคิดเค้า เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการทำให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด คุณต้องแสดงให้พนักงานเข้าใจว่าคุณเปิดใจรับฟังความคิดเค้าจริงๆ คุณสามารถเริ่มได้ด้วยการรับฟังและทำตามสิ่งที่พนักงานเสนอเล็กน้อยก่อน หรืออาจจะเลิกปิดประตุออฟฟิศส่วนตัวเวลาทำงานก็ได้ พนักงานจะได้รู้สึกว่าคุณพร้อมให้เค้าเดินเข้ามาทุกเวลา
- ผู้บริหารต้องมองในแง่บวก ถ้าคุณอยากให้บริษัทคุณมองปัญหาในแง่บอก คุณก็ต้องเริ่มด้วยการทำให้เค้าดูด้วยการแสดงออกมาก่อน ยกตัวอย่างเช่นการโฟกัสเรื่องการแก้ปัญหาแทนที่จะโวยวายกับปัญหาที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว หรือการพูดถนอมน้ำใจพนักงานเวลาที่พนักงานไม่ได้ทำผิดหรือไม่ได้ตั้งใจให้เกิดปัญหาเป็นต้น การมองโลกในแง่บวกไม่ใช่การมองข้ามปัญหานะครับ มันคือการที่คุณเข้าใจว่าปัญหาเกิดขึ้นเพราะอะไรและพยายามหาวิธีแก้ไขด้วยด้วยเหตุผล
- ผู้บริหารต้องให้โอกาส ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการพูด โอกาสในการทำงาน หรือโอกาสในการอธิบายปัญหา ผู้บริหารและเจ้าของกิจการต้องเข้าใจว่าเรื่องเล็กๆแต่ละวันอาจจะมีค่าต่อพนักงานมาก หากอยู่ดีๆมีโปรเจคถูกยกเลิกหรือถูกเปลี่ยนทิศทางครั้งใหญ่ โอกาสที่เราจะให้พนักงานก็คือการที่เราเข้าไปช่วยนำข้อเสนอใหม่ๆที่พนักงานไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และขอความคิดเห็นจากพนักงานเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานต่อไปเป็นต้น
พนักงานจะรักองค์กร ถ้าองค์กรรักพนักงาน
ผมขอยกตัวอย่างองค์กรใหญ่ระดับประเทศอย่าง SCG หรือ ปตท นะครับ
องค์กรพวกนี้มีพนักงานที่เก่งระดับประเทศ (หรือบางคนระดับโลกด้วยซ้ำ) มากมาย
ซึ่งพนักงานพวกนี้บางคนเลือกที่จะอยู่ทั้งๆที่สามารถไปทำงานที่อื่นที่เงินเดือนดีกว่าได้ หลายคนที่อยู่รักองค์กรใหญ่พวกนี้เพราะ
- สวัสดีการคุ้มครองทั้งครอบครัว คนส่วนมากไม่ได้ทำงานเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อครอบครัว บริษัทใหญ่จะมีสวัสดีช่วยในเวลาฉุกเฉินพวกนี้ แน่นอนว่าคุณอาจจะไม่ได้มีงบร้อยล้านให้พนักงานทุกปีเหมือน ปตท แต่แค่คุณเข้าใจว่าทุกคนมีชีวิตส่วนตัวและสามารถหยิบยื่นความช่วยเหลือให้คนพวกนี้เวลาคับขันได้ พนักงานก็จะรักและซื่อสัตย์ต่อองค์กรไปอีกนาน คิดดูครับว่าช่วงที่ชีวิตเราดีบริษัทไหนก็ชอบเราทั้งนั้น แต่ช่วงที่ชีวิตเราแย่ บริษัทไหนจะคอยช่วยเหลือเราได้บ้าง
- อิสระในกาทำงานและเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยให้พนักงานไปฝึกอบรมหรือการให้พนักงานสามารถย้ายแผนกไปเรียนรู้งานอย่างอื่นได้ บริษัทที่ใหญ่ๆเค้าก็ให้โอกาสพนักงานทั้งนั้น (แต่ส่วนมากต้องอยู่มานานหรือทำงานมานานหลายปีหน่อย) ซึ่งก็น่าแปลกใจมาก เพราะบริษัทขนาดเล็กหรือ SME จริงๆควรจะมีความสามารถและอิสระในการปล่อยพนักงานมากกว่า (เพราะมีระบบน้อยกว่าและโครงสร้างบริษัทที่เอื้ออำนวยมากกว่า) แต่ผู้บริหารส่วนมากกลับไม่ค่อยนำข้อได้เปรียบพวกนี้มาใช้งาน
- เป้าหมายของพนักงานแต่ละคนคือ? มนุษย์ทุกคนก็ย่อมมีเป้าหมายเป็นของตัวเอง บางคนอาจจะมีบ้าน บางคนอยากจะมีครอบครัว สิ่งที่ผู้บริหารต้องทำก็คือการพูดคุยกับพนักงานแต่ละคนเพื่อที่จะทำความเข้าใจว่าเราจะช่วยพนักงานได้อย่างไรบ้าง ยิ่งบริษัทมีขนาดเล็กขั้นตอนนี้ยิ่งทำได้ง่าย แต่หากบริษัทเริ่มมีหลายแผนก สิ่งที่คุณควรทำคือให้อำนาจหัวหน้าแต่ละแผนกในการบริหารทีมตัวเอง หรือถ้าอยากจะช่วยทำให้งานบริหารพนักงานง่ายขึ้นคุณก็อาจจะลงทุนเรื่องด้วยการจัดโปรแกรมร่วมหรือซื้ออะไรที่แต่ละแผนกสามารถร่วมกันใช้ได้
เพราะไม่มีใครสามารถทำทุกอย่างได้ตัวคนเดียว สังคมของเราเลยอยู่ได้ด้วยการทำงานร่วมกันครับ
บริษัทและองค์กรก็เช่นกัน
ผู้บริหารและเจ้าของกิจการที่ดี คือคนที่ไม่พยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และลองปล่อยโอกาสให้พนักงานเริ่มต้นลองอะไรใหม่ๆและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ในระยะสั้นเราอาจจะไม่ไดผลลัพธ์ตามที่ตัวเองต้องการและอาจจะต้องเสียเวลาเพื่อช่วยเหลือบ้าง แต่ในระยะยาวคุณต้องให้อิสระกับคนที่ต้องรับผิดชอบงาน
หน้าที่ของคุณไม่ควรจะเป็น ‘การทำงานให้’ แต่ควรจะเป็นการแก้ปัญหาเมื่อจำเป็น การสอนงาน และการเพิ่มแรงจูงใจในการทำงานให้พนักงานเพิ่ม
ไม่ทราบว่าทุกคนเห็นด้วยกับบทความนี้มั้ยครับ? ใครมีเทคนิคบริหารพนักงานที่คิดว่าดีก็สามารถคอมเม้นบอกได้ข้างล่างนะครับ