เทคนิคสุดปัง! ถ่ายรูปสินค้ายังไงให้ยอดขายพุ่ง

เทคนิคสุดปัง! ถ่ายรูปสินค้ายังไงให้ยอดขายพุ่ง

เสน่ห์ของภาพถ่าย นอกจากจะช่วยเก็บความทรงจำให้คงอยู่แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สื่อให้เห็นถึงความน่าสนใจ ความสวยงามที่คงอยู่ให้น่าดึงดูด ดังนั้นการถ่ายรูป จึงกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ช่วยสะท้อนความมีเอกลักษณ์ของสินค้า หรือบริการนั้น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการรับรู้ทางด้านการมองเห็น หลายธุรกิจจึงให้ความสนใจเรื่อง การถ่ายรูปสินค้ามาเป็นอันดับต้น ๆ

บทความนี้เราได้รวบรวมเทคนิคที่เรียกได้ว่าสุดต๊าช ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ถ่ายรูปสินค้า เพิ่มโอกาสให้ยอดขายพุ่งแบบฉุดไม่อยู่นำคู่แข่งได้แบบไม่เห็นฝุ่น ซึ่งจะมีเทคนิคที่น่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามพร้อมกันเลยครับ

การถ่ายรูปสินค้าคืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับงานธุรกิจของคุณ?

อย่างที่ทุกคนเข้าใจว่าการถ่ายรูปสินค้า คือ การถ่ายรูปสินค้า บริการ รวมถึงการจัดวางสินค้าต่าง ๆ ให้ มีความน่าสนใจ สวยงาม สะท้อนเอกลักษณ์ ความโดดเด่นของสินค้าให้น่าดึงดูดสายตามากที่สุด จนนำไปสู่ความต้องการซื้อสินค้านั้น ๆ ขับเคลื่อนธุรกิจให้ดำเนินต่อไปอย่างดี ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้า ที่สำคัญไม่แพ้กันคือสามารถนำรูปสินค้าที่ได้ มาใช้ในการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้อีกด้วย

เมื่อการถ่ายรูปสินค้าสำคัญกับธุรกิจในด้านภาพลักษณ์ และด้านการนำเสนอต่าง ๆ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าหากต้องการให้สินค้ามีความน่าเชื่อถือ ควรจ้างช่างภาพฝีมือดีเพื่อถ่ายรูปสินค้า บรรยากาศร้าน พนักงาน และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าเห็นแล้วมีความไว้วางใจ น่าเข้ามาใช้บริการ เรียกได้ว่าการถ่ายรูปสินค้าช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า แถมยังสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เทคนิคถ่ายรูปสินค้าให้ยอดขายพุ่งมีอะไรบ้าง?

·       ถ่ายรูปสินค้าซึ่งต้องให้มีพื้นที่ว่าง

หลายคนฟังแล้วอาจมองว่าเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้เทคนิคในการถ่ายภาพมากมาย แต่แม้จริงแล้วช่างภาพมืออาชีพทราบกันดีว่านี่ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สามารถสร้างเอกลักษณ์ให้ภาพออกมาดูดีและน่าสนใจได้ในเวลาเดียวกันได้ ผ่านการจัดพื้นที่หลังของภาพด้วยไอเดียที่แตกต่าง เน้นให้สินค้านั้น ๆ มีความโดดเด่นขึ้นมากยิ่งขึ้น พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ การถ่ายรูปสินค้าโดยการให้มีพื้นที่ว่าง ช่วยในเรื่องจุดโฟกัสทางสายตาของผู้ที่มอง ซึ่งองค์ประกอบภาพจะมีความสมดุล ดูไม่รกตามากจนเกินไป สามารถเข้าถึงสิ่งที่ต้องการนำเสนอได้อย่างชัดเจน แนะนำให้เลือกใช้ธีมที่สะอาดตา เน้นพื้นหลังคุมโทนที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้า เน้นการจัดวางที่เรียบง่าย ไม่วางพร็อพต่าง ๆ มากจนเกินไป  มีพื้นที่ว่างให้สามารถอ่านข้อความได้อย่างชัดเจนรองจากสินค้านั้น ๆ

·       เทคนิคความสมดุล 3 ส่วน ถ่ายรูปสินค้า

เทคนิคต่อมาที่ก็น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ เทคนิคสมดุล 3 ส่วน หรือ Rule of thirds ซึ่งหากคุณได้ลองศึกษาดูสักนิดแล้ว เชื่อเลยว่าจะเข้าใจการจัดวางสินค้า รวมไปถึงตำแหน่งที่เหมาะสมในการถ่ายรูปสินค้าให้ดูมีมิติได้มากขึ้น ทั้งนี้ นอกจากการใช้ถ่ายสินค้าแล้วยังนำไปปรับใช้ในการถ่ายภาพในชีวิตประจำวันได้อีกด้วยนะ ลักษณะการถ่ายจะเป็นการแบ่งรูปภาพออกทั้งหมด 3 ส่วน ใช้ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยถ่ายรูปสินค้าให้ไม่อยู่ตรงกลางภาพ ให้ภาพมีความสมดุลจากองค์ประกอบรอบสินค้า ทำให้น่ามอง ดูเป็นธรรมชาติ ด้วยการกำหนดเส้นตัด 4 เส้น (แนวนอน 2 เส้น , แนวตั้ง 2 เส้น) จะได้เป็นจุดตัด 9 ช่องตามตัวอย่างภาพด้านล่าง

เทคนิคถ่ายรูปสินค้าให้ยอดขายพุ่งมีอะไรบ้าง?

หากใครจะเลือกใช้เทคนิคนี้ อาจจะต้องใช้มีการฝึกฝนถ่ายรูปสินค้า หรือ มองตัวอย่างภาพสินค้าจากแบรนด์อื่น ๆ  บ่อยครั้ง เพื่อช่วยให้เพิ่มประสบการณ์ในการถ่ายรูปสินค้าได้ดีมากขึ้น แนะนำว่าให้ใช้โหมด Grid Line ในขั้นเริ่มต้นจะช่วยให้คุณเข้าใจการจัดวางได้เร็วขึ้นค่ะ

·       ถ่ายรูปสินค้าด้วยการจัดวางที่น่าสนใจ

เพราะความไม่ธรรมดาที่เกิดขึ้นกับรูปภาพสินค้าของเราจะช่วยดึงดูดความน่าสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า ซึ่งหลักการนี้นำมาใช้สำหรับถ่ายรูปสินค้าได้เช่นเดียวกัน โดยที่เราจะได้นำเสนอผ่านรูปภาพ เลือกจัดวางให้น่าสนใจมากที่สุด ให้ธุรกิจของคุณต้องการความแตกต่างไม่ซ้ำกับคู่แข่ง ตัวอย่างเช่น สินค้าของคุณคือ ปากกาที่เขียนลื่น จับง่าย ทนทาน อาจจัดวางสินค้าด้วยคอนเซปแปลกใหม่ แตกต่างจากการถ่ายรูปสินค้าทั่วไปด้วยพื้นหลังสีพื้น มาเป็นการจัดวางด้วยพร็อพ เพิ่มมิติด้วยการเล่าเรื่องราว หรือ การใช้แนวศิลปะเข้ามาเสริม ก็ได้เช่นเดียวกัน พร้อมกันนั้นควรนำเสนอด้วยมุมสินค้าที่จดจำง่าย องค์ประกอบของสินค้าครบครันร่วมด้วย

·       ถ่ายรูปสินค้าด้วยศิลปะการจัดพร็อพ

ปิดท้ายกันที่เทคนิคศิลปะจากการตชจัดพร็อพ ที่ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ช่างภาพทุกคนจะต้องเตรียมพร้อม มีส่วนที่ช่วยให้การถ่ายรูปสินค้าโดดเด่น ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวสินค้าได้มากกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นในมุมกลุ่มเป้าหมาย จะได้รับการสื่อสารที่ชัดเจนมากขึ้นตามไปด้วย เข้าถึงได้ง่ายมาก ๆ สร้างความเข้าใจได้รวดเร็วเพียงครั้งแรกที่มอง รู้ว่าสินค้านั้นคืออะไร สะท้อนตัวตนในด้านไหน มีความแตกต่างกับสินค้าคู่แข่งอื่น ๆ อย่างไรบ้าง เทคนิคนี้จะต้องใช้ทักษะด้านองค์ประกอบภาพ น้ำหนักภาพ ความสมดุล โทนสี ฯลฯ ผสมผสานไว้ด้วยกัน แนะนำว่าหากคุณกำลังเริ่มต้น สามารถศึกษาจากธุรกิจประเภทเดียวกับคุณก่อน ว่ามีแนวคิดในการจัดวางพร็อพอย่างไร มีอะไรที่น่าสนใจมาปรับใช้ในการถ่ายรูปสินค้าของคุณได้บ้าง ก็จะช่วยให้การถ่ายออกมาดีที่สุด

เทคนิคที่เรานำมาฝากนี้เป็นแค่บางส่วนที่ช่างภาพสาย ถ่ายรูปสินค้า แนะนำมาเท่านั้น คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติม และฝึกฝนเรื่อย ๆ พร้อมนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณ รับรองเลยว่าจะสามารถถ่ายรูปสินค้าออกมาได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน และหากใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจและกำลังมองหาช่างภาพมือโปร ถ่ายภาพสินค้า ให้อยู่ คุณสามารถเข้าไปใช้บริการ Fastwork.co ได้นะคะ เพราะแพลตฟอร์มนี้ได้รวบรวมเหล่าฟรีแลนซ์ด้านนี้ไว้ให้คุณมากมาย ในราคาที่คุ้มค่า คุณภาพงานที่การันตีผลงานที่ตรวจสอบได้ ช่วยให้คุณได้รูปภาพที่นำไปใช้ในการโปรโมทได้ไม่ซ้ำใครแล้ว ลองดูได้เลยอย่ารอช้า!!

การถ่ายรูปสินค้าคืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับงานธุรกิจของคุณ?

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด