เคยสงสัยกันใช่ไหมว่าการทํางานคนเดียวนั้นดีจริงหรือ? ในขณะที่บางคนชอบความเป็นอิสระทำฟรีแลนซ์อย่างสบายใจ บางคนชอบอยู่ในกรอบทำงานแบบบริษัททั่วไปเพราะมีเพื่อนร่วมคิดร่วมทำงานมากกว่า แน่นอนว่ารูปแบบการทำงานแบบใดแบบหนึ่งย่อมมีทั้งด้านดีและด้านลบ วันนี้เราจะมาเทียบให้ชัดว่าทำงานคนเดียวจะปังหรือพัง หากพร้อมแล้วมาดูกันเลย
มาทำความเข้าใจรูปแบบการทํางานคนเดียวกันก่อน
รูปแบบของการทํางานคนเดียวนั้นเป็นที่ถูกใจชาวอินโทรเวิร์ตอย่างมาก เพราะได้อยู่คนเดียวตามลำพัง คนกลุ่มนี้คิดเป็น 25 – 40% ของจำนวนประชากรโลกเลยซึ่งถือว่าเยอะมาก นั่นหมายความว่าพวกเขาสบายใจกับการทำงานคนเดียว โดยการทำงานด้วยตนเองทั้งหมดนอกจากจะได้ทำในสิ่งที่ชอบ ดำเนินการตามแผนของตัวเองไม่ต้องรอการตัดสินใจจากใครเพิ่มเติมหรือไม่ต้องเกรงว่าจะมีคนมาถ่วงงาน อย่างไรก็ตามการทำงานการทํางานคนเดียว Pantip ข้อเสียชี้ว่าจะทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวและส่งผลเสียด้านสุขภาพรวมถึงจิตใจ
เปิด 5 ข้อดีของการทำงานแบบฉายเดี่ยว
มาเริ่มกันที่แง่ดีของการลุยงานคนเดียวกันก่อน นอกจากจะคล่องตัวและไม่ต้องปรับตัวอะไรมากแล้ว มาดูกันเลยว่าจะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
1. การทำงานคนเดียวเพิ่มประสิทธิภาพได้
หลายคนคงจะเอ๊ะ! ปกติการทำงานเป็นทีม ยิ่งร่วมกันยิ่งดีไม่ใช่หรอ ซึ่งการทำงานหลายคนอาจส่งผลให้เสียสมาธิ เพราะอาจมีหลาย ๆ โปรเจ็กต์ให้มุ่งเน้น การทำหลายงานพร้อมกันก็อาจลดประสิทธิภาพลงได้ จากงานวิจัยในองค์กรที่มีการสร้างโต๊ะแบบเปิดให้ทุกคนสื่อสารกันได้สะดวกพบว่า ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง หากมีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อยกลับทำงานได้ดีขึ้น
นอกจากนี้นักวิจัย ‘ดร. เชอร์รี บอก คาร์เตอร์’ ยังกล่าวเสริมว่าเมื่อมีสิ่งรบกวนน้อยที่สุด การทำงานจะมักโอกาสสำเร็จเร็วขึ้น การขัดจังหวะเพียงเล็กน้อยจากสายโทรศัพท์หรือเพื่อนร่วมงาน อาจทำให้คุณกลับมาโฟกัสที่งานตัวเองต่อยากนั่นเอง
2. การตัดสินใจ
ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่าการทํางานคนเดียวทำให้ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอการประสานงานหรือการตัดสินใจของแต่ละฝ่าย อย่างไรก็ตามคุณต้องมีความมั่นใจในความสามารถของตัวเองและคาดการณ์ผลกระทบที่จะเกิดตามมาอย่างรอบคอบ
3. ความคิดสร้างสรรค์พุ่งกระฉูด
ใครว่าความคิดสร้างสรรค์มาจากการเป็นทีมเท่านั้น สาเหตุหลักที่ศิลปินหรือนักเขียนส่วนมากทำงานคนเดียวก็เพราะมีอิสระทางความคิดสูง ไม่อยู่ในกรอบหรือกฎเกณฑ์ของคนอื่น ความคิดสร้างสรรค์จึงบรรเจิดไม่น้อย ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยที่ออกมาชี้ว่าคนส่วนมากจะมีไอเดียสร้างสรรค์ที่สุดตอนอยู่กับตัวเองมากกว่าอยู่ในห้องประชุม
4. ลดความขัดแย้ง ใช้เวลาน้อยลง
ยิ่งมีจำนวนคนในทีมมากเท่าไหร่ ความคิดเห็นยิ่งมากเท่านั้นและส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ตรงกันเสียด้วย เพราะทุกคนต่างมีประสบการณ์และความเป็นตัวของตัวเองสูง อาจเกิดข้อโต้แย้งหรือการตัดสินใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งยาวนาน ซึ่งการทํางานคนเดียว ข้อดีก็คือไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นให้ปวดหัวและเสียเวลา งานเริ่มต้นได้รวดเร็วนั่นเอง
5. มีความเข้มแข็งและความก้าวหน้าในชีวิต
จริงอยู่ที่ว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมต้องการความสัมพันธ์แน่นแฟ้น แต่การอยู่คนเดียวก็สำคัญไม่แพ้กันเลย งานวิจัยเผยว่าผู้ที่มีความสามารถในการอดทนอยู่คนเดียวได้ ส่งผลให้มีความสุขและมีความพึงพอใจกับชีวิตตัวเองมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การทํางานคนเดียวยังมีเวลาได้ไตร่ตรองและนึกถึงการเปลี่ยนแปลงหรือความก้าวหน้าที่คุณต้องการ มากกว่าจะแพลนไปเที่ยววันหยุดกับคนอื่นหรือไปงานเลี้ยงฉลองต่าง ๆ ของบริษัท
เผย 3 ข้อด้อยของการทํางานคนเดียวที่ควรรู้!
ในย่อมการทํางานคนเดียว ข้อดี ข้อเสียมาด้วยกันเหมือนดาบสองคม เราจะพาทุกคนมาดูกันต่อว่าข้อเสียของการลุยเดี่ยวนี้เป็นอย่างไรบ้าง
1. การทำงานกับความสามารถ
การทำงานคนเดียวไม่มีสิทธิ์เลือกตำแหน่งดังนั้นคุณต้องทำทุกอย่างให้เป็น มีความรู้รอบด้าน บางครั้งอาจต้องทำเรื่องไม่ถนัดบ้าง ยกตัวอย่างเช่น การติดต่อประสานงานกับลูกค้าและการรับฟังคอมเพลนหรือฟีดแบกในด้านลบ ซึ่งต้องรับมือให้เป็น
2. ขาดสีสันและความหลากหลาย
สองหัวย่อมดีกวาหัวเดียวก็อาจจะจริงตอนที่คุณคิดงานไม่ออกและมีคนให้คำปรึกษาหรือเสนอแนะมุมมองที่แตกต่างออกไป ซึ่งอาจทำให้คุณมองโลกกว้างขึ้น หลักหนีจากความ Monotonous หรือความน่าเบื่อจากการทำหรือคิดแบบเดิมซ้ำ ๆ
3. ไม่ขัดแย้งกับคนอื่นแต่กับตัวเองก็ไม่แน่
สำหรับข้อต่อมาเราจะพามาเจาะลึกถึงผลเสียของการปั่นงานคนเดียวที่เกิดขึ้นเมื่อคุณต้องคิดงานคนเดียว ถึงแม้บางครั้งจะมีความคิดสร้างสรรค์และไม่ต้องเสียเวลารอใครตัดสินใจแถมไม่เกิดความขัดแย้งกับคนอื่นแต่อาจเกิดความคิดแง่ลบในหัวซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ตนเองได้ หากทำงานได้ไม่ตรงกับความคิด ยิ่งใครที่เป็นเพอร์เฟ็กต์ชันนิสต์ เสียงในหัวยิ่งจะดังขึ้นไปอีก ซึ่งกลับกลายเป็นว่าศัตรูก็คือตัวเราเอง ดังนั้นหาเพื่อนพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย