มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2023 อันใกล้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก อย่างเต็มรูปแบบสำหรับธุรกิจทั้งหลายควรเรียนรู้วิธีลดต้นทุน บริษัทไว้เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และยังสามารถทำกำไรได้อย่างมั่นคง
หากใครคิดจะอยู่นิ่งไม่ลดต้นทุนการผลิตอาจประสบกับปัญหา เลวร้ายถึงขั้นเจ๊งไปเลยก็ได้ เพราะเมื่อไหร่ที่มีรอยรั่วของธุรกิจก็จำเป็นต้องมีตัวช่วยมาอุดให้ไปถึงฝั่งฝัน วันนี้เราจะพาทุกท่านมาเรียนรู้วิธีการลดต้นทุนบริษัท 7 ประการ บอกเลยว่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกประเภทธุรกิจ หากพร้อมแล้วมาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย
7 ไอเดียลดต้นทุน บริษัทให้ดีมีประสิทธิภาพสูง
สำหรับวิธีการลดต้นทุน บริษัททั้ง 7 ประการที่เราหยิบมาฝากทุกท่านวันนี้จะช่วยให้ลดต้นทุนได้จริงและมีความมั่นคง ประสิทธิภาพสูง สามารถทำตามกันได้ไม่ว่าธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็ก หากพร้อมแล้วเตรียมปากกามาจดกันได้เลย
1. คำนวณต้นทุนทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน
มากันที่วิธีการลดต้นทุน บริษัทข้อแรก ซึ่งจะช่วยให้การวางแผนลดต้นทุนเป็นไปอย่างราบรื่น การคำนวณต้นทุนอย่างละเอียดถือว่าจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะได้ทราบชัดเจนว่าส่วนไหนมีการใช้งบประมาณมากที่สุดและส่วนใดน้อยหรือไม่มีเลย การวิเคราะดังนี้จะเห็น Hidden Costs หรือค่าใช้จ่ายแฝงที่ซ่อนอยู่ได้ด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถจัดการได้อย่างตรงจุด
2. วางแผนงบประมาณและรัดเข็มขัดให้แน่น
อยากลดต้นทุนในการผลิตได้จริงต้องมาเริ่มขั้นตอนต่อมาเลย นั่นก็คือการกำหนดงบประมาณสำหรับส่วนต่าง ๆ ให้เหมาะสมมากที่สุด หากไม่มีการรัดเข็มขัดให้แน่น อยากซื้ออะไรเข้ามาก็ซื้อทั้งหมด ไร้กรอบกำหนด หรือไม่มีการศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดีก่อนซื้อก็ทำให้เงินก้อนนั้นเสียเปล่า ดังนั้นแผนที่ชัดเจนและการลงมือปฏิบัติอย่างไม่หละหลวมจะช่วยประหยัดต้นทุนได้ไม่น้อย
3. ลดต้นทุนจาก ‘แรงงาน’ และสถานที่
สำหรับการลดต้นทุน เพิ่มกําไรข้อต่อมาถือว่ากว้างและครอบคลุมมากไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพแรงงาน การใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ฟรีแลนซ์สำหรับงานที่ไม่ใช่ภารกิจหลักและการประชุมที่เปลืองงบประมาณ มาดูกันเลยว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
- บริหารแรงงานให้มีประสิทธิภาพ
ชั่วโมงการทำงานมีค่าอย่างยิ่ง เพราะหากเสียเปล่าและไม่สร้างประโยชน์ก็เป็นการใช้งบแบบไม่มีประโยชน์ ดังนั้นการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้พนักงานรู้ว่าต้องทำสิ่งใดบ้างและสามารถจัดลำดับความสำคัญได้ ในเวลาว่างของฝ่ายหนึ่งอาจยื่นมือไปช่วยอีกฝ่ายก็ได้ ทั้งนี้จะทำได้ต้องมีการแบ่งปันข้อมูลกันทุกส่วน
- ใช้บริการฟรีแลนซ์ในบางโอกาส
หากงานใดที่ไม่ใช่งานหลักของธุรกิจก็สามารใช้บริการฟรีแลนซ์ได้ ใช้งบน้อยลงและไม่มีการจ่ายสวัสดิการใด หรือการฝึกอบรม ยกตัวอย่างเช่น การทำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม สามารถเลือกใช้ฟรีแลนซ์เพื่อออกแบบโลโก้ กราฟิกได้ จะช่วยลดต้นทุนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
- การประชุมก็ประหยัดทรัพยากรได้
การประชุมสามารถทำผ่านช่องทางออนไลน์ได้ หากไม่ใช่ครั้งใหญ่หรือครั้งสำคัญ การอัปเดตข่าวสารสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากโขทั้งค่าสถานที่และค่าเดินทาง นอกจากนี้ควรจัดสรรการประชุมอย่างเหมาะสม ใช้เวลาให้คุ้มค่าและดำเนินหน้าที่ของแต่ละคนต่อ
4. การตลาดก็สามารถประหยัดได้
แน่นอนว่าการตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก แต่ปัจจุบันมีหลายช่องทางให้คุณเลือกซึ่งสามารถสร้างผลลัทธ์ได้ดีเท่าเดิมในงบที่น้อยลง ทำอย่างไรได้บ้างมาดูกันเลย
- การโฆษณาโดยใช้เครื่องมือออนไลน์
ในยุคดิจิทัล เครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังมากที่สุดคงหนีไม่พ้นสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายน้อยลงและแน่นอนมากขึ้น
- การตลาดแบบปากต่อปาก
การตลาดประเภทนี้ดีไม่น้อยเพราะนอกจากจะช่วยลดต้นทุน บริษัทแล้วยังสร้างความภักดีต่อแบรนด์ของเราได้อีกด้วย ดังนั้นริเริ่มไอเดียการตลาด Word of Mouth จะดีไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการรีวิวแง่บวกเกี่ยวกับองค์กร ให้ลูกค้าได้ชักชวนคนอื่นต่อและให้ผลตอบแทนผู้เชิญชวน
5. หันมาใช้เทคโนโลยี
เพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่สามารถทุ่นแรงและเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถประหยัดงบประมาณได้ในระยะยาวเช่นจากค่าใช้จ่ายพนักงาน เป็นต้น อย่างการจัดส่งสินค้าไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานหรือซื้อรถเอง สามารถใช้เทคโนโลยี แอปพลิเคชันใหม่ ๆ ได้อย่างมีประโยชน์ ทั้งนี้การเลือกเทคโนโลยีต้องมีความเหมาะสมด้วยบางครั้งคุณอาจจะไม่ได้เสียตังเพิ่มเติมเลยก็ได้ ดังนั้นศึกษาให้มาก
6. วิธีการ BARTER แลกเปลี่ยนสินค้า คุ้มค่าอย่างยิ่ง
มาต่อการลดต้นทุน บริษัท โดยใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้าบริการแทนการใช้เงิน เหมือนคุณขายเฟอร์นิเจอร์ ส่วนเพื่อนของคุณทำบริษัทบัญชีอาจจะจ้างเพื่อนด้วยการให้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สอยในออฟฟิศแทนการใช้เงิน ซึ่งมีคู่ธุรกิจอีกจำนวนมากที่สามารถจับมือร่วมกันได้ในปัจจุบัน ฉะนั้นจึงไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก
7. อุปกรณ์ที่ใช้ไม่จำเป็นต้องใหม่เสมอ
ข้อต่อมาการใช้อุปกรณ์อาจจะเลือกสรรของมือสองคุณภาพดีก็ได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงถึง 40% เลยทีเดียว ดังนั้นในส่วนที่หายไปจะสามารถสร้างกำไรได้มากขึ้นอย่างน่าพึงพอใจ