7 วิธีขายของออนไลน์ ให้ขายดี (แบบทำได้จริง)

7 วิธีขายของออนไลน์ ให้ขายดี (แบบทำได้จริง)

การขายของออนไลน์เป็นสิ่งที่มีมาหลายสิบปีแล้ว แต่ยังวันเวลาผ่านไป ช่องทางค้าขายนี้ก็ยิ่งเติบโตมากขึ้น ในสมัยปัจจุบันคนที่ไม่มีเงินลงทุน ไม่มีเวลามาก ก็สามารถขายของออนไลน์ให้ขายดี ให้ประสบความสำเร็จได้ ในบทความนี้เรามาดู  7 วิธีขายของออนไลน์ ให้ขายดี กันครับ

7 วิธีขายของออนไลน์ ให้ขายดี (แบบทำได้จริง)

#1 ของแถมที่ราคาถูกสำหรับคุณ แต่แพงสำหรับคนซื้อ

ข้อแนะนำนี้อาจจะใช้เวลาทำหลายชั่วโมงจนถึงครึ่งวันนะครับ แต่ข้อดีก็คือหากทำเสร็จแล้วเราก็จะสามารถใช้ทำเงินได้ในระยะยาว

ของแถมที่ราคาถูกสำหรับคุณ แต่แพงสำหรับคนซื้อ ก็คือข้อมูล หมายถึงวิธีการใช้สินค้า ข้อแนะนำต่างๆ

ให้คุณคิดไอเดียข้อมูลที่คุณอยากจะแถมให้ลูกค้าเกี่ยวกับของที่คุณอยากขายซัก 3-4 หัวข้อ หลักจากนั้นก็ถ่ายรูปสินค้า แล้วก็เข้าไปใน canva.com เพื่อออกแบบคู่มือแจกฟรีให้ลูกค้าได้เลย ทำไฟล์ออกมาเป็น PDF หรือ JPEG ก็ได้ครับ

ถึงแม้ว่าจะเป็นการขายบน IG/Facebook/Shopee/Lazada คุณก็สามารถบอกให้ลูกค้าติดต่อคุณหลังการขายเพื่อขอของแถมฟรีได้ เพียงแค่ใส่ข้อแนะนำไปในกล่องสินค้าว่าลูกค้าต้องแอดไลน์คุณมา หลังจากที่ลูกค้าแอดไลน์เรามาแล้ว เราก็แค่ส่งไฟล์ต่างๆให้ลูกค้า ได้ทั้งลูกค้าเพิ่ม ได้ทั้งไลน์ลูกค้า

แน่นอนว่าเราต้องอย่าลืม ‘โฆษณา’ ของแถมเหล่านี้ด้วย เขียนอธิบายลูกค้าไว้อย่างชัดเจนว่าลูกค้าจะได้ของแถมหลังจากที่ซื้อแล้ว สามารถรอรับได้

#2 วิธีจัดโปรตลอดเวลา โดยลูกค้าไม่เบื่อ

ตอนนี้ทุกคนคงเข้าใจแล้วว่าการจัดโปรเป็นการกระตุ้นลูกค้า ทำให้ลูกค้าอยากซื้อ แต่ถ้าเราจัดโปรมากเกินไปลูกค้าก็จะเบื่อ บางคนก็จะไม่ซื้อเวลาราคาเต็มด้วยเพราะจะรอโปร โดยรวมแล้วถ้าจัดโปรเรื่อยๆจะทำให้ยอดขายโดยรวมเราตก

ข้อแนะนำแรกก็คือการ ‘จัดโปรไฟแลบ’ หรือโปรที่จัดในเวลาจำกัดมากๆ ส่วนมากก็คือแค่ 1-2 วัน โปรแบบนี้กระตุ้นคนได้ดีมาก แต่ไม่เหมาะกับการทำบนโฆษณา Facebook เพราะเราจัดการงบโฆษณาได้ยาก ส่วนมากจะเป็นการทำบน Line OA มากกว่า 

ไอเดียการจัดโปรมีอยู่เยอะครับ สามารถนำไปปรับใช้ได้ทุกเดือน นำไปเลือกใช้ได้เลยครับ การลดราคาชั่วคราว การแถม โปรส่วฟรี การลดเวลาซื้อของเยอะ เอาสินค้ามารวมกันเป็นชุดราคาพิเศษ หรือการจัดการแข่งขันให้คนเข้าร่วมชิงรางวัล แค่นี้คุณก็จะจัดโปรได้เรื่อยๆโดยลูกค้าไม่เบื่อ

ข้อแนะนำสุดท้ายก็คือการขายสินค้าหลายๆอย่าง เราจะได้เลือกสลับโปรได้ตลอดเวา วิธีนี้ห้างใหญ่ หรือร้านอาหารใหญ่ทำกันเสมอ อาทิตน์นี้ลดราคาเมนูนี้ อีกอาทิตย์ก็ลดอีกอย่าง การทำแบบนี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา แถมลูกค้าส่วนมากซื้อของมากกว่าหนึ่งอย่างทำให้กำไรเยอะขึ้น ถ้าคุณมีของขายซัก 5 อย่าง 10 อย่าง ก็น่าทดลอง

#3 บริหารเวลาในการสร้างโพสขายให้ดี

งานวิจัยเรื่องการตลาด การทำโฆษณามีเยอะครับ ในส่วนนี้เราจะมาดูกันว่าโฆษณาในเฟสบุ๊ค ในยูทูป นั้นคนดูอะไรบ้าง 

100% Picture ภาพ
80% Headline พาดหัว
60% Caption ข้อความประกอบ
40% Subhead หัวข้อย่อย
25% Bottom Page ตอนท้าย
5% Content เนื้อหา

นั้นก็หมายความว่าทุกครั้งที่คุณจะทำโพสขาย คุณต้องออกแบบภาพปกก่อน ภาพสำคัญที่สุด เพราะเป็นสิ่งแรกที่เชิญชวนทุกคน หากคุณสร้างบ้านแต่ไม่ได้สร้างประตูก็จะไม่มีใครเข้าบ้านได้  

หากคุณเป็นมือใหม่ คุณต้องใช้เวลาส่วนมากในการสร้างภาพ สร้างมาหลายๆภาพเลยยิ่งดี และให้เพื่อนๆครอบครัวช่วยดูว่าอันไหนดีกว่า หลังจากนั้นค่อยไปเขียนพาดหัวที่เกี่ยวข้องและเชิญชวนให้คนอ่านต่อ 

แน่นอนว่าคุณสามารถเอาข้อแนะนำส่วนที่แล้วมาประกอบกับทั้งภาพประกอบและหัวข้อต่างๆได้

เอาเป็นว่าให้เรียบความสำคัญของการออกแบบโฆษณาหรือโพสต่างๆให้ดีดังนี้นะครับ อย่างน้อยคุณก็จะมั่นในว่าคุณจะไม่พลาดอะไรง่ายๆแบบการสร้างบ้านแล้วลืมทำประตูบ้าน 

#4 ใช้เวลาสามเดือนกับแต่ละช่องทาง

วิธีลดความเสี่ยงจากการขายของออนไลน์ ก็คือ เราต้องมีตัวตนในหลายที่ หมายความว่าต้องทำ Facebook YouTube Line IG Shopee Lazada ทำให้หมดทุกช่องทาง เพราะถึงแม้ว่าบางช่องจะทำเงินให้เราน้อย แต่ถ้ารวมๆกันแล้วยอดขายมันก็จะเพิ่มขึ้นเยอะ ทำให้คนมาแย่งตัดราคาเรายากด้วย

ทุกคนคงถามว่า ฟังดูดี แต่จะไปทำหมดนี้พร้อมกันได้ยังไง เราทำอยู่คนเดียว

คำตอบก็คือ ใช่ครับ เราทำคนเดียวทุกอย่างไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องค่อยๆทำ วางแผนให้ดี เริ่มแต่ละช่องทางให้ใช้เวลา 3-6 เดือนต่อแต่ละอย่าง

ผมเลือก 3-6 เดือนเพราะว่าการที่เราทุ่มเทเพื่อสร้างอะไร 3-6 เดือน ส่วนมากก็จะเพียงพอในการเริ่มต้นและใส่รายละเอียดต่างๆแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของการทำงานเดิมๆ เช่น หากช่วงแรกเราต้องตั้งเพจเฟสบุ๊ค หน้าที่ภายหลังก็จะมีแค่การคิดคอนเทนต์ การทำ YouTube Website ก็เช่นเดียวกัน 

ทุกครั้งที่คุณทำช่องทางใหม่ๆ คุณก็จะเห็นได้ว่ายอดขายหรือยอดวิวของคุณมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งถ้าคุณใช้เวลาสามเดือนเพื่อพัตนา คุณก็จะเห็นว่าคุณน่าจะทำได้ดีในช่วงแรกแน่ๆ หลังจากที่มีเงินหรือรายได้เพิ่มขึ้นมาบ้าง ก็ให้เอากำไรกลับมาหมุนส่วนนี้ เช่น จ้างคนแพ็คของ ตอบลูกค้า จ้างฟรีแลนซ์ออกแบบโพส วิดีโอบ้าง

หัวใจของการค้าขายออนไลน์ก็คือการเพิ่มการเข้าถึงครับ และการเพิ่มการเข้าถึงที่ดีก็คือการขยายช่องทาง แต่คุณต้องทำในแบบที่ดี และต้องใส่ใจกับการเพิ่มช่องทาง เพราะฉะนั้นเราต้องใส่ใจกับการเรียนรู้แต่ละช่องทาง ซึ่ง 3 เดือนของการเริ่มทำจริงๆน่าจะเพียงพอ แต่ก็นำไปปรับใช้ให้เหมาะกับความถนัดของเราได้ ถนัดอะไรเริ่มอย่างนั้นก่อน

#5 คำพูดโน้มน้าวคนอื่น

ในส่วนนี้เป็นเรื่องของคำพูดที่คุณใช้ในการขาย จะเป็นสิ่งที่คุณใช้ในวิดีโอ ในไลฟ์ หรือในการพิมพ์ก็ได้ครับ 

คำว่า ใหม่ ง่าย เร็ว ประหยัด และ คุณ เป็นคำวิเศษที่ทำให้คนตอบสนองได้ดี ยิ่งถ้าคุณสามารถอธิบายคำเหล่านี้ด้วยตัวเลขเพิ่มเติมได้ เช่น ทำง่าย ประหยัดเวลากว่าทำเอง 3 ชั่วโมงต่อวัน ได้ก็ยิ่งดี

นอกจากนั้นแล้วยังสามารถใช้กับคำที่ใช้เพิ่มความน่าเชื่อถือ เช่น ปลอดภัย ความสุข ผลลัพธ์ พิสูจน์แล้ว ได้ด้วย

และสุดท้าย อย่าลืมคำพูดโน้มน้าวด้านเวลา เช่น ตอนนี้ รีบหน่อย เร็วๆ ด้วยนะครับ ลูกค้าจะได้ตอบสนองทันที

หมายความว่าทุกครั้งที่คุณโพสอะไร โดยเฉพาะโพสขาย ก็อย่าลืมนำคำพวกนี้ไปประกอบใช้งานด้วย

ในตอนแรกผมใช้คำว่า ราคาถูก ด้วย แต่หลังจากที่ทดสอบดู ผมคิดว่าว่า ราคาถูก เป็นคำที่ทำให้คนทักมาได้เยอะ แต่คนส่วนมากจะมีแรงจ่ายน้อย แถมคิดนาน เปรียบเทียบนานอีก ซึ่งถึงแม้จะทำยอดขายได้บ้าง แต่ก็ไม่คุ้มเท่าไรครับ

#6 คุณต้องเป็นหน้าตาของสินค้าตัวเอง

ในส่วนนี้เป็นเรื่องของการเพิ่มความน่าเชื่อถือ ด้วยการนำตัวคุณเองเป็นหน้าตาของสินค้าที่คุณขาย 

ก่อนอื่นเลย ผมเข้าใจว่าวิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับทุกคน เพราะฉะนั้นใครที่ไม่ชอบวิธีนี้ก็ข้ามไปฟังข้ออื่นได้ครับ

นิสัยของมนุษย์นั้นชอบการมีคนอยู่หลังสินค้าที่ขาย เราเห็นได้ง่ายๆก็คือแบรนด์ดังๆที่จ้างดารามายืนข้างสินค้า สีหน้านั้นสื่อสารได้หลายอย่าง อารมณ์ ความรู้สึก ความน่าเชื่อถือ เป็นเครื่องมือการสื่อสารที่ฟรีและที่ทุกคนมีติดตัว

ผมว่าผมไม่ต้องพูดเยอะก็ได้นะครับว่าทำไมการที่คุณมีหน้าออกมาขายถึงดี แต่ปัญหาก็คือหลายๆคนขี้อาย ไม่กล้าออกมาขายเอง บางคนก็อยากจ้างคนอื่น บางคนก็กลัวเสียหน้า ซึ่งจริงๆแล้วถ้าคุณมีเงิน คุณจะจ้างคนมาช่วยก็ได้ แต่สำหรับคนที่จริงจัง ผมแนะนำให้ลองออกมาขายดู อัดวิดีโอตัวเองพูดขายของไว้ แล้วโพสในยูทูป เฟสบุ๊ค

เพราะสุดท้ายแล้ว ถึงแม้คุณจะคิดว่าตัวเองหน้าตาไม่ดี แต่ถ้าคุณไม่มีเงินจ้างคนอื่น หรือไม่สามารถจ้างได้ทันที การออกมาทำเองก็ดีกว่าการเป็นคนไร้ตัวตนที่ผู้ซื้อไม่รู้จัก ไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้

#7 สูตรสำเร็จสำหรับมือใหม่: กว้าง แคบ กว้าง

หลายคนน่าจะเคยได้ยินกันแล้วนะครับว่าการขายของออนไลน์ต้องเลือกกลุ่มลูกค้า เพราะถ้าเราขายคนกว้างไป มันก็เหมือนยิงโฆษณาให้คนทั้งประเทศเห็น มันไม่มีประสิทธิภาพ มันไม่ได้กำไร

ปัญหาก็คือเราจะรู้ได้ไงว่ากลุ่มลูกค้าคือใคร สินค้าเราเหมาะกับใคร?

วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือให้ลองขายกว้างๆตอนแรก แต่ขายในมุมมองที่ว่าเราทำเพื่อเก็บข้อมูล ให้ทำในค่าใช้จ่ายที่ถูกที่สุด ถ้าจะลงงบโฆษณาก็ลงน้อยมากๆ ไม่ลงเลยยิ่งดี จะไปโพสลงกรุ๊ป ไปฝากร้านที่ไหนก็ได้ ในส่วนนี้เป็นการหว่านแหเพื่อดูว่า ปลา แบบไหนที่ชอบ สิ่งที่คุณขาย ทำอย่างนี้ซัก 3 เดือนหรือมากกว่าจะดีมาก

หากคุณทำแล้วได้ลูกค้า 10 คน 20 คน คุณก็จะเริ่มจับจุดได้แล้วว่าลูกค้าส่วนนี้เป็นใคร มาจากไหนบ้าง หลักจากนั้นทั้งเรื่องการทำวิดีโอ ทำโพสขาย ออกแบบโฆษณาต่างๆ ออกแบบคอนเทนต์ก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว หากคุณคิดว่ายังไม่เข้าใจชัดเจนก็ให้ถามลูกค้าไปตรงๆว่าอยากสัมภาษณ์เพื่อขอความคิดเห็นเพิ่ม เพื่อมาพัตนาสินค้าต่อ

ซึ่งหากคุณเก็บข้อมูลลูกค้าได้เยอะ ได้คุยกับลูกค้าจริงๆ ได้ลองขายกับลูกค้าแรกๆแล้ว ได้สังเกตวิธีการพูด และ พฤติกรรมต่างๆ คุณก็จะจับจุดได้ว่าลูกค้าในมุมแคบๆที่ชอบสินค้าคุณจริงๆคือใคร หลังจากนั้นทุกอย่างก็จะง่าย ตลาดนี้จะทำกำไรให้คุณได้ในระยะยาว เป็นกำไรที่มากพอควร แต่ไม่ได้เยอะจนทำให้คุณรวยหลายล้านได้ สองสามปีน่าจะเพียงพอสำหรับคนทั่วไป

เพราะฉะนั้นหลังจากที่คุณจับจุดตลาดแคบได้แล้ว ให้คุณเก็บความรู้ และเก็บเงินส่วนนี้ไว้ เพื่อมาลงทุนขยายตลาดให้กว้างขึ้นอีกที สิ่งที่ต่างจากตอนแรกคือคุณมีประสบการณ์ มีเงินลงทุน และมีฐานลูกค้าแล้ว หลังจากนั้นการขยายตลาดกลับไปตลาดที่กว้างขึ้นก็จะง่าย ให้เพิ่มงบการตลาด ลองสินค้าใกล้เคียงมากขึ้น นำสินค้ามาเปลี่ยนมุมดูว่าลูกค้ากลุ่มอื่นจะตอบสนองดีขึ้นหรือเปล่า 

บริษัทหลักพันล้านก็เริ่มแบบนี้ทุกที่ทั้งนั้น

ข้อมูลในการทำธุรกิจอื่นๆที่เราแนะนำ

Tiger

เจ้าของบล็อก TWN ชอบอ่านหนังสือและข่าวธุรกิจทั้งในไทยและนอกประเทศ พออ่านมาเยอะก็เลยอยากนำความรู้มาแบ่งปัน

บทความล่าสุด