โดนก็อปสินค้า-ไอเดียทำอย่างไรดี? การดำเนินการและการป้องกัน

โดนก็อปสินค้า-ไอเดียทำอย่างไรดี? การดำเนินการและการป้องกัน

การหาสินค้าและไอเดียต่างเป็นสิ่งที่เราต้องลงทุนลงแรกมาก หากของเหล่านี้ถูกก็อก ถูกลอกมาใช้งาน เราก็คงรู้สึกถูกเอาเปรียบ ยิ่งเป็นกรณีที่ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ยิ่งแย่

ในบทความนี้เรามาดูกันว่าหากคนอื่นลอกไอเดียหรือสินค้าเราไปแล้ว เราควรทำอย่างไรได้บ้าง และขั้นตอนป้องกันในอนาคตของเรามีอะไรบ้าง

ขั้นตอนดำเนินการผู้ลอกสินค้าและไอเดียของเรา

ก่อนอื่นเลยเราต้องเข้าใจก่อนว่า เวลาเราถูกลอกไอเดียหรือแม้แต่ลอกสินค้าไปขาย หากเราไม่ได้มีลิขสิทธ์ความเป็นเจ้าของไอเดียหรือสินค้าเหล่านี้ (เช่น เป็นเจ้าของแบรนด์ เจ้าของสิทธิบัตรการออกแบบ) เราก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก 

อย่างไรก็ตาม ถึงเราจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันที แต่เราก็ควรมองหาวิธีป้องกันไม่ให้คนอื่นมาลอกไอเดียหรือสินค้าของเราได้อีก เช่น การสร้างแบรนด์ที่คนจดจำได้ หรือการลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้เราขายของได้ในราคาถูกกว่าคู่แข่ง

โดยขั้นตอนแก้ปัญหาเวลามีคนลอกสินค้าและไอเดียของเรามีดังนี้

#1 ตรวจสอบเรื่องลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ

สิ่งแรกที่ต้องรีบตรวจสอบก็คือลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ เช่น หากคนอื่นเอาชื่อสินค้า ชื่อแบรนด์ ชื่อบริษัทไปใช้โดยตรง หรือ หากนำสินค้าที่เราออกแบบเองไปใช้ (ในกรณีภาพวาดต่างๆเป็นต้น) ในส่วนนี้เราก็สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานได้เลย

ให้ลองรวบรวมข้อมูลเอกสารหรือหลักฐานทุกอย่างมาไว้ก่อน หรือจะลองหาทนายที่เราไว้ใจได้เพื่อขอคำปรึกษาก็ได้ (อย่างเพิ่งลงทุนด้านการจ้างทนายมาก ให้ทำเพื่อสอบถามข้อมูลก็พอ)

อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องทำใจไว้ว่าการลอกไอเดียสินค้าไปขาย (ขายของเหมือนกัน) นั้นดำเนินการทางกฏหมายได้ยากมาก ต่อให้เราเป็นเจ้าของ ‘สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์’ ก็ตาม เพียงแค่คู่แข่งเปลี่ยนแปลงนิดๆหน่อยๆก็ถือว่าไม่ได้ทำผิดทางกฏหมายแล้่ว

#2 ติดต่อขอให้เปลี่ยนก่อน

ต่อจากข้อที่แล้ว ถึงแม้ว่าเราจะสามารถเอาผิดทางกฏหมายกับอีกฝ่ายได้ แต่ในเชิงปฏิบัติเราก็ควรพยายามติดต่อให้อีกฝ่ายเปลี่ยนก่อน เช่น นำสินค้าออกไปจากร้าน หรือเปลี่ยนการออกแบบที่ลอกมาจากไอเดียเรา

ปัญหาของการดำเนินคดีตามกฏหมายก็คือขั้นตอนกระบวนการต่างๆใช้เวลานานมาก สุดท้ายแล้ววิธีที่ดีที่สุดก็คือการรวบรวมเอกสารและนำไปพูดกับอีกฝ่ายโดยตรง

ข้อแนะนำก็คือให้พยายามเก็บหลักฐานการพูดคุยให้เยอะที่สุด เช่นการเก็บแชท หลักฐานการติดต่อ หรือแม้แต่การอัดเสียงพูดโทรศัพท์ เพราะในกรณีที่อีกฝ่ายไม่ยินยอมทำตามคำขอร้องของเรา เราก็สามาถดำเนินการต่อได้ทันที 

#3 แจ้งความดำเนินคดี

ผมนำข้อนี้ไว้ส่วนหลังสุด เพราะเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากที่สุดและหากเป็นไปได้เราก็อยากแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี 

หากเป็นไอเดียที่เราเป็นผู้ผลิตเอง เช่นภาพวาดต่างๆ เราสามารถหาหลักฐานต่างๆมาพิสูจน์ได้ว่าเราเป็นเจ้าของจริงๆ หรือ หากเป็นสินค้าที่เราออกแบบเอง เราก็สามารถใช้เอกสารต่างๆเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของได้เช่นกัน

หมายเหตุ: ผมไม่ใช่ทนายและนี่ก็ไม่ใช่คำแนะนำทางกฎหมายนะครับ หากต้องถึงขั้นการพูดคุยเรื่องกฎหมาย ผมแนะนำลองคุยกับคนที่รู้เรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ด้านการออกแบบ

อย่างที่บอกนะครับ ยกเว้นว่าเราจะสามารถหาหลักฐานมายืนยันความเป็นเจ้าของไอเดียหรือเจ้าของการออกแบบสินค้าได้ ในส่วนนี้สิ่งที่เราทำได้ก็มีจำกัดมาก 

สำหรับคนที่อยากจะป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นมากกว่าเดิมในอนาคต ผมแนะนำให้ดำเนินการตามวิธีต่อไปนี้

การป้องกันการโดนก็อปสินค้า-ไอเดีย

#1 ความได้เปรียบทางธุรกิจ

หมายถึงการสร้างทรัพย์สินอะไรบางอย่างที่คู่แข่งลอกไม่ได้ เช่น connection ทางธุรกิจ หรือกระบวนการต่างๆที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของคุณ

ความได้เปรียบทางธุรกิจเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว และทำให้มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ถึงจะโดนคู่แข่งลอกแค่ไหน คู่แข่งก็จะไม่สามารถนำมาใช้สร้างรายได้หรือกำไรได้มากเท่ากับธุรกิจของเรา

#2 Brand

Brand คือการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของคุณ ต่อให้คนอื่นขายสินค้าชนิดเดียวกันกับคุณ แต่ถ้าคุณเป็นสินค้าที่มีแบรนด์ มีคนรู้จักเยอะ ยังไงสินค้าของคุณก็จะขายได้มีราคามากกว่า แถมลูกค้ายังกลับมาซื้อบ่อยกว่าด้วย

หากสินค้าหรือว่าไอเดียของคุณถูกสนับสนุนด้วยแบรนด์ที่คนรู้จักอยู่แล้ว ต่อให้ธุรกิจอื่นลอกไปบ้าง แต่ธุรกิจนั้นก็จะไม่สามารถขายได้ดีเท่าคุณ

การสร้างแบรนด์เป็นเรื่องที่เราต้องขยันทำเรื่อยๆเป็นเวลาหลายปี แต่เคล็ดลับก็คือมันไม่ได้ยากขนาดนั้น ให้ลองอ่าน คู่มือการสร้างแบรนด์ ของผมนะครับ

#3 ฐานลูกค้า

หมายถึงการเก็บรายชื่อและข้อมูลลูกค้าทุกคนที่เคยมาซื้อของคุณ และการเก็บข้อมูลประวัติการซื้อของลูกค้าเหล่านี้เพื่อใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมในอนาคต

ส่วนนี้เป็นข้อแนะนำที่ธุรกิจขนาดเล็กหลายๆที่ยังไม่ค่อยได้ลงทุนกันมาก การเก็บข้อมูลลูกค้าเป็นสิ่งที่เราควรเริ่มทำตั้งแต่วันแรกๆเพราะหากข้อมูลรวมกันมาเป็นเวลาหลายปีแล้วจะมีค่ามากเลย

ปัจจัยต่างๆในการตลาดต้องใช้เวลาในการหาข้อมูล เช่นการตั้งราคา การหาช่องทางการขาย การจัดโปรโมชั่นที่ลูกค้าชอบ หรือแม้แต่การออกแบบสินค้าออกแบบบรรจุภัณฑ์ ข้อมูลทางธุรกิจเหล่านี้ต่อให้คู่แข่งลอกสินค้าและไอเดียเราไป คู่แข่งก็ไม่สามารถทำตามได้ง่าย

หากคุณอยากทำให้การตลาดของคุณแข็งแกร่งขึ้น ไม่มีใครมาลอกได้ ผมแนะนำให้อ่านบทความเรื่อง การตลาด 4P

#4 จดลิขสิทธิ์-สิทธิบัตรทุกอย่าง 

ส่วนนี้เป็นส่วนพิเศษสำหรับคนที่ลงทุนลงแรงออกแบบสินค้าเอง กรณีที่เห็นได้บ่อยก็คือรูปภาพหรือภาพวาด

จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นของที่มีลิขสิทธิ์อยู่แล้ว ตราบใดที่เราสามารถหาหลักฐานได้เราก็สามารถป้องกันตัวเองได้

สินค้าที่จับต้องได้บางอย่างก็สามารถจดสิทธิบัตรได้เช่นกัน (หากเป็นการออกแบบใหม่ที่ดูเป็นนวัตกรรม) ซึ่งถ้าเราไม่รีบจดสิทธิบัตรอเราก็อาจจะโดนคนอื่นขโมยสิทธิบัตรหรือขโมยไอเดียนี้ได้

สุดท้ายนี้ ผมมองว่าการโดนลอกหรือโดนขโมยไอเดียนั้นถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยในโลกธุรกิจ 

เพราะฉะนั้นหากคุณรักในสิ่งที่คุณทำหรือเห็นว่าสิ่งที่คุณทำมีค่า หนึ่งก็คือคุณควรจะหาวิธีป้องกันไม่ให้คนอื่นสามารถลอกไอเดียของคุณง่ายๆ และ สองก็คือหาวิธีทำให้มันดีกว่าคนอื่นมากๆเลยต่อให้โดนลอก เราก็ยังมีความได้เปรียบอยู่ดี

บทความนี้เป็นบทความอธิบายเกี่ยวกับเรื่องของสินค้าและไอเดียต่างๆ แต่ถ้าคุณโดนก็อปรูปภาพและบทความ ผมแนะนำให้อ่านบทความนี้นะครับ โดนก็อปรูปภาพ-บทความทำอย่างไรดี

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด