เทคนิคการเขียนเรซูเม่ให้โดนใจ HR

เทคนิคการเขียนเรซูเม่ให้โดนใจ HR

เรซูเม่คือใบเบิกทางที่ให้คุณได้เข้าไปสู่ขั้นตอนการสอบสัมภาษณ์งาน ซึ่งตำแหน่งงานหนึ่งงานอาจมีคนที่สมัครเข้ามาแย่งชิงตำแหน่งเดียวกันไม่น้อย โดยเฉพาะในบริษัทหรือองค์กรที่มีชื่อเสียง ทำให้เรซูเม่ที่เป็นเอกสารแรกที่ทำให้ HR ได้รู้จักกับคุณกลายเป็นหัวใจสำคัญของการสมัครงาน เพราะคุณจะโดนใจกรรมการและถูกเลือกเพื่อเรียกเข้าสัมภาษณ์หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับเรซูเม่ที่น่าสนใจและแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่น ๆ 

HR หรือผู้รับสมัครพนักงานส่วนใหญ่ใช้เวลาแค่เพียง 7 – 8 วินาทีเท่านั้นในการดูเรซูเม่ของแต่ละคน ทำให้เรซูเม่ที่มีการเขียนอย่างชัดเจน ถูกต้อง และตอบโจทย์สำหรับงานนั้นมากที่สุดจะยิ่งได้เปรียบมากกว่า รวมทั้งถ้าส่งเร็วกว่า ก็ยิ่งมีโอกาสมากกว่าด้วย ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการเขียนเรซูเม่ที่สำคัญ เพื่อเตรียมพร้อมให้กับคนที่กำลังหางานได้งานมีโอกาสได้รับตำแหน่งงานที่ต้องการได้มากที่สุด

1. เรซูเม่ที่ดีควรสั้นและกระชับ

กฎข้อแรก ๆ ที่สำคัญมากในการเขียนเรซูเม่ที่ดีก็คือไม่ควรเขียนให้เยิ่นเย้อแต่เขียนได้ตรงประเด็น โดยความยาวไม่ควรเกินหนึ่งหน้ากระดาษ หรือมีมากกว่านั้นได้หากจำเป็นจริง ๆ อย่างอาชีพบางอาชีพที่ต้องอาศัยประสบการณ์ในการทำงานจำนวนมาก เป็นต้น และเรซูเม่ที่ดีก็ควรใส่เพียงข้อมูลที่อัปเดตแล้ว 

และเป็นประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่คุณต้องการสมัครเท่านั้น โดยไม่ต้องใส่รายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับการทำงานของคุณทั้งหมดตั้งแต่แรก โดยส่วนใหญ่มักจะใส่ประสบการณ์ทำงานที่ไม่เกิน 10 – 15 ปี เนื่องจากถ้าใส่ข้อมูลที่มากจนเกินไป ก็จะทำให้เรซูเม่ของคุณดูไม่เป็นระเบียบและกลบข้อมูลสำคัญและเกี่ยวข้องอื่น ๆ ทำให้เรซูเม่ที่ดีควรโฟกัสให้ถูกจุด ชัดเจน และถูกต้อง

2. ใช้เทมเพลตเรซูเม่ที่แตกต่าง

ผู้พิจารณาเรซูเม่ชื่นชอบเรซูเม่ที่มีเทมเพลตแตกต่างและไม่ซ้ำแบบกับคนอื่น เช่น เทมเพลตใน Microsoft Office ที่ดูไม่น่าสนใจเสียเลย หรือการเลือกใช้เทมเพลตที่น่าสนใจแล้วปรับเปลี่ยนให้เป็นสไตล์คุณเองให้ได้มากที่สุด โดยเรียงข้อมูลให้สมเหตุสมผล และเรียงจากข้อมูลที่สำคัญที่สุดก่อน เพราะผู้พิจารณาเรซูเม่อาจไม่ได้อ่านจบครบทุกตัวอักษร และสำหรับใครที่อยากดูตัวอย่างเรซูเม่ที่ดีพร้อมเลือกเทมเพลตที่น่าสนใจ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ Thai-Resume.com

3. พูดถึงประสบการณ์และทักษะในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่คุณต้องการสมัคร

การใช้เรซูเม่เดียวเพื่อสมัครทุกงานนั้นไม่ใช้วิธีที่ดีเลย แต่ควรปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมและตอบโจทย์กับตำแหน่งงานและบริษัทที่คุณต้องการร่วมงานด้วย และเขียนโดยเรียงข้อมูลที่สำคัญและเกี่ยวข้องก่อนรายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานของคุณได้มากกว่า หากคุณเคยมีประสบการณ์หรือตำแหน่งงานหลายงานมาก่อน ให้เลือก 3-4 ตำแหน่งงานแรกที่ตรงกับตำแหน่งงานที่คุณต้องการสมัครงานมากที่สุด แต่ถ้าคุณไม่เคยทำงานในสายงานที่ต้องการสมัครโดยตรง ให้เน้นที่ประสบการณ์ที่คุณเคยประสบมาก่อน และอธิบายว่าจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับโปรเจกต์หรือองค์กรที่คุณต้องการร่วมงานด้วยได้อย่างไรบ้าง

4. ยกตัวอย่างผลงานที่เคยได้ทำออกมาในรูปของตัวเลข

หากพูดถึงทักษะและประสบการณ์ในการทำงาน ให้พูดถึงผลงานและความสำเร็จที่คุณได้ทำผ่านตัวเลขหรือมาตรวัดต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านเรซูเม่ของคุณเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเคยทำงานในฝ่ายขายมาก่อน อาจจะอธิบายได้ว่า คุณสามารถโทรเพื่อหาลูกค้าทั้งหมดกี่สายต่อวัน และมีเปอร์เซ็นต์ที่มีบทสนทนาที่เกิดขึ้นจริง ๆ เป็นเท่าไหร่ หรือได้ลูกค้ามาจริง ๆ เท่าไหร่ หรือแทนที่จะเขียนว่าฉันมีประสบการณ์ในการทำงานด้านการขายมานานถึง 20 ปี เป็น ฉันได้ช่วยบริษัทลดรายจ่ายในการดำเนินงานครั้งล่าสุดได้มากถึง 23% เป็นต้น

5. สรุปเกี่ยวกับทักษะและประการณ์ในการทำงาน

เป็นการเขียนสรุปเกี่ยกวับทักษะ ประสบการณ์ รวมทั้งผลงานประมาณ 4-5 บรรทัด เพื่อให้ผู้อ่านเรซูเม่ได้ทำความรู้จักคุณได้แบบองค์รวมผ่านบรรทัดนี้

 6. ใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องในเรซูเม่ของคุณ

ให้อ่านโพสรับสมัครงานให้ดีว่า คุณสมบัติของพนักงานที่พวกเขากำลังมองหามีอะไรบ้าง แล้วให้นำคีย์เวิร์ดที่สำคัญเหล่านั้นมาใส่ไว้ในเรซูเม่ของคุณด้วย แน่นอนว่าเป็นคุณสมบัติและความสามารถที่ตรงกับคุณจริง ๆ และใส่ลงไปภายใต้หัวข้อประสบการณ์ในการทำงานและทักษะทั้ง hard skill และ soft skill ได้นอกจาก 6 ข้อที่เป็นเทคนิคสำคัญในการเขียนเรซูเม่ที่ดีแล้ว ก่อนที่จะกดคลิกส่งผ่านอีเมล ให้อ่านตรวจทานหลาย ๆ รอบเพื่อให้แน่ใจได้ว่าไม่มีข้อผิดพลาดซะก่อน เช่น การสะกดคำ อ่านแล้วลื่นไหลดีไหม การจัดเรียงเรียบร้อยดีหรือไม่ แกรมม่าถูกต้องหรือเปล่า เพื่อแสดงให้เห็นความเป็นมืออาชีพของคุณและแสดงว่าคุณมีความละเอียดรอบคอบมากน้อยแค่ไหน พยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใส่ชื่อบริษัทผิดเด็ดขาด อีกข้อที่สำคัญคือ อย่าลืมใส่ตำแหน่งงานที่คุณต้องการสมัครให้ชัดเจน ทั้งในหัวข้อเรซูเม่ และหัวข้ออีเมลด้วย และถ้าหากคุณต้องการดูตัวอย่างเรซูเม่สำหรับวิชาชีพต่าง ๆ รวมทั้งดาวน์โหลดเทมเพลตเรซูเม่ที่น่าสนใจ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ Thai-Resume

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด