10 เทคนิคขายของใน Shopee (เพิ่มยอดขาย) สำหรับมือใหม่

10 เทคนิคขายของใน Shopee (เพิ่มยอดขาย) สำหรับมือใหม่

การขายของบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee ก็ถือว่าเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพและมีฐานลูกค้าจำนวนมาก แต่ด้วยแพลตฟอร์มมีผู้ค้าจำนวนมากและมีการแข่งขันที่สูง หากคุณเป็นมือใหม่และต้องการเริ่มขายของบน Shopee แค่มีหน้าร้านออนไลน์อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยเพิ่มยอดขายได้

ข่าวดีก็คือ คุณสามารถเพิ่มยอดขายบน Shopee ได้ด้วยการทำความรู้จักฟังก์ชันการทำงานของแพลตฟอร์ม ที่มีฟีเจอร์ภายในมากมายอันช่วยให้คุณสามารถโปรโมตสินค้าและช่วยเพิ่มยอดขายได้ไม่ยาก จะต้องทำอย่างไรบ้างไปดูกันเลยครับ

10 เทคนิคขายของใน Shopee สำหรับมือใหม่

#1 หน้าร้านและรูปสินค้าต้องดึงดูด ใส่รายละเอียดสินค้าครบ

รูปภาพและกราฟฟิกถือเป็นส่วนสำคัญมากที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า เพราะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ความดึงดูดใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มากขึ้น คุณจึงควรใส่รูปสินค้าที่สวยงามชัดเจนและมีหลายมุมมองให้เลือกดู เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาทำความรู้จักรายละเอียดของสินค้าให้มากขึ้น

นอกจากรูปของสินค้าแล้ว คุณก็ควรใส่รายละเอียดสินค้าให้ถูกต้องครบถ้วน ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในส่วนที่ไม่สามารถใส่ลงบนรูปได้ ทั้งขนาด สี วัสดุ ฟังก์ชั่นการทำงาน และข้อมูลอื่นๆที่จำเป็น

นอกจากนี้ คุณก็สามารถดีไซน์หน้าร้านให้ดูสวยงามมีชีวิตชีวาด้วยการทำ Banner ตกแต่งให้ดูโดดเด่น ดูเป็นโทนเดียวกัน และทำให้แบรนด์ดูน่าซื้อครับ

#2 เลือกหา Keyword และ Hashtag

หากร้านของคุณเป็นเพียงร้านเล็กๆไม่ใช่แบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก การใส่คีย์เวิร์ดในชื่อสินค้าให้เหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะเจอสินค้าของเราได้ง่ายขึ้นผ่านการเสิร์ชหาสิ่งที่ต้องการบน Shopee

คุณสามารถเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมได้โดยการลองพิมพ์คำเกี่ยวกับสินค้าของคุณในช่องค้นหา ระบบการค้นหาก็จะโชว์คีย์เวิร์ดคำอื่นๆที่ลูกค้าเคยเสิร์ชขึ้นมาให้ ทำให้คุณได้ไอเดียว่าควรใช้คำไหนที่เหมาะสม โดยให้เลือกใช้คำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ ตั้งแต่คำกว้างๆไปจนถึงคำที่เฉพาะ หรือลองใส่ #hashtag ลงไปก็ช่วยเพิ่มโอกาสการขายสินค้าได้เช่นกันครับ

#3 ตอบแชทเร็ว (ยากกว่าที่คิด)

ในหลายๆครั้ง ลูกค้าจะยังมีคำถามเกี่ยวกับสินค้าที่ทำให้ยังไม่มั่นใจว่าจะซื้อสินค้าดีหรือไม่ หากผู้ขายตอบแชทได้เร็วเมื่อลูกค้ามีคำถาม ก็จะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในประสิทธิภาพการทำงานของร้านที่นำไปสู่การปิดการขายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และยิ่งคุณตอบแชทเร็วเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่ Shopee จะเลือกร้านของคุณให้เป็นร้านแนะนำมากขึ้นเช่นกันครับ

และถ้าหากมีบางเวลาที่คุณไม่ได้อยู่ประจำหน้าร้านหรือคุณอาจลาพักร้อน ก็สามารถตั้งค่าข้อความอัตโนมัติที่ช่วยบอกลูกค้าได้ว่าคุณจะกลับมาตอบข้อความของเขาเมื่อไหร่ เป็นการทำให้ลูกค้าวางใจ และไม่ต้องรอเก้อครับ

ข้อนี้ยากกว่าที่เราคิดนะครับ หากเราไม่ได้มีคนดูแลตลอดเวลา เราก็อาจจะตอบช้าได้ แปลว่ามีต้นทุนเยอะอยู่ ไม่อย่างนั้นก็ต้องไปพิจารณาเรื่อง Greeting Message เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราตอบทันทีแทน (แล้วเราค่อยให้แอดมินมาดูทีหลัง)

#4 ส่งของเร็ว แพคของแบบมืออาชีพ

เมื่อลูกค้ากดซื้อสินค้าแล้ว หนึ่งในสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าวางใจและกลับมาซื้อสินค้าอีกก็คือประสิทธิภาพ ในการส่งของที่รวดเร็ว โดยให้คุณเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่ไว้วางใจได้ จัดส่งของเร็ว รวมถึงเมื่อคุณได้รับออเดอร์สินค้า ก็ให้จัดการระบบแพ็คของให้มีประสิทธิภาพรวดเร็วมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

และคุณควรแพ็คสินค้าอย่างเป็นมืออาชีพ ให้พัสดุมีความแน่นหนา ทนต่อการขว้างหรือโยน และยิ่งสินค้ามีความเปราะบางมากเท่าไหร่ยิ่งต้องแพ็คของอย่างระมัดระวังครับ

#5 ขอรีวิวจากลูกค้า

คะแนนรีวิวสินค้าและบริการมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพของสินค้าจากลูกค้าที่ใช้จริง ถ้าหากเป็นไปได้ เมื่อลูกค้าได้รับสินค้าของคุณแล้ว คุณอาจจะเขียนโน้ตสั้นๆ ขอให้ลูกค้าช่วยรีวิวสินค้าที่ได้รับก็ได้ครับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนที่คุณจะได้รีวิวดีๆจากลูกค้า คุณก็ต้องทำให้สินค้าและบริการของคุณมีคุณภาพเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นตัวสินค้าเอง การบริการลูกค้า แพ็คเกจสินค้า การห่อพัสดุ และการจัดส่ง เพื่อให้ลูกค้าเก่ารีวิวอย่างประทับจนช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เข้ามาซื้อสินค้าของคุณได้ครับ

#6 กดโปรโมตสินค้า

รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเห็นสินค้าของคุณได้มากกว่าเดิมแบบฟรีๆ ด้วยปุ่มฟังก์ชันที่เรียกว่า “โปรโมตตอนนี้” หรือ “Boost Now” ที่ Shopee ให้โอกาสร้านค้าสามารถเข้าไปกดโปรโมตสินค้าได้มากถึง 5 รายการทุกๆ 4 ชั่วโมง แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้สินค้าที่ถูกกดโปรโมต ถูกดันอันดับขึ้นไปอยู่ต้นๆ จนลูกค้าเห็นสินค้าของคุณง่ายขึ้น

ด้วยวิธีนี้เป็นวิธีโปรโมทที่ฟรี คุณจึงควรกดโปรโมตสินค้าให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ครับ

#7 มีโค้ดส่วนลดและโปรโมชั่น

การใช้โค้ดส่วนลดและโปรโมชั่น จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าของคุณได้มากขึ้น โดยคุณสามารถทำได้ 2 ทาง ทางแรกก็คือการสร้างคูปองหรือโค้ดส่วนลด (Vouchers) ที่คุณกำหนดเงื่อนไขเองเช่นยอดการซื้อขั้นต่ำ โดยสามารถใช้ได้ทั้งเป็นส่วนลด และการมอบเหรียญคืนแบบ cashback โดยคูปองที่สร้างขึ้น ก็มีทั้งคูปองเฉพาะสำหรับสินค้านั้นๆและคูปองที่สามารถใช้ได้กับทั้งร้าน

ทางที่สองก็คือ การทำโปรโมชั่นส่วนลด (Discounts) ที่ทำการลดราคาสินค้าให้โดยอัตโนมัติในระยะเวลาที่กำหนด โดยสามารถทำได้เป็นรายสินค้าหรือจะทำส่วนลดทั้งร้านเลยก็ได้ และคุณสามารถตั้งเงื่อนไขได้ว่าแต่ละคนจะซื้อได้ไม่เกินกี่ชิ้น รวมถึงจะลดกี่เปอร์เซ็นต์ครับ

#8 ใช้ฟีเจอร์ Flash Sale, Bundle Deal

ทั้ง 2 ฟีเจอร์นี้เป็นเคล็ดลับที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างง่ายดายให้กับร้านค้าของคุณบน Shopee โดยสำหรับ Flash Sale จะเป็นการให้ส่วนลดแบบฟ้าผ่าในระยะเวลาสั้นๆสำหรับสินค้าในประเภทที่กำหนด

โดย Shopee จะเอาสินค้าของคุณขึ้นหน้าหลักของแอพ ทำให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าลดราคาสามารถเห็นได้ง่ายดาย และมีโอกาสที่สินค้าของคุณจะขายหมดภายในระยะเวลาไม่นาน

ส่วนฟีเจอร์ Bundle Deals จะเป็นการมอบส่วนลดให้ลูกค้าก็ต่อเมื่อซื้อสินค้าหลายประเภทหรือหลายชิ้นรวมกัน ตัวอย่างเช่น การซื้อสินค้าในร้าน 2 ชิ้นขึ้นไป รับเลยส่วนลด 5 เปอร์เซ็นต์, หรือซื้อ 3 ชิ้นขึ้นไป รับเลยส่วนลด 50 บาท เป็นต้น

#9 เข้าร่วมแคมเปญกับ Shopee

Shopee มักจะจัดแคมเปญลดราคาตามเทศกาลต่างๆ รวมไปถึงแคมเปญอย่าง 11.11 โดยให้ร้านค้าเข้าร่วมได้ฟรี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะร่วมแคมเปญกับ Shopee ได้ก็ต้องทำตามเงื่อนไขที่ช้อปปี้กำหนด เช่นมีส่วนลดตามที่กำหนด และมีรูปภาพและสินค้าที่น่าดึงดูดใจเพียงพอ

การร่วมแคมเปญกับ Shopee ยังทำให้มีโอกาสที่สินค้าของคุณจะได้อยู่บนแบนเนอร์ของแอป หรือร่วมอยู่ในการโปรโมททางการตลาดของ Shopee เอง ทำให้คนเห็นร้านของคุณมากขึ้นและคลิกเข้าไปดูสินค้าของคุณมากขึ้นครับ

#10 ทำมาร์เกตติ้งในแพลตฟอร์มอื่นๆด้วย

นอกจากการปรับแต่งร้านค้าบน Shopee และการสร้างโปรโมชั่นบนแพลตฟอร์มที่ดึงดูดใจแล้ว หากต้องการเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไปอีก ก็ต้องทำมาร์เกตติ้งโปรโมตสินค้าของคุณบนแพลตฟอร์มอื่นๆควบคู่กันไปด้วย

ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Line Shop, Google SEO หรือ Website ตามที่คุณเห็นว่าเหมาะสม เพื่อขยายขอบเขตการมองเห็นสินค้าให้กว้างไกลไปมากกว่าแค่บนแพลตฟอร์ม Shopee เอง อันจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ารู้จักสินค้าของคุณและเข้ามากดซื้อได้มากขึ้นครับ

การขายของบน Shopee ให้ขายดี สิ่งสำคัญคือการทำความรู้จักลักษณะและฟังก์ชั่นของแพลตฟอร์มให้ทะลุปรุโปร่ง แล้วค่อยๆลองผิดลองถูกเพื่อหากลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับสินค้าและร้านค้าของคุณ หวังว่าเทคนิคการขายบน Shopee ทั้ง 10 ข้อนี้จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้ดังหวังด้วยนะครับ

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด