ใครที่กำลังคิดว่าการขายของในยุคดิจิทัลและเขียนแคปชั่นขายของออนไลน์ให้สะดุดตานั้นเป็นเรื่องง่าย คุณอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะไม่ใช่ทุกร้านบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหรือมาร์เก็ตเพลสจะประสบความสำเร็จได้เพียงแค่ ‘Copy + Paste’ แคปชั่นขายของบนกูเกิลมา ในโลกการค้าขายไม่ใช่แค่ยิงแอดก็เรียกลูกค้าได้ทันที สินค้าของคุณจะต้องดูมีสตอรี่และน่าจดจำ โดยการสร้างเรื่องราวบนโลกออนไลน์นั้นจำกัดอีกเพราะพื้นที่ของแคปชั่นก็ไม่ได้เยอะมาก
ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาเรียนรู้วิธีการคิดแคปชั่นขายของที่ช่วยดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดนใจตั้งแต่แรกเห็น พร้อมทั้งยกตัวอย่างแบบที่น่าสนใจให้เป็นไอเดียในการต่อยอด หากพร้อมแล้วมาดูกันเลยว่าจะน่าสนใจขนาดไหน
แจกเทคนิคการคิดแคปชั่นขายของออนไลน์ให้จึ้ง ตรึงใจลูกค้า
เพราะการตลาดบนโลกออนไลน์มีความสำคัญไม่แพ้กับตัวสินค้าเลย นอกจากภาพจะต้องสวยงามแล้วการเขียนแคปชั่นขายของออนไลน์ก็ต้องดีด้วย หากคุณยังไม่รู้แนวคิดในการเขียนแคปชั่นให้น่าสนใจ เตรียมตัวควักความครีเอทีฟออกมาให้พร้อมเพราะเรารวบรวมวิธีเขียนสุดปังมาไว้ที่นี่แล้ว
1. การเขียนแบบ ‘BAB: Before-After-Bridge’
มาเริ่มต้นกันที่เทคนิคข้อแรก เป็นวิธีเขียนแบบเปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อนและหลังการใช้งานสินค้าหรือบริการซึ่งมีตัวชี้วัดผลที่ชัดเจน เพื่อพิสูจน์คุณภาพของตัวสินค้า วิธีประเภทนี้มักพบในโฆษณาสินค้าบนหน้าจอโทรทัศน์แต่มีประสิทธิภาพบนโลกออนไลน์ด้วยจึงนิยมหยิบมากันใช้กัน โดยในแนวทางการเขียนดังนี้
B: ก่อนหน้า (Before) ที่จะพบกันสินค้าของคุณ ลูกค้ามี Pain Point หรือปัญหาอะไร
A: หลังจาก (After) ที่ลูกค้าได้ใช้สินค้าหรือบริการของคุณมีความสะดวกอย่างไรและแก้ปัญหาตรงไหนให้ดีขึ้นบ้าง
B: ระหว่าง (Bridge) ก่อนและหลังมีสินค้าของเราเป็นตัวเชื่อมที่จะให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแก้ปัญกาได้
ยกตัวอย่าง เช่น ปัญหาผิวหมองคล้ำ มีจุดด่างดำบนในหน้าเนื่องจากแสงแดด (B) กู้ผิวเสียเผยผิวกระจ่างใสได้ภายใน 30 วัน (A) สกินแคร์ X ของเราช่วยสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงพร้อมผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนด้วย x และ x เพื่อให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง (B) เป็นต้น
หรือจะเป็นโพสต์สั้น ๆ อย่าง : จะสั่งของจากจีนแต่ละครั้งก็ลำบากด้วยอุปสรรคทางภาษา (A) แล้วถ้ามีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยล่ะ (A) ง่าย ๆ แค่เปลี่ยนมาใช้ชิปปิ้งจีน-ไทยกับ X ที่อำนวยความสะดวกตั้งแต่การเจรจากับพ่อค้าจีน สั่งซื้อและจัดส่งถึงหน้าบ้านคุณ (B)
2. การเขียนแบบ ‘FAB: Feature-Advantage-Benefit’
สำหรับวิธีเขียนแคปชั่นขายของออนไลน์ข้อต่อมาจะมีความคล้ายคลึงกับแบบแรกแต่จะสลับตำแหน่งกันหน่อยพร้อมกับตอกย้ำถึงจุดเด่น โดยการพูดถึงคุณสมบัติของสินค้าว่ามีข้อดีอย่างไร (ต่างกับคู่แข่งในตลาดตรงไหน) โดยระบุดังนี้
F: คุณสมบัติ (Features) ของสินค้าและบริการเป็นอย่างแรกที่กล่าวถึง
A: จุดแข็ง (Advantages) หรือความโดดเด่นไม่เหมือนใครของสินค้าและบริการที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า
B: ประโยชน์ (Benefits) ที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อใช้งานบริการหรือสินค้าของคุณ
ยกตัวอย่าง แคปชั่นขายของเช่น ฟิล์มกันรอยและป้องกันความเป็นส่วนตัวของโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะตกหรือถูกขีดข่วนก็กันได้ (F) โดยตัวฟิล์มผลิตจากวัสดุพรีเมียมที่สามารถกันรอยและการมองเห็นของบุคคลอื่นได้จากทุกทิศทาง (A) จึงป้องกันความเป็นส่วนตัว ร่องรอยและจอแตกจากการตกจากที่สูงได้เป็นอย่างดี
3. การเขียนแบบ 4 C’s
สำหรับเทคนิคการคิดแคปชั่นขายของออนไลน์ข้อต่อมาเรียกได้ว่าน่าสนใจสุด ๆ เพราะคนรุ่นใหม่ต้องถูกใจอย่างปแน่นอนเพราะทั้งสั้น กระชับ ตรงไปตรงมา น่าเชื่อถืออีกด้วย โดยมีแนวทางการเขียนดังนี้
- ความชัดเจน (clear)
- ความกระชับ (concise)
- ความน่าสนใจ (compelling)
- ความน่าเชื่อถือ (credible)
4. การเขียนแบบ 4 U’s
สำหรับวิธีการเขียนข้อต่อมา มีความสั้นกระชับเช่นเคย แต่มีพลังมากเหมาะกับ Twitter ไม่น้อยเพราะใช้คำนิดเดียว โดยมีหลักการ ดังนี้
- มีประโยชน์ (useful)
- เร่งรีบ (urgent)
- มีเอกลักษณ์ (unique)
- มีความเฉพาะเจาะจงอย่างมาก (ultra-specific)
ยกตัวอย่างแคปชั่นขายของ ภาษาอังกฤษเช่น Website X: Training and answering all questions on Digital Marketing, no matter how long it takes. Only 4 seats available!
ไอเดียแคปชั่นขายของออนไลน์ที่ได้ใจคนอ่าน
นอกจากจะขายของให้น่าสนใจด้วยวิธีที่เราแนะนำได้แล้ว ยังมี ‘Slogan’ และ ‘Tagline’ อีกด้วย โดยวิธีที่เราใช้กันบ่อย ๆ คือสโลแกนของสินค้าแต่ละตัวซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละผลิตภัณฑ์ เราขอยกตัวอย่างทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อให้นำไปปรับใช้อย่างเหมาะสมกับแบรนด์ของคุณ จะสะดุดตาขนาดไหนมาดูไปพร้อมกันเลย
- ตัวอย่างแคปชั่นภาษาอังกฤษที่น่าสนใจใช้เปิดประเด็น
-The more (your product), the better
-The perfect gift for (someone)
-(Before+After). All you have to do is sign up!
-One thing making it easy and SO FUN to (make a coffee) with X + benefits
- ตัวอย่างแคปชั่นไทยสุดสร้างสรรค์
-รู้อะไรไม่สู้ รู้งี้สั่งตั้งนานแล้วนะ
-เปิดร้านเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสินค้าใหม่!
– ‘ของมันต้องมี’ โปรดี ๆ แบบนี้จะต้านยังไงไหว
– คำแรกติดใจ คำต่อไปติดคอ
สำหรับการเขียนแคปชั่นขายของออนไลน์นั้นนอกจากจะมีแนวทางให้แล้วหากเสริมความคิดสร้างสรรค์เข้าไปจะช่วยให้ดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว โดนชาวไทยเองก็ชื่นชอบแคปชั่นขายของ ฮาๆ กันอีกด้วย ทั้งนี้ต้องดูที่ความเหมาะสมกับแบรนด์และสินค้าของคุณด้วย