ขายอะไรดีตอนเย็นหน้าบ้าน – คู่มือแนะนำสำหรับมือใหม่

ขายอะไรดีตอนเย็นหน้าบ้าน - คู่มือแนะนำสำหรับมือใหม่

สำหรับคนที่มีบ้านอยู่ในทำเลดี มีคนเดินผ่านหน้าบ้านเยอะ การหาสินค้าง่ายๆมาขายก็เป็นทางเลือกที่ดี หากเราหาเวลาตอนเย็นหลังเลิกงานมาขายสินค้าก็เท่ากับว่าเราใช้ทั้งเวลาและสถานที่ให้เป็นประโยชน์ด้วย

ในบทความนี้เราจะมาลองดูกันว่าสินค้าอะไรที่น่าขายตอนเย็นที่หน้าบ้านของคุณ และ ข้อแนะนำที่เราควรรู้ก่อนเริ่มขายมีอะไรบ้าง

ขายอะไรดีตอนเย็นหน้าบ้าน?

ผมคิดว่าคนส่วนมากที่อยาก ‘ขายของตอนเย็นหน้าบ้าน’ ก็คงเป็นคนที่มีธุระหรือหน้าที่ต้องทำตอนเช้า ตอนกลางวันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ผมจะคัดมาแค่ไอเดียของหน้าขายที่เราไม่ต้องเสียเวลาเตรียมตัวนาน ในส่วนนี้หากคุณเป็นมือใหม่ก็ไปลองศึกษา ‘ข้อจำกัด’ ของการขายของแบบนี้ได้ที่หัวข้อย่อยถัดไปได้ 

อาหารที่ทำง่าย เตรียมตัวไม่นาน – อาหารที่น่าทำก็คืออาหารที่สามารถทำได้ง่าย หรือใช้เวลาเตรียมตัวไม่นาน ในกรณีนี้ก็ขึ้นอยู่กับทักษะและความชอบของคุณด้วย แต่โดยเบื้องต้นแล้ว อาหารทอดหรืออาหารปิ้งก็เป็นสิ่งที่ทำง่าย ตราบใดที่คุณมีเครื่องมือในการทำอาหาร 

ของกินเป็นของที่คนคิดว่าขายได้ง่ายสุด แต่นอกจากว่าคุณทำเป็นอยู่แล้ว และคุณมีเวลาในการเตรียมตัวเยอะ โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าอาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่ ที่สำคัญก็คือหากคุณไม่เคยทำอาหารและไม่เคยเริ่มขายมาก่อน คุณจะกะของขายได้ยากมาก ฉะนั้นถ้าคุณยังไม่พร้อมด้านอาหาร ผมแนะนำให้ดูตัวเลือกด้านล่างแทน

ของหวานที่เก็บได้นาน – ปัญหาของการขายของคาว หรืออาหารเป็นมื้อก็คือเราจะมีช่วงเวลาในการขายแค่แป๊บเดียว ซึ่งก็คือตอนที่คนกินข้าวเย็น แต่ถ้าเราขายของหวาน โดยเฉพาะของที่เก็บไว้ได้นาน ลูกค้าก็สามารถซื้อของไปกินภายหลังได้ 

ขนมกินง่ายๆ เดินไปกินไป – เนื่องจากว่าคุณขายของหน้าบ้าน คุณก็จะมีพื้นที่ในการขายที่จำกัด ทำให้ไม่สามารถรับลูกค้าได้เยอะ หนึ่งในวิธีแก้ปัญหานี้ก็คือการขายของที่คนสามารถเดินไปกินไปได้ ไม่ต้องซื้อกินทันที สินค้าพวกนี้ก็มีหลากหลายตั้งแต่ผลไม้ต่างๆ ขนมปัง หรือแม้แต่อาหารทานเล่นง่ายๆ

จุดสำคัญก็คือ คุณควรพยายามคัดแค่ขนมหรือของหวานที่เก็บได้นาน ต่อให้เราขายไม่ออกในช่วงแรกเราก็จะได้มีโอกาสในการระบายสินค้าต่อภายหลัง ในตอนแรกให้เริ่มแรกๆไว้ก่อนก็ได้

ของชำที่ขายได้เรื่อยๆ – จริงๆแล้ว ของชำเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าขายง่ายกว่าของกินเสียอีก เพราะของกินมีตัวเปรียบเทียบเยอะ คนสามารถเลือกกินอะไรก็ได้ แต่ในบางครั้งร้านขายของชำกลับมีคู่แข่งน้อยกว่า (ขึ้นอยู่กับทำเลด้วย)

ส่วนมากของชำที่คุณควรจะขายก็คือของชามที่มีราคาน้อย คนขี้เกียจออกไปวนขับรถหา แต่ก็ไม่สามารถรอซื้อออนไลน์ได้ ในส่วนนี้คุณสามารถศึกษาจาก 7-11 ได้เลย เพราะ 7-11 แต่ละสาขามีของขายไม่เหมือนกัน หากสาขาใกล้ตัวคุณไม่มีขายสินค้าบางอย่าง นั่นก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าคุณเจอสินค้าน่าขายแล้ว

คำแนะนำในส่วนนี้อาจจะฟังดูกว้างไปหน่อย แต่นั่นก็เพราะว่าจริงๆแล้วปัจจัยหลักในการเลือกสินค้ามาขายก็ขึ้นอยู่กับ ‘คู่แข่งของคุณ’ หมายความว่าตราบใดที่คุณยังสามารถหาสินค้า (หรือของกิน) ที่แตกต่างจากสิ่งที่คนอื่นสามารถหาได้จากในพื้นที่ใกล้ๆ โอกาสในการขายก็มีเยอะ

สรุปก็คือคุณต้องทำการสังเกตรอบข้าง (พื้นที่แถวบ้าน) ของคุณ แล้วดูว่าสินค้าแบบไหนขายดี และสินค้าแบบไหนที่มีความใกล้เคียง ที่คนน่าจะสนใจเพิ่มเติมแต่ยังไม่มีใครขาย

ในส่วนต่อไปเรามาทำความเข้าใจข้อจำกัดของการขายของหน้าบ้านตอนเย็นครับ ผมแนะนำให้ทุกคนอ่านดูเพราะว่าจะทำให้เข้าใจวิธีการขายของแบบนี้มากขึ้น

ข้อจำกัดของการขายของตอนเย็นหน้าบ้าน

ในส่วนนี้จะเป็นข้อแนะนำเพิ่มเติม เพื่อที่จะทำให้คุณสามารถเลือกสินค้าที่ทำให้คุณขายดี จะช่วยประหยัดทั้งเวลา และเงินลงทุนของคุณได้มาก

คุณมีเวลาที่จำกัด – หากเราเทียบกับการค้าขายทั่วไป ที่เปิดกิจการได้แต่ถึง 8-10 ชั่วโมงต่อวัน การค้าขายตอนเย็นหน้าบ้านนั้นสามารถทำได้แค่ 4-5 ยิ่งไปกว่านั้นก็คือคุณจะเหนื่อยมาก เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ให้เลือกสินค้าที่ใช้เวลาในการเตรียมตัวขายน้อย คุณสามารถเริ่มขายได้ทันที (สินค้าที่เตรียมตัวขายเยอะคืออาหารบางประเภท ที่ใช้เวลาในการเตรียมและในการทำเยอะ)

พื้นที่ในการขายก็มีจำกัด – ข้อดีของการขายของหน้าบ้านก็คือคุณมีต้นทุนน้อย ไม่ต้องไปเช่าที่ใคร แต่ปัญหาก็คือเนื่องจากว่าคุณถูกจำกัดด้วยพื้นที่คุณมี คุณก็จะมีพื้นที่ในการขายน้อย หมายความว่าการทำอะไรยากๆ หรือการรับลูกค้าเยอะๆก็คงทำไม่ได้ ทางที่ดีหาสินค้าที่ซื้อเร็วขายเร็ว อาจจะไม่ใช่สินค้าที่กำไรเยอะในช่วงแรก แต่ทำเพราะว่าคุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก

พฤติกรรมของผู้คนที่เดินผ่าน – สุดท้ายแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับทำเลนะครับ คุณไม่สามารถขายของทุกอย่างในทุกที่ได้ และเพื่อนบ้านของคุณก็อาจจะมีพฤติกรรมไม่เหมือนเพื่อนบ้านของผม ข้อเปรียบเทียบง่ายๆก็คือห้างในตัวเมืองนั่นและห้างนอกเมือง

หัวใจของการค้าขายก็คือลูกค้า เพราะฉะนั้นการทำความเข้าใจลูกค้าก็คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดแล้ว ให้เริ่มต้นจากการสังเกตให้เยอะ สำรวจพฤติกรรมคน สำรวจคู่แข่งต่างๆ จะดีที่สุดเลยค่ะคุณสามารถเข้าไปคุยกับคนที่เดินผ่านพื้นที่นั้นบ่อยๆได้

หากขายได้บ้างแล้ว อย่าลืมทำการตลาด – หลายคนอาจจะคิดว่าการขายหน้าบ้านที่ทำเลดีๆก็หมายความว่าเราจะมีลูกค้าอยู่แล้ว แต่ในกรณีนี้การทำการตลาดบ้างก็จะช่วยคุณได้มาก ยกตัวอย่างเช่น การสร้างเพจ Facebook เพื่อบอกคนว่าคุณเปิดร้านอยู่แถวนี้ในเวลานี้ เช่น ‘ร้านน้องอร ขายขนมลาดพร้าว ซอย 3 ตอนเย็น’ คนจะได้หาร้านคุณง่ายขึ้น

ข้อแนะนำสุดท้ายก็คือการเริ่มขายทันที อาจจะเอาโต๊ะมาตั้งหน้าบ้านแล้วก็ลองลงทุนเล็กๆน้อยๆนำของมาขายดู 3-4 ชิ้นก่อน 

การทำแบบนี้จะทำให้คุณรู้สึกอยากเริ่มแล้วอย่าพัฒนามากขึ้น หากขายได้ก็เอาของมาขายมากขึ้น หากขายไม่ได้ก็เปลี่ยนสินค้าโดยเร็ว ทดสอบไปเรื่อยๆทีละเล็กทีละน้อย เพราะสุดท้ายแล้วหากเราไม่เริ่มอะไรสักที เราก็ไม่สามารถขายได้

ข้อมูลในการทำธุรกิจอื่นๆที่เราแนะนำ

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด