สำหรับเจ้าของกิจการขนาดเล็กถึงขนาดกลาง การเรียนต่อโท MBA อาจจะเป็นโอกาสให้เรียนรู้สิ่งใหม่ที่ไม่เคยมาก่อน และเป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะในการบริหารไปในตัวด้วย
การเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ต่างๆในโลกและในสภาวะธุรกิจรอบตัวเราหมายความว่าเจ้าของธุรกิจทั้งหลายต้องพร้อมที่จะปรับตัวอยู่เสมอ หากคุณสงสัยว่าการเรียนปริญญาโท MBA มีค่ากับเวลาของคุณหรือเปล่า ให้ลองพิจารณาประเด็นเหล่านี้ดู
การเรียน MBA จะเพิ่มโอกาสให้เจ้าของกิจการ ในการหาความรู้ใหม่เพื่อนำมาพัฒนาองค์กรของตัวเอง เช่นพัฒนาความสามารถด้านการบริหารธุรกิจของตัวเอง เรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลและวิธีการทำธุรกิจใหม่ๆ เข้าใจเทรนด์ของโลกให้มากขึ้น และ การเพิ่มศักยภาพของพนักงาน
4 เหตุผลที่ เจ้าของกิจการ ควรเรียนปริญญาโทMBA
#1 เรียนรู้ข้อมูลเชิญลึกเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารและความเป็นผู้นำ
หลักสูตรปริญญาโท MBA สอนการบริหารธุรกิจทั่วไป เพื่อให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับหลักการบริหารและเทคนิกการเป็นผู้นำแบบหลายรูปแบบ หมายความว่า เจ้าของกิจการจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารนอกเหนือจากสิ่งที่เคยนำอยู่ตอนนี้ ยกตัวอย่างเช่น คนที่เคยบริหารบริษัทขนาดเล็ก หรือทีมขนาดเล็กจะสามารถเรียนรู้วิธีบริหารทีมที่ใหญ่กว่าเดิมได้ ความรู้พวกนี้สามารถถ่ายโอนได้ง่ายและจะเป็นประโยชน์หากบริษัทโตขึ้น
#2 เรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลและวิธีการทำธุรกิจใหม่ๆ
MBA ยังสอนให้เราเข้าถึงข้อมูลและวิธีทำธุรกิจใหม่ๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการบริหารสมัยใหม่ หรือเครื่องมือล่าสุดที่เจ้าของธุรกิจสามารถนำมาปรับปรุงใช้กับบริษัทตัวเองได้ ยกตัวอย่างเช่นซอฟต์แวร์ทรัพยากรบุคคลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น แน่นอนว่าเราไม่สามารถปรับให้พนักงานในบริษัทใช้โปรแกรมใหม่หรือใช้ระบบใหม่ได้ง่ายๆหรอก แต่ปัญหาพวกนี้ก็ไม่ได้แก้ยาก เพราะเราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการและบริหารความเปลี่ยนแปลงในองกรได้ด้วย (Change Management)
#3 เรียนรู้เกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจระดับโลก
เทรนด์ธุรกิจเป็นสิ่งที่เจ้าของกิจการอาจจะมองข้ามได้ง่าย เพราะเจ้าของกิจการส่วนมากใช้เวลาอยู่กับลูกค้าและบริษัทตัวเองแค่นั้นเลยทำให้พลาดโอกาสที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมใกล้เคียง โลกในสมัยนี้เปลี่ยนไปเร็วมาก ผลกระทบระหว่างประเทศจีน ประเทศอเมริกา หรือประเทศรัสเซียบ่อยครั้งก็ทำให้ธุรกิจในประเทศไทยต้องปรับตัว
MBA จะสอนเกี่ยวกับแทรนด์พวกนี้ ทำให้เราสามารถตามโลกทันทั้งในห้องเรียนและหลักจากที่จบมาแล้วด้วย ยกตัวอย่างเช่นเทรนด์ในการทำธุรกิจออนไลน์โดยใช้บิ๊กดาต้า หรือวิธีการทำงานกับนักธุรกิจต่างประเทศเป็นต้น เราสามารถนำความรู้มาพัฒนาตัวเอง พัฒนาบริษัทและพัฒนาลูกน้องได้ในทีเดียวเลย
#4 การเพิ่มศักยภาพพนักงาน
ผู้บริหารที่มีข้อมูลเพียงพอจะสามารถดันทีมไปสู่อนาคตที่ดีกว่าได้ หลักสูตร MBA จะสอนทักษะในเรื่องการสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่นด้วย ต่อให้เราเป็นเจ้าของกิจการที่เก่งแค่ไหนเราก็ไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้หมด เพราะฉะนั้นถ้าเราฝึกฝนวิธีบริหาร พัฒนา และการกระจายงานให้ลูกน้องของเราได้ เราจะสามารถเพิ่มประสิบธิภาพของบริษัทได้ห้าเท่าสิบเท่าเลย
เมื่อไรที่เจ้าของกิจการควรเรียน MBA
ปัญหาคิดไม่ตกของคนทำธุรกิจก็คือจะหาเวลาว่างไปเรียนได้ยังไง แค่ทำงานวันต่อวันก็จะไม่มีเวลาอยู่แล้ว ไหนจะมีปัญหาร้อยกว่าอย่างให้ต้องคิดถึงอีก หากเวลาเป็นปัจจัยหลักของคุณ ผมคิดว่าเจ้าของกิจการมีอยู่สามตัวเลือกครับ
- เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ > เรียนคอร์สออนไลน์ เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการที่เริ่มทำกิจการ ไม่มีเวลาทำอะไรเลย แต่เวลามีปัญหาเช่นไม่เข้าใจการทำบัญชีแล้วไม่รู้จะไปถามใคร การสมัครคอร์สออนไลน์ก็คือการมีคลังความรู้เก็บไว้กับตัว เมื่อไรที่เราทำบัญชีไม่เป็น ดูงบการเงินไม่ออก ก็ให้กลับมาดูเป็นครั้งเป็นคราว เพื่อใช้เวลาให้มีประโยชน์ที่สุด
- ทำธุรกิจมาได้ 2-3 ปีแล้ว > เรียน Part Time MBA ในประเทศไทยมี Part Time MBA เยอะอยู่ครับ สามารถเลือกที่ชอบหรือที่สะดวกได้เลย ผมคิดว่า Part Time MBA เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการที่ยังไม่กล้าทิ้งงาน แต่ก็ยังอยากเรียนรู้อีก ข้อเสียคือเราจะไม่ได้ประโยชน์เต็มของการเรียนโทจริงๆ
- ทำธุรกิจมา 5+ ปี > เรียน MBA จากประสบการณ์ของผม ธุรกิจจะเริ่มอยู่ตัวหลังปีที่ห้า หากเราสามารถกัดฟันทำให้กิจการของเราอยู่รอดมาได้ขนาดได้ เราจะมีเวลาและทุนไปเรียนMBA แน่นอน ข้อดีอีกอย่างก็คือเราจะมีประสบการณ์เยอะมากไปแชร์กับเพื่อนในห้องเรียนได้ มีปัญหาอะไรก็สามารถปรึกษาอาจารย์ได้เช่นกัน
ข้างบนนี้เป็นข้อเสนอตามประสบการณ์ของผมนะครับ บางคนเก่งทำธุรกิจรุ่งตั้งแต่ปีแรกอาจจะตัดสินใจเรียนต่อทันทีเลยก็ได้ บางคนโชคร้ายเจอสภาวะเศรษฐกิจไม่ดีอาจจะต้องรอมากกว่าห้าปีเลย
ข้อพิจารณาอื่นๆในการเรียน MBA
- Connections และ/หรือ ความรู้ ในประเทศไทยมีแนวคิดเรื่องการเรียน MBA เพื่อหา connection เยอะ ซึ่งมันก็มีประโยชน์มาก แต่ผมคิดว่าหากอยากได้ connection จริงก็ต้องเลือกคอร์สที่ดีหน่อย หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะลองหาการ networking อย่างอื่นที่ไม่ต้องใช้เวลาเรียน 1-2 ปีเหมือน MBA ก็ได้ หรือถ้าอยากได้ทั้งความรู้และ connection พร้อมกันก็โอเคเหมือนกัน
- Executive MBA หรือ EMBA เป็นโปรแกรม MBA สำหรับรุ่นเก๋า ส่วนมากจะต้องมีประสบการณ์ทำงานมากกว่า 7-10 ปี + เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ทำงานมาพอประมาณ แล้วอยากจะเรียนกับคนที่มีประสบการณ์เท่ากับ ความรู้เท่ากัน หรือวัยเท่ากันด้วยครับ
- ปริญญาโทใบอื่น หากคุณคิดว่า MBA ไม่เหมาะเพราะมันกว้างไป อาจจะลองดูปริญญาอื่นไม่ว่าจะเป็นการตลาด การเงิน หรือแม้แต่ปริญญาเฉพาะทางเช่นวิศวะหรือวิทยาศาสตร์ก็ได้ครับ
MBA และ เงิน-เวลา-ผลตอบแทน
สุดท้ายนี้ปัจจัยในการเลือกเรียน MBA ก็มีแค่สามอย่าง หากคุณมีเงิน มีเวลา และอยากได้ผลตอบแทนจาก MBA ผมก็แนะนำให้เรียนเลย ผลตอบแทนส่วนมากก็จะเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจคุณส่วนใหญ่ เพราะคงไม่มีเจ้าของกิจการคนไหนอยากได้ใบปริญญาเพื่อขอเพิ่มเงินเดือน
แต่หากคุณคิดว่าคุณสามารถหา ‘ผลตอบแทน’ นี้ได้จากการทำอย่างอื่นที่ใช้เงินหรือเวลาน้อยกว่า ตัวเลือกใหม่ก็อาจจะไม่แย่ หรือไม่คุณก็เลือกทั้ง MBA และตัวเลือกใหม่ด้วยก็ได้ ไม่มีใครบังคับว่าคุณทำได้แค่อย่างเดียว
ผมคิดว่าคนที่จะได้อะไรจากการเรียน MBA มากที่สุดก็คือคนที่มีกิจการเป็นของตัวเอง เพราะเจ้าของกิจการเป็นคนที่ทำงานมาเยอะ มีประสบการณ์หลากหลาย เข้าใจในทุกส่วนของการทำธุรกิจตั้งแต่การตลาด การเงิน หรือแม้แต่ลูกค้าสัมพันธ์ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะสำหรับการเรียนเช่นกัน ท้ายสุดแล้วคุณมีตัวเลือกอยู่สามอย่าง เรียนตอนนี้ เลื่อนเรียนไปก่อน หรือไม่เรียนเลย