ในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ การทำงาน หรือการลงทุน คุณย่อมคาดหวังว่าสิ่งที่ลงทุนลงแรงไปจะได้ผลตอบแทนกลับมาคุ้มค่า แต่ถ้าหากคุณลงทุนไปเรื่อยๆโดยไม่มีการตรวจสอบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเลย ก็อาจจะไม่รู้เลยว่าที่เรากำลังทำอยู่นี้ ถือว่ามาถูกทางแล้วหรือไม่ เผลอๆทำไปทำมาอาจจะขาดทุนมากกว่าเดิมอีก
จึงดีกว่าถ้าหากมีเครื่องมือสักอย่างที่สามารถเข้ามาช่วยคุณประเมินผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนไม่ว่าในเรื่องใดๆ และเครื่องมือง่ายๆที่ผมอยากจะมาแนะนำประโยชน์วันนี้ ก็คือ “ROI”
5 ประโยชน์ของ ROI (ที่จะพลิกวิธีทำธุรกิจของคุณ)
อย่างที่ผมได้เกริ่นไปในบทความ Return on Investment (ROI) คืออะไร? (วิธีคำนวณ ROI) แล้ว ROI หรือ Return on Investment คือมาตรวัดผลตอบแทนในการลงทุน ที่คำนวณง่ายๆจากสัดส่วนระหว่างกำไรและต้นทุน โดยยิ่งการลงทุนนั้นๆ มีตัวเลข ROI ที่สูง ก็แปลว่ามีผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงนั่นเอง
ROI ยังมีประโยชน์มากกว่าแค่เรื่องการคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนนะครับ แต่คุณสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้หลากหลายรูปแบบ ประโยชน์ของ ROI จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆกันเลยครับ
#1 ช่วยตัดสินใจในธุรกิจและการลงทุน
ในการทำธุรกิจ คุณจะต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆหลากหลายเรื่อง เรื่องเหล่านั้นมักเกี่ยวข้องกับการลงทุนและผลตอบแทนในธุรกิจ โดยไม่ใช่แค่ช่วงเริ่มต้นธุรกิจเท่านั้น แต่คุณสามารถนำเอา ROI มาใช้ตัดสินใจในประเด็นต่างๆได้ตลอดอายุขัยของธุรกิจเลยล่ะครับ
ตัวอย่างในการนำเอา ROI มาใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจและการลงทุนก็อย่างเช่น การจัดซื้อเครื่องมือใหม่ การจ้างงานตำแหน่งใหม่ หรือแม้แต่การเพิ่มงบประมาณให้แก่ฝ่ายต่างๆในธุรกิจ คุณก็สามารถนำเอา ROI มาคำนวณเพื่อประเมินผลดูว่าหากลงเงินเพื่อขยายธุรกิจในด้านนั้นๆไปแล้ว คุณน่าจะมีผลตอบแทนกลับมาจากการลงทุนนั้นคุ้มค่าพอหรือไม่ หรือมีทางเลือกอื่นใดที่จะให้ผลตอบแทน ROI ได้คุ้มค่ากว่านั่นเองครับ
อย่างไรก็ดี การนำเอา ROI มาใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ เช่นการจัดซื้อเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งอาจมีงบประมาณในการลงทุนค่อนข้างสูง หากนำมาคำนวณ ROI แค่เพียงระยะสั้นๆ เมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้น ตัวเลข ROI ก็จะดูลดลง จึงอาจทำให้มองไม่เห็นผลประโยชน์ที่จะได้รับในระยะยาวได้ ทำให้หากคุณต้องการลงทุนมูลค่าสูง ก็อย่าลืมมองผลตอบแทนที่จะได้รับในระยะยาวด้วยครับ
#2 ช่วยวางแผนเงินกู้หรือระดมทุนในธุรกิจ
เพราะในการทำธุรกิจ เงินกู้เป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยเติมเต็มความฝันในการลงทุนทำธุรกิจของคุณให้เป็นจริง อย่างไรก็ดี การกู้เงินมาทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยงที่คุณนำเงินกู้มาลงทุนแล้วไม่ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง ธุรกิจก็อาจเต็มไปด้วยหนี้สิน หรือธนาคารและผู้ให้กู้ไม่ให้กู้เงินต่อนั่นเอง
ทำให้ถ้าคุณนำ ROI มาใช้ในการวางแผนเงินกู้สำหรับลงทุนในธุรกิจ คุณก็จะทราบได้ทันทีว่าควรจะกู้เงินเป็นจำนวนเท่าไหร่เพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากพอตามต้องการครับ
#3 ROI เป็นมาตรวัดผลประกอบการที่ดีที่สุด
นอกจากเรื่องการลงทุนและการกู้เงินแล้ว ระหว่างที่คุณกำลังดำเนินธุรกิจ คุณก็สามารถใช้ ROI มาเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำผลประกอบการธุรกิจได้อีกด้วย โดยเริ่มตั้งแต่การนำเอา ROI มาตั้งเป็นเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจที่คุณต้องการไปให้ถึง
โดยในช่วงไตรมาส สิ้นปี หรือสิ้นสุดช่วงระยะเวลาการดำเนินธุรกิจช่วงใดช่วงหนึ่ง คุณก็สามารถคำนวณเอา ROI จากการดำเนินงานมาเปรียบเทียบการเติบโตของธุรกิจในแต่ละช่วงเวลา เพื่อดูว่าผลตอบแทนที่เกิดขึ้นมากขึ้นหรือน้อยลงจากการดำเนินงานช่วงก่อนๆ รวมถึงนำมาเปรียบเทียบกับ ROI เป้าหมายที่ได้ตั้งเอาไว้ คุณจะได้เข้าใจถึงปัญหาหรือโอกาสที่เกิดขึ้น และพร้อมปรับปรุงพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ คุณยังสามารถนำเอา ROI มาประเมินและเปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่างแต่ละฝ่ายหรือแต่ละประเภทสินค้าได้อีกด้วย ตัวอย่างง่ายๆก็เช่น หากคุณขายหนังสือ คุณอาจเห็นว่า ROI ของหนังสือนิยาย สูงกว่า ROI ของหนังสือท่องเที่ยว คุณจึงพิจารณาลงทุนซื้อหนังสือนิยายมาวางขายเพิ่ม และลดสัดส่วนการวางขายหนังสือท่องเที่ยวลงนั่นเองครับ
#4 เปรียบเทียบ ROI กับผลประกอบการคู่แข่ง/ตลาด
คุณสามารถใช้ ROI มาเปรียบเทียบระหว่างตำแหน่งทางธุรกิจของคุณและคู่แข่งในตลาดได้ สิ่งนี้จะเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของคุณและทำให้แน่ใจว่าธุรกิจของคุณจะอยู่รอดได้
โดยแม้ถ้าหากคุณมีผล ROI ที่เป็นบวก หรือตรงตามเป้าที่ธุรกิจตั้งไว้ ตัวเลข ROI นี้จะไม่มีความหมายใดๆ ถ้าหากอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ROI ในตลาด แต่ถ้าหากธุรกิจของคุณมีค่า ROI สูงกว่าตลาด นั่นก็หมายความว่าธุรกิจของคุณแข็งแกร่งและอยู่เหนือคู่แข่งโดยรวมครับ
สิ่งนี้สำคัญสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ โดยถ้าหากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะตั้งเป้า ROI เป็นเท่าไหร่ในช่วงแรก ก็ให้คุณนำเอาค่าเฉลี่ย ROI ของตลาดสินค้าที่คุณอยู่มาเป็นมาตรวัด เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจของคุณทัดเทียมคู่แข่งอื่นๆในตลาดนั่นเองครับ
#5 ROI ช่วยกำหนดกลยุทธ์การขายและการตลาด
การขายและการตลาดเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต โดยในแง่ของการขาย คุณสามารถนำเอา ROI มาวัดผลกลยุทธ์การขายในแบบต่างๆได้ไม่ยาก โดยนำเอากำไรจากยอดขายมาเทียบกับต้นทุนกลยุทธ์การขายในแบบต่างๆ
แต่สำหรับการตลาดแล้ว แม้ว่าจะมีมาตรวัดที่ไม่ชัดเจนนัก แต่การนำเอา ROI มาใช้วัดผล ก็จะช่วยให้คุณสามารถทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยคุณอาจลองวัดผลโดยใช้ ROI กับแคมเปญการตลาดช่วงสั้นๆ ที่ย่อมมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายได้เช่นกัน แต่อย่าลืมวัดผลการตลาดในระยะยาวด้วย ROI ที่ใช้ปัจจัยอื่นนอกเหนือไปจากกำไรที่เป็นตัวเงิน เช่น การวัดการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ (Brand Awareness) หรือมุมมองที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ (Brand Perception) ที่มีส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ทางการตลาดในระยะยาวครับ
บทสรุปประโยชน์ของ ROI
ดังนั้นแล้ว มาตรวัดง่ายๆอย่าง ROI ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณสามารถประเมินผลการดำเนินงานของธุรกิจได้ในหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังนำมาช่วยในการตัดสินใจที่สำคัญๆ ที่ทำให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนได้คุ้มค่ามากที่สุด รู้แบบนี้แล้ว มาเริ่มต้นใช้ ROI เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตกันดีกว่าครับ