ทำไมธุรกิจต้องทำโฆษณา? ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้

ทำไมธุรกิจต้องทำโฆษณา? ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้

ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ องค์ประกอบสำคัญอันทำให้เกิดเป็นธุรกิจที่อยู่รอดได้ก็คือคุณต้องมีสินค้าและบริการ มีการบริหารจัดการที่ดี มีทรัพยากรคน และแน่นอนว่าต้องมีลูกค้าที่พร้อมนำเงินมาซื้อสินค้าและบริการให้แก่คุณ

แต่อีกองค์ประกอบหนึ่งในธุรกิจที่สำคัญไม่แพ้กันและมักเป็นที่ถกเถียงในหมู่ผู้เริ่มต้นทำธุรกิจว่าสิ่งนี้จำเป็นหรือไม่ ก็คือ “การทำโฆษณา”

การโฆษณาให้ธุรกิจนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยในบทความนี้ผมจะมาบอกข้อดีของการโฆษณา รวมถึงรูปแบบต่างๆของการทำโฆษณาที่คุณควรรู้ จะได้สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้นั่นเองครับ

ทำไมธุรกิจต้องทำโฆษณา

การโฆษณาเป็นวิธีกระตุ้นให้คนสนใจซื้อสินค้า ช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่ให้กับธุรกิจ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับธุรกิจอื่น สร้างภาพลักษณ์และการรับรู้แบรนด์ที่ดี และ ทำให้ธุรกิจสื่อสารได้รวดเร็ว ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

ในความเห็นของผม ผมอยากให้มองแบบนี้ครับ ถ้าคุณเริ่มต้นธุรกิจสักอย่างโดยมีสินค้าและบริการที่ยอดเยี่ยม แน่นอนว่าคุณก็อาจมีลูกค้าขาประจำที่ยอมจ่ายเงินซื้อสินค้าของคุณ รวมถึงอาจมีคนรู้จักสินค้าของคุณเพิ่มจากการบอกเล่าปากต่อปาก

แต่อยู่มาวันหนึ่ง มีคู่แข่งที่ขายสินค้าหรือบริการยอดเยี่ยมในระดับเดียวกัน เขาได้โฆษณาสินค้าทั้งบนออนไลน์และช่องทางออฟไลน์ คุณคิดว่าธุรกิจของใครจะเติบโตได้ดีและเร็วกว่ากันครับ?

นอกจากจะได้รับการบอกเล่าปากต่อปากเช่นเดียวกันแล้ว สินค้าของคู่แข่งยังเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากกว่า เผลอๆอาจทำให้ลูกค้าประจำของคุณเปลี่ยนใจหันไปใช้สินค้าของคู่แข่งได้โดยไม่รู้ตัว

สำหรับคนที่สนใจทำโฆษณา ในส่วนนี้ผมมีคู่มือการทำโฆษณาแบบง่ายๆให้ทุกคนอ่านกัน สามารถดูได้ที่นี่ วิธีทำโฆษณาใน 9 ขั้นตอน

ข้อดีของการทำโฆษณา

#1 กระตุ้นให้คนสนใจซื้อสินค้าและบริการ

ข้อดีข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นหน้าที่หลักของการทำโฆษณาเลยก็ว่าได้ โดยเมื่อคุณทำโฆษณา คุณจะต้องสื่อสารออกไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายถึงคุณสมบัติของสินค้า, ราคาของสินค้า, ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ที่ใด, และมีโปรโมชั่นอะไรบ้าง

การสื่อสารข้อมูลเหล่านี้ออกไปด้วยวิธีการที่น่าดึงดูดใจ จะเป็นการกระตุ้นให้คนรับรู้ว่ามีสินค้าและบริการของคุณอยู่ในตลาด พร้อมกระตุ้นให้พวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าและเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณนั่นเอง

#2 ช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่

เนื่องจากในการทำธุรกิจ ตลาดสินค้าที่คุณอยู่นั้นมักมีลูกค้าใหม่เข้าและออกอยู่ตลอดเวลาตามเทรนด์ความต้องการในการซื้อสินค้า ทำให้การได้ลูกค้าใหม่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถปรับตัวเข้ากับตลาดได้ไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน

และคุณสามารถหาลูกค้าใหม่ได้ตลอดเวลาด้วยการโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อแนะนำสินค้าและบริการที่ลูกค้ายังไม่เคยใช้มาก่อนนั่นเองครับ

#3 ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

การโฆษณาสินค้าและบริการของคุณจะช่วยให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายรับรู้คุณสมบัติของสินค้าและนำไปเปรียบเทียบกับสินค้าคู่แข่งได้ และหากลูกค้าไม่ได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณผ่านการโฆษณาเลย ลูกค้าย่อมเลือกสินค้าหรือบริการคู่แข่งที่ให้ข้อมูลกับลูกค้าได้ครบถ้วนและน่าเชื่อถือมากกว่าแน่นอน

โดยในการเปรียบเทียบกับสินค้าคู่แข่งนี้ ลูกค้าก็จะพิจารณาทั้งความดึงดูดใจจากหน้าตาของสินค้า คุณสมบัติที่ดีกว่า เรื่องราวของสินค้าที่น่าสนใจกว่า หรือแม้แต่ราคาที่ถูกกว่า

นอกจากนี้ การโฆษณายังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ด้วยการรักษาลูกค้าเก่าให้ไม่เปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าจากแบรนด์คู่แข่ง ทั้งการโฆษณาเพื่อเตือนความจำลูกค้าว่ายังมีสินค้าและบริการของคุณอยู่ หรือแม้แต่การส่งโปรโมชั่นส่วนลดต่างๆที่แสดงให้เห็นว่าคุณยังให้ความสำคัญกับลูกค้าเก่าไม่แพ้กับลูกค้าใหม่เลยครับ

#4 สร้างภาพลักษณ์และการรับรู้แบรนด์

การโฆษณานอกจากจะช่วยสื่อสารถึงคุณสมบัติสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายแล้ว ยังช่วยสื่อสารเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ รวมไปถึงประเด็นต่างๆที่น่าสนใจให้ลูกค้าได้รับรู้ อันสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายให้ลูกค้าเข้าซื้อสินค้าของคุณได้ในภายหลังอีกเรื่อยๆ ในฐานะลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ครับ

โดยในการโฆษณาแต่ละครั้ง คุณสามารถกำหนดธีม มู้ด และโทน ของสิ่งที่คุณจะต้องต้องการจะสื่อให้ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) หรือสิ่งที่คุณต้องการให้ลูกค้ามีมุมมองเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณได้

นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างความเชื่อใจกับลูกค้าได้ ทั้งการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าในชีวิตประจำวันที่อาจเกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณโดยอ้อม หรือกระตุ้นให้ลูกค้ารับรู้ถึงปัญหาที่มีและวิธีแก้ไข ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้ในภายหลังอีกด้วยครับ

#5 สื่อสารได้รวดเร็ว ตรงกลุ่มเป้าหมาย

การที่คุณจะรอให้ลูกค้าของคุณเดินมาซื้อสินค้าและบริการจากการบอกเล่าปากต่อปากอาจใช้เวลานาน และคุณไม่สามารถควบคุมได้เลยว่าลูกค้าจะเกิดการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์และสินค้าของคุณเป็นวงกว้างเมื่อไหร่ การวางแผนโฆษณาที่ดีจะช่วยทำให้คุณสามารถกระตุ้นการซื้อสินค้าได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

คุณสามารถสื่อสารเกี่ยวกับสินค้าของคุณให้ลูกค้ารับรู้ได้อย่างรวดเร็วและตรงกลุ่มเป้าหมายได้โดยการเลือกพื้นที่โฆษณาที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ หรือเป็นพื้นที่ที่กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจ มองเห็น หรือได้ยินอยู่บ่อยๆครับ

แน่นอนว่าโฆษณาถึงจะมีข้อดีเยอะ แต่โฆษณาก็มีหลายรูปแบบเช่นเดียวกัน ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีวิธีทำงานไม่เหมือนกัน ทำให้ข้อดี (หรือข้อเสีย) แต่ละอย่างแตกต่างกันไปด้วย ในส่วนต่อไปเรามาดูกันว่ารูปแบบต่างๆของโฆษณามีอะไรบ้าง และทำอะไรได้บ้าง

รูปแบบต่างๆของการทำโฆษณา

ในปัจจุบัน เราสามารถ แบ่งรูปแบบการทำโฆษณา ได้ 2 รูปแบบหลักๆนั่นก็คือ

#1 การโฆษณาผ่านสื่อดั้งเดิม หรือสื่อออฟไลน์

โดยสื่อดั้งเดิมในปัจจุบันอาจเรียกได้ว่าถูกลดความสำคัญลงพอสมควร เพราะผู้คนล้วนหันไปให้ความสนใจกับข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์มากขึ้น แต่สื่อโฆษณาแบบดั้งเดิมก็ยังถือว่ามีความสำคัญกับการโฆษณาในปัจจุบัน เพราะถึงอย่างไรก็ตาม ผู้คนก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ดูโทรทัศน์ หรือฟังวิทยุได้ คุณสามารถโฆษณาสินค้าผ่านสื่อดั้งเดิมได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้ครับ:

Out of Home Media (OOH): สื่อโฆษณาที่เรียกว่า Out of Home Media คือสื่อในรูปแบบต่างๆที่คุณสามารถพบเจอได้เวลาออกจากบ้าน ทั้งป้ายบิลบอร์ดและป้ายโฆษณาแบบดิจิตอล ทำให้การเลือกทำเลตั้งป้ายที่กลุ่มเป้าหมายของคุณจะสามารถเห็นได้ตลอดเวลาเป็นเรื่องสำคัญ

สื่อโฆษณาแบบ Out of Home Media จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ซื้อจดจำรายละเอียดของแบรนด์ได้ จดจำสินค้าใหม่ๆที่แบรนด์มี และเมื่อลูกค้าต้องการจะซื้อสินค้า ก็จะเลือกแบรนด์ที่เขาเห็นโฆษณาซ้ำๆนั่นเอง

โฆษณาบนโทรทัศน์ (Television Commercial – TVC): การโฆษณาบนโทรทัศน์ จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ผ่านช่วงเวลาที่กลุ่มเป้าหมายดูโทรทัศน์อยู่ เช่นช่วง Prime Time ละครหลังข่าวสำหรับพนักงานออฟฟิศ หรือช่วงกลางวันสำหรับกลุ่มแม่บ้าน

โดยคุณสามารถสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ได้โดยคิดเป็นจำนวนเวลาตั้งแต่ 10 วินาทีไปจนถึง 3 นาทีเลยล่ะครับ และราคาก็จะขึ้นอยู่กับว่าช่วงเวลานั้นๆมีเรตติ้งการดูที่ดีมากน้อยแค่ไหน

นอกจากนี้ ในปัจจุบันคุณยังสามารถเลือกที่จะ tie in สินค้าเข้าไปในรายการโทรทัศน์ได้เลยโดยตรง อันจะทำให้ผู้ชมเห็นสินค้าของคุณระหว่างดูรายการโปรดโดยที่คุณไม่ต้องเสียงบประมาณไปกับการผลิต โฆษณาด้วยตัวคุณเองครับ

โฆษณาบนวิทยุ: ในปัจจุบัน โฆษณาบนวิทยุในประเทศไทยถือว่าลดน้อยลงไปมาก แต่ถ้าหากคุณยังมองเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณยังฟังวิทยุอยู่ก็สามารถยิงโฆษณาได้เช่นกันครับ โดยการโฆษณาบนวิทยุ คุณจะต้องเลือกสถานีที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ และทำการอัด spot โฆษณาด้วยเสียงที่ดึงดูดใจให้ผู้ฟังหันมาซื้อสินค้าของคุณครับ

การโฆษณาผ่านงานอีเว้นท์: ในกิจกรรมหรืองานอีเว้นท์ต่างๆที่ผู้คนให้ความสนใจ เช่นงานเทศกาลดนตรี งานแข่งกีฬา หรืองานนิทรรศการต่างๆ ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะสามารถลงโฆษณากับอีเว้นท์นั้นๆเพื่อเป็นสปอนเซอร์ได้ โดยทางผู้จัดอีเว้นท์ก็จะชูป้ายโฆษณาของคุณในบริเวณที่จัดกิจกรรมให้กลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการได้เห็น

การโฆษณาผ่านงานอีเว้นท์ถือว่าเป็นช่องทางที่ดีสำหรับใครที่ทำธุรกิจในรูปแบบ niche ที่มีกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างเฉพาะ เพราะหากคุณลงโฆษณากับอีเว้นท์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณอยู่แล้ว ลูกค้าก็จะเชื่อมโยง event นั้นๆกับสินค้าของคุณได้ทันที

#2 การโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์

อันถือได้ว่าเป็นพื้นที่โฆษณาที่ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญทางการตลาดในปัจจุบันจนหลากหลายธุรกิจขาดการโฆษณาแบบนี้ไปไม่ได้ คุณสามารถโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ได้บนแพลตฟอร์มหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น:

Facebook: ในฐานะที่เป็น Social Media Platform ที่ใหญ่ที่สุด ทำให้ Facebook มีฐานข้อมูลลูกค้าที่ละเอียดและหลากหลายมากๆ โดยแบ่งตามลักษณะประชากร (Demographics) และความสนใจของผู้อ่าน (Audience Interests) โดยแท้จริง

ทำให้เวลาคุณยิงโฆษณาผ่าน Facebook จะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการยิงโฆษณาได้ อย่างเจาะจงและง่ายดายผ่านโฆษณาในรูปแบบวีดีโอ รูปภาพ หรือสื่อผสมรูปแบบต่าง เช่น Facebook Canvas หรือ Product Catalog

นอกจากนี้ คุณยังสามารถทำการ Re-targeting หรือ Re-Marketing กระตุ้นคนที่เคยดูโฆษณาของคุณและมีความสนใจให้หันมาซื้อสินค้าของคุณได้อีก ด้วยเครื่องมือในการโฆษณาที่ครอบคลุมและใช้ง่าย ผ่านทั้งการสร้าง Lookalike Audiences และ Custom Audiences

Instagram: การโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Instagram จะคล้ายคลึงกับ Facebook ตรงที่คุณสามารถโฆษณาเจาะจงไปที่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเดียวกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจาก Instagram เน้นไปที่การดูเนื้อหาด้วยรูปภาพ (Visual Content) ที่ดึงดูดใจ ทำให้เวลาคุณต้องการจะยิงโฆษณาบน Instagram จึงต้องมีการถ่ายรูปสินค้าให้มีความละเอียดคมชัด มีคุณภาพ และมีการจัดวางสวยงาม เป็นรูปที่คนมองเห็นปุ๊บก็ทำให้อยากซื้อสินค้าเลย

นอกจากนี้ การยิงโฆษณาบน Instagram ควรเป็นโฆษณาที่สามารถปิดการขายได้ทันที ไม่ต้องให้ข้อมูลหรือสร้างการับรู้ที่ละเอียดยืดยาด เพราะไม่ใช่แบบฟอร์มสำหรับการให้ข้อมูล โดยให้ใช้รูปที่ดึงดูดใจพร้อมกับการใส่ปุ่ม Call t Action (CTA) ให้ซื้อทันที เช่น Buy Now หรือ Shop Now ครับ

Google: สำหรับการยิงโฆษณาบน Google จะเน้นการเจาะกลุ่มเป้าหมายผ่านพฤติกรรมการเสิร์ชหาข้อมูลของลูกค้าจาก keyword ต่างๆ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกความตั้งใจในการซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี โดยยิ่ง Keyword Search ละเอียดและยาวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแปลว่าคนๆนั้นสนใจในประเด็นนั้นๆ หรืออยากซื้อสินค้านั้นๆมากขึ้นนั่นเองครับ

โดยรูปแบบโฆษณาบน Google ก็จะมีทั้งการโฆษณาบนหน้าแสดงผลการเสิร์ช (Search Ads), การโฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ผ่านรูป ข้อความ หรือวีดีโอ (Display Ads), และการโฆษณาบนแอปพลิเคชั่น (Application Ads) ครับ

LINE: Application LINE ถือว่าเป็นแอปสำคัญของคนไทยที่มีการใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะใช้คุยกับเพื่อน ครอบครัว คุยงาน หรือแม้แต่การโพสต์หรือการอ่านคอนเทนต์ต่างๆในรูปแบบ Social Media

ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการยิงโฆษณากับ LINE คุณจำเป็นจะต้องลงโฆษณาผ่านกับ Partner ของ LINE เท่านั้น และโฆษณาก็จะแสดงผลทั้งบน Timeline, LINE TV หรือ LINE Today และคุณยังสามารถยิงโฆษณา ให้เจาะจงกับกลุ่มเป้าหมายได้ผ่านเครื่องมือ Lookalike Audience คล้ายกันกับ Facebook

นอกจากนี้ คุณยังสามารถยิงโฆษณาให้ลูกค้ามาเพิ่มเป็นเพื่อนกับบัญชี LINE OA ของแบรนด์คุณได้อีกด้วย จึงทำให้คุณสามารถโปรโมทสินค้าผ่านการ Broadcast ให้คนที่เป็นเพื่อนกับคุณได้อย่างง่ายดาย

บทสรุปข้อดีของการทำโฆษณา

ด้วยรูปแบบต่างๆของการทำโฆษณาที่ผมยกมานี้ ก็น่าจะพอเป็นแนวทางให้คุณได้เลือกใช้สื่อช่องทางต่างๆเพื่อโฆษณาสินค้าหรือบริการของคุณให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด

ผมเชื่อว่าทุกธุรกิจล้วนมีความภูมิใจในสินค้าและบริการที่ตนมอบให้กับสังคม แต่จะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าหากคุณทำให้สังคมรับรู้ด้วยว่าธุรกิจของคุณมีดีผ่านการโฆษณา อันนอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขายให้คุณแล้ว ยังช่วยทำให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดภายใต้สภาวะตลาดและเศรษฐกิจที่แข่งขันกันสูงในปัจจุบันได้นั่นเองครับ

การทำโฆษณาผ่าน Facebook นั้นมีความสำคัญต่อธุรกิจในปัจจุบันมาก โดยเฉพาะการทำธุรกิจออนไลน์ การใช้บริการจากบริษัทรับทำ Agency จึงมีจุดประสงค์เพื่อช่วยในเรื่องของการเข้าถึงแบรนด์รวมถึงยอดขายของแบรนด์ด้วยเช่นกัน ใครที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำตลาดออนไลน์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Minimice Group บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ชั้นนำในประเทศไทย พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา แนะนำ และใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ พร้อมช่วยนำพาธุรกิจของคุณขึ้นไปสู้จุดสูงสุดของกลุ่มธุรกิจ 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 

Tel: 098-867-8937
Line: @minimicegroup
Email: info@minimicegroup.co.th

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด