‘ขายอะไรดี’ เป็นคำถามที่ทุกคนคงเคยคิดกัน แน่นอนครับของที่เราขายได้มีเยอะ แต่ช่วงนี้ขายของมีการแข่งขันสูงมาก คู่แข่งเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นคำถามก็คือ ‘อะไรที่น่าจะขายได้’ และ สินค้าแบบไหนถึงจะ ‘เหมาะกับเรา’
แม้ในวันนี้เทรนด์ออนไลน์ที่กำลังมาแรง ที่สิ่งที่อยากจะให้ทุกคนคิดไว้ก่อนก็คือ “ถ้าเราขายสิ่งนี้แล้ว เราจะอยากทำต่อไปนานๆหรือเปล่า” นะครับ
Table of Contents
สินค้าอะไรจะขายดีในปี 2024
สินค้าที่น่าขายคือสินค้าที่สามารถทำกำไรได้เยอะ สินค้าที่คู่แข่งน้อย สินค้าที่เหมาะกับตัวเรา สินค้าที่เรามีเส้นสายอยู่แล้ว หรือสินค้าที่ตลาดต้องการมาก ในโลกธุรกิจจะเรียกสิ่งนี้ว่า สินค้าที่มีความต้องการของตลาด และ สินค้าที่เรามีความได้เปรียบทางการแข่งขัน
บทความนี้รวบรวมสินค้าหลายอย่าง เช่น ของกิน สินค้าออนไลน์ สินค้าผู้หญิง และ แม่และเด็ก
ผมคงรับประกันไม่ได้ว่าสินค้าเหล่านี้จะขายได้ดีสำหรับทุกคน เพราะการค้าขายขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ตั้งแต่ทักษะการขายของคุณ ทำเล หรือแม้แต่ทิศทางของตลาด แต่จากประสบการณ์ขายสินค้ามาหลายอย่างในหลายช่องทาง ผมบอกได้ว่าบทความนี้จะช่วยลดเวลาการตัดสินใจของคุณได้เยอะ ผมใช้เวลาเขียนบทความหลายวัน (ตั้งใจมาก…เขียนไป 4000+ คำ!) หวังว่าน่าจะมีประโยชน์ครับ
ข้อแนะนำก่อนตอบคำถาม ‘ขายอะไรดี’
สินค้าที่จะขายมีให้เลือกเยอะมากครับ เพราะฉะนั้นเราควรมีเกณฑ์ในการเลือกที่คาดเดาได้ง่ายกว่าแค่ ‘กำไรดี’
ทำไมไม่เลือกแค่สินค้าที่กำไรดี?
เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าอะไรขายได้ดีตั้งแต่แรก ต่อให้เรารู้ต้นทุนของตัวเอง เราก็ไม่รู้หรอกว่าลูกค้าอยากจะซื้อสินค้าเหล่านี้ในราคาเท่าไร (ราคาขาย – ต้นทุน = กำไรเบื้องต้น) หรือจะพูดอีกแนวก็คือ เราไม่รู้หรอกว่าอะไรกำไรดี…จนกว่าจะเริ่มขายจริงๆ
หากใครสนใจศึกษาเรื่องข้อมูลการค้าขาย ทำธุรกิจ ที่ถูกสอนในโรงเรียนบริหารธุรกิจทั่วโลก ผมแนะนำให้ลองดูอีบุ๊คเล่มนี้ของผมนะครับ อีบุ๊ค ฉลาดรู้ ฉลาดทำธุรกิจ หรืออย่างน้อยก็ไปลองดูคู่มือฟรีๆที่ผมทำแจกก่อนก็ได้ครับ คู่มือความรู้แจกฟรี
กลับมาที่เรื่องการเลือกสินค้า หากคุณอยากจะขายสินค้า คุณควรจะเริ่มคิดก่อนว่า ช่องทางการขายคุณคืออะไร เช่น
ถ้ามีหน้าร้าน: หน้าร้านอยู่ที่ไหน คนเดินเยอะไหม คนที่เดินชอบซื้อสินค้าประเภทอะไร เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย รายได้เฉลี่ยประมาณเท่าไร แถวนั้นขายอะไรกันบ้าง มีคู่แข่งเยอะไหม
ถ้าขายออนไลน์: คุณจะขายในช่องทางไหน Facebook, Instagram, Lazada หรือ Shopee ถ้าคุณบอกว่าคุณจะขายทุกที่คุณก็ต้องพยายามคาดเดาว่ารายได้หลักจะมาจากไหนช่วงแรก เพราะสิ่งสำคัญคือคุณต้องเข้าใจระบบการทำงานของช่องทางพวกนี้ และประเภทสินค้าที่น่าจะขายดี ช่องทางยิ่งใหญ่ คู่แข่งยิ่งเยอะครับ ผมมีหมวดขายของออนไลน์สำหรับคนที่สนใจเป็นพิเศษ สามารถเลื่อนลงไปอ่านข้างล่างได้เลย
อีกอย่างที่ควรจะดูก็คือความถนัดของคนขาย ถ้าคุณขายอาหารคุณต้องรู้วิธีทำอาหารด้วย ถ้าคุณจะขายลำโพงมือถือคุณรู้เรื่องนี้ดีแค่ไหน ผมเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเก่งตั้งแต่วันแรก แต่อย่างน้อยถ้าคุณไม่รู้ คุณควรจะมีแผนล่วงหน้าว่า ‘จะทำยังไงให้เราหาข้อมูลได้’
ข้อสุดท้ายก็คือเงินลงทุนกับวิธีการขาย สินค้าบางอย่างมีราคาแพงกว่าอย่างอื่น สินค้าบางอย่างมีวันหมดอายุ (เช่นอาหารสดที่เก็บได้วันเดียว) และสินค้าบางอย่างก็ช่วงอายุของมัน (เช่นมือถือที่มีการตกรุ่น ขายไม่ออก) หากคุณสามารถเริ่มได้ด้วยเงินลงทุนน้อยแล้วค่อยๆขยายไปทีละน้อยได้จะดีที่สุดครับ แต่คุณต้องใจเย็นและไม่ท้อง่ายๆ
สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการหาสินค้ามาขาย ผมแนะนำให้ลองดูคู่มือการเลือกสินค้า ‘ขายอะไรดี’ ตรงนี้ได้นะครับ ผมทำมาให้ทุกคนใช้อย่างฟรีเลย
ขายอะไรดี หมวดของกิน
หมวดของกินเป็นของที่ขายง่าย เพราะไม่ว่ายังไงคนเราก็ต้องกินทุกวัน
ในช่วงแรกคุณควรเลือกขายอะไรที่ ‘หน้าตาดูน่ากิน’ หรือ ‘ขายไม่เหมือนเจ้าอื่นใกล้ๆ’ ไว้ก่อน
ส่วนเรื่องราคาคุณสามารถสำรวจตลาดได้ง่ายๆ ว่าปกติอาหารชนิดนี้ขายกันเท่าไร และในบริเวณของคุณขายอาหารกันมากกว่าหรือต่ำกว่าราคาเฉลี่ย ราคาเราสามารถปรับอีกทีได้ตามกำไรและค่าใช้จ่าย ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหามากครับ
แต่ในระยะยาวถ้าอยากให้ลูกค้ากลับมากินเยอะๆ ก็ต้องขึ้นอยู่กับรสชาติอาหารของคุณแล้ว
- ข้าวเหนียวหมูปิ้ง – เมนูสุดฮิต กินง่ายไม่ต้องมีหน้าร้าน ที่ไหนคนเดินผ่านเยอะ ที่นั่นต้องมีข้าวเหนียวหมูปิ้ง ต้นทุนคือเนื้อหมู น้ำจิ้ม ไม้เสียบ ข้าวเหนียว และถุง ข้อดีก็คือคุณสามารถปิ้งทีเดียวแล้วขายได้จำนวนเยอะ อาจจะขายไม้ละ 5-10 บาทก็ได้ บางคนขายได้วันละหลายพัน เปิดหลายสาขาได้เลยครับ
- ไก่ทอด – ไก่ทอดก็เป็นเมนูกินง่ายอีกอย่าง ถ้าอยากเพิ่มความแตกต่างก็สามารถเพิ่มรสชาติใหม่ๆเข้าไปเช่น รสกระเพรา รสเผ็ด รสบาบีคิว อีกสิ่งที่ต้องคิดก็คือสูตรน้ำจิ้ม
- อาหารไม้ปิ้งย่าง – หมายถึงพวก หมูสามชั้น ไก่ ปลา เนื้อ ปลาหมึก หรือไม่ก็พวกผัก ข้าวโพดเป็นต้น คิดราคาเป็นไม้เหมือนหมูปิ้ง 5บาท 10บาท 20บาท แต่ทีเด็ดของเราคือมีตัวเลือกเยอะกว่า และมีน้ำจิ้มที่แตกต่างจากหมูปิ้งทั่วไป ถ้าทำให้กลิ่นหอยฉุยได้จะน่ากินมากครับ
- ข้าวไข่เจียว – เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำง่าย และสามารถทำใส่กล่องได้เลย เหมาะสำหรับคนรีบไปเรียนหรือไปทำงาน เพราะราคาจะไม่แพงมากแถมหิ้วไปกินได้อีก
- น้ำพริกปลาทู/ผักลวก – เป็นอาหารที่มีเครื่องเคียงเยอะ จำพวกผักต่างๆ ตัวน้ำพริกกำไรเยอะ แต่เราต้องกะจำนวนผักที่เราซื้อมาให้ดีเพราะเก็บได้ไม่นาน
- แจงลอน – เป็นอาหารปิ้งย่างอีกอย่างที่คนนิยมกัน ส่วนมากจะขายแถวตลาดที่คนสามารถเดินไปกินไปได้
- ไข่ปิ้งทรงเครื่อง – เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำได้ง่ายและคนชอบกิน แถมเครื่องปรุงมีแค่ซีอิ้วเอง ทำง่ายมากครับ
- สลัด – อาหารคลีนหรือแคลต่ำเป็นเทรนด์ใหม่ที่คนไทยนิยมมากขึ้นทุกปี เหมาะสำหรับลูกค้าที่รักสุขภาพโดยเฉพาะผู้หญิง แต่คุณต้องสามารถเลือกผักเก่งและทำน้ำสลัดได้
- ซูชิ – ซูชิเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ทำได้ง่ายและคนไทยก็ชอบกินด้วย ซูชิบางอย่างมีราคาไม่แพง ทานง่าย และ ขายค่อนข้างดีเลยครับ
- ส้มตำ – จุดขายของส้มตำอยู่ที่รสชาติและความสะอาด ปัญหาของร้านส้มตำหลายร้านคือทำลูกค้าท้องเสีย! ถ้าคุณมีงบมากหน่อยจะเพิ่มเมนูไก่ย่างหรือพวกลาบน้ำตกด้วยก็ได้
ขายอะไรดี หมวดน้ำ ขนมและของหวาน
หมวดของหวาน หรือของทานเล่นส่วนมากขึ้นอยู่กับวิธีการนำเสนอของคุณ หากสินค้าดูน่ากิน โอกาสที่คุณจะขายได้ก็ยิ่งเยอะ ส่วนมากแล้วราคาต่อหัวของอาหารทานเล่นจะน้อยกว่าอาหารมื้อหลัก เพราะฉะนั้นเราต้องขายให้ได้จำนวนมากหน่อย
ซึ่งก็แปลว่าระบบการขายของคุณต้องเร็วขึ้น ยกตัวอย่างเช่นคุณอาจจะต้องชงชาเก็บไว้ก่อน ทำไข่มุกสต็อกไว้เยอะๆเพื่อจะขายทีเดียว อาจจะหั่นผลไม้เผื่อไว้ก่อนปั่นอยู่แล้ว หรือเตรียมเครื่องเคียงไว้ให้พร้อมอยู่แล้ว เวลาลูกค้ามาสั่งก็คือแค่ตักใส่จานให้แค่นั้น ประหยัดเวลา ‘ผลิตสินค้า’ เพิ่มความเร็วในการบริการ เพื่อรับลูกค้าให้มากขึ้น
นอกจากนี้แล้วอาหารหมวดทานเล่นส่วนมากจะมีความเป็น ‘สินค้าติดเทรนด์’ มากกว่าอาหารทั่วไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นช่วงนี้คนฮิตทานบิงซูหรือชานมไข่มุก ช่วงหน้าร้อนอาจจะชอบทานกาแฟเย็นหรือไอศกรีมเป็นต้น
- กาแฟโบราณ/ชานมเย็น – กาแฟโบราณกาแฟเย็นเป็นของขายง่าย ต้นทุนไม่สูง และไม่ต้องมีร้านใหญ่มากก็ได้ รสชาติขึ้นอยู่กับสูตรของคุณ และเหมาะสำหรับการขายในพื้นที่ทำงาน หากอยากขายคนอายุน้อยหน่อย ก็อาจจะเสริมเมนูพวกชาเย็น หรือน้ำหวานอย่างอื่นเพิ่มมาด้วย
- น้ำปั่น / น้ำผลไม้ – เป็นสินค้าขายดี โดยเฉพาะเวลาหน้าร้อนยิ่งขายดีครับ แค่ลงทุนเครื่องปั่นแล้วก็ซื้อผลไม้และวัตถุดิบอื่นๆมาก็ทำได้แล้วครับ
- ชานมไข่มุก – ชานมราคาไม่แพงมาก แต่การทำไข่มุกอาจจะใช้เวลาหน่อย ขึ้นอยู่กับสูตร กำไรต่อแก้วค่อนข้างดีแถมคนไทยก็ชอบทานมากครับ
- ผลไม้ – คนไทยชอบทานผลไม้ ยิ่งผู้หญิงบางคนทานแทนอาหารมื้อหลักเลยด้วยซ้ำ คุณต้องเตรียมผลไม้ให้หลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องดูด้วยว่าสินค้าจะเก็บไว้ได้นานแค่ไหน ผลไม้แต่ละชนิดจะมีฤดูการขายเป็นของตัวเอง ยิ่งผลไม้สดและเย็นยิ่งขายดี
- น้ำแข็งใส – น้ำแข็งใสไทยก็เป็นสินค้าขายดี โดยเฉพาะเวลาร้อนๆ โดยส่วนมากจะนิยมทานกันตอนกลางวันมากกว่า ยิ่งคุณมีเครื่องเคียงหรือตัวเลือกเยอะคนยิ่งชอบครับ กำไรค่อนข้างดีแถมทำไม่ยากด้วย เคล็ดลับก็คือจะขายที่ราคาเท่าไรจำนวนเยอะแค่ไหน เพราะถ้าให้ถ้วยใหญ่ลูกค้าก็จะแบ่งกันกินหลายคน
- เครปญี่ปุ่น – ร้านเครปจะต้องใช้ทุนเยอะหน่อยเพราะต้องมีเตาเครปและอุปกรณ์ทำทั้งหลาย (เกือบหมื่นบาท) นอกจากนี้คุณยังต้องฝึกทำด้วยเพราะการจะทำเครปให้ดูดี แป้งมีความกรอบความนุ่มนั้นต้องอาศัยเทคนิค นอกจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสร้างสรรค์ของคุณแล้วว่าอยากจะทำรสอะไรใส้อะไรออกมาบ้างครับ
- โรตี –โรตีใส่ไข่ กล้วย แยม เป็นอาหารทานเล่นอีกอย่าง ส่วนมากคุณต้องเตรียมแป้งไว้ก่อน แล้วเวลาลูกค้าสั่งก็ทอดกระบะขายให้ทันที นอกจากไข่แล้ววัตถุดิบส่วนมากเก็บได้ซักพักเลย เหมาะสำหรับกลุ่มนักเรียนหรือคนทำงาน
- อาหารทอด – เช่นพวกกล้วยทอด มันทอด เผือกทอด อาหารชนิดนี้คนชอบเยอะ เพราะอร่อยและกินง่าย ทำง่ายและสามารถเป็นอาหารทานเล่นได้ดี
- ข้าวเหนียวปิ้ง – เป็นของทานเล่นอีกอย่างที่น่าทานและกินง่าย ราคาไม่แพงประมาณ 10 บาท แต่ส่วนมากจะนิยมในที่ที่มีนักท่องเที่ยวมากกว่า
- เต้าหู้ เต้าฮวย – ข้อดีของเต้าหู้ เต้าฮวยคือเป็นของทานเล่นที่สามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าได้ เท่ากับว่าขั้นตอนการขายจริงๆไม่ยุ่งยากเหมือนอาหารชนิดอื่น ถ้าเราขยันเราก็สามารถทำเก็บไว้ก่อนได้เลย ยิ่งถ้าเราขายดีเราก็สามารถฝากร้านอื่นขายได้ด้วยครับ
- ขนมสายไหม – เครื่องทำสายไหมมีตั้งแต่หลักหลายพันถึงหลักหมื่นครับ แล้วคุณก็ต้องซื้อผงน้ำตาลสายไหมด้วย ถ้าขายเป็นถุงก็ได้ถุงละ 30-50 บาท หรือถ้าอยากเอาไปตั้งที่ตลาดให้คนมาทำเองก็ได้ครับ
- ขนมโบราณน้ำตาลปั่น – เป็นขนมที่เด็กๆชอบกัน ส่วนมากจะขึ้นอยู่กับหน้าตาของขนมว่าน่ารักหรือน่ากินหรือเปล่า
- บัวลอย – ถ้าเทียบกับของหวานอย่างอื่น บัวลอยถือว่าทำยากมีขั้นตอนเยอะครับ ต้องต้มบัวลอย ต้มน้ำกะทิ ต้มไข่หวาน แล้วตักให้ลูกค้าทีหลัง การต้มแต่ละอย่างก็ต้องมีสูตรเฉพาะที่ต้องศึกษาเหมือนกัน ข้อดีก็คือขายง่าย คนชอบกิน
- ขนมโป้งเหน่ง – ขนมโป้งเหน่งจะทำมาจากแป้ง ข้างในอาจจะมีไส้ด้วยก็ได้ คนส่วนมากชอบเพราะมันกินง่าย มีความนุ่มและไม่หวานมาก
- ขนมปังนมสด – ส่วนมากจะขายแบบเป็นกล่องกระดาษแล้วให้คนถือกิน ต้องซื้อนมสด หม้อตุ๋มนม เตาปิ้งขนมปัง ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณหมื่นกว่าบาท แต่ถ้าอยากขายเครื่องดื่มเพิ่มแล้วตั้งโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้านั่งด้วยก็ได้
- สาคู – สาคูขายง่ายเพราะราคาไม่แพง ใช้แค่หม้อต้มน้ำกับวัตถุดิบก็เพียงพอแล้ว
- ไอศกรีม – ไอศกรีมเหมาะกับอากาศร้อนของประเทศไทยมาก หากเราทำให้แตกต่างด้วยการทำรสชาติใหม่ๆได้ เรื่องวิธีทำก็ขึ้นอยู่กับสูตรส่วนตัว ส่วนอุปกรณ์ที่ค่าใช้จ่ายเยอะมีแค่ตู้เย็นเท่านั้นเอง
ขายอะไรดี หมวดขายชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว
ถ้าคุณขายสินค้าในโซนท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าต่างชาติหรือคนไทยจากต่างจังหวัด สินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวก็เป็นตัวเลือกที่ดี ข้อดีก็คือลูกค้านักท่องเที่ยวมีความพร้อมในการจ่ายเยอะ (กระเป๋าหนักกว่านั่นเอง)
และถ้าคุณสามารถพูดภาษาอังกฤษหรือภาษาจีนได้ โอกาสในการขายของคุณก็จะเยอะขึ้นเช่นกัน แน่นอนว่าฤดูท่องเที่ยวไม่ได้มีทุกเดือน เพราะฉะนั้นรายได้คุณจะขึ้นลงตามช่วงท่องเที่ยวของลูกค้า
- ขนมและของฝาก – ขนมของฝากประจำจังหวัดก็เป็นสิ่งที่คนซื้อบ่อยซื้อเยอะ จุดขายอยู่ที่หน้าตาสินค้า หากคุณทำใส่กล่องสวยๆ คนก็อยากซื้อเป็นของฝากแล้ว
- กางเกงมวยไทย – มวยไทยเป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติรู้จักดี ขายตัวละสอยร้อยสามร้อยบาทได้เลย
- น้ำมะพร้าว – ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งหรือคนจีนก็ชอบทานน้ำมะพร้าวทั้งนั้น เพียงแค่คุณหามะพร้าวได้ มีมีดตัดมะพร้าวกับหลอดก็เริ่มขายได้แล้ว แต่คุณต้องดูมะพร้าวให้เป็นนะครับ
- สบู่กลิ่นผลไม้ไทย – ต่างชาติส่วนมากจะซื้อสบู่กลิ่นผลไม้ไทยไปเป็นของฝากกันมากกว่า หากคุณสามารถหาสินค้าที่หน้าตาสวย มีกลิ่นหอม ก็ขายได้แล้วครับ
- ผลไม้อบแห้ง – ในช่วงแรกควรจะรับมาขายก่อน ให้เลือกแนวแพ็คเกจที่ดูดีในสายตาชาวต่างชาติ
- น้ำมันสกัด – คุณจะซื้อหรือจะทำเองก็ได้ ขอให้กลิ่นหอม และแพ็คเกจสวย คุณอาจจะทำให้น้ำมันสกัดของคุณมีความแตกต่างด้วยการเลือกสมุนไพรที่ชาวต่างชาตินิยม
ขายอะไรดี หมวดขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์เท่ากับว่าเราสามารถเข้าหาลูกค้าได้มากขึ้นและช่วยประหยัดค่าเช่าหน้าร้านได้ คุณต้องเก่งด้านการขายของออนไลน์ระดับหนึ่ง (เข้าใจระบบการขายของ Lazada/Shopee และสามารถใช้ Facebook/Instagram ได้ดี) และหากคุณเลือกและนำเสนอสินค้าไม่เก่ง มันก็ยากที่จะทำให้ร้านคุณดูแตกต่างจากเจ้าอื่น
- เสื้อผ้าแฟชั่น – เสื้อผ้าแฟชั่นเป็นอะไรที่ขายได้เรื่อยๆ บางคนก็ออกแบบเสื้อเอง บางคนก็ไปรับคนอื่นมาแล้วหานางแบบกับแต่งภาพสวยๆก็ขายได้ การตั้งราคาและวิธีการขายขึ้นอยู่กับกลุ่มลุกค้าของคุณเลย หากขายเก่งเสื้อผ้าเป็นอะไรที่กำไรดีมาก
- เลนซ์ถ่ายรูปมือถือ – เลนซ์ถ่ายรูปมีจุดขายอยู่ที่ ราคา คุณภาพรูป และความง่ายในการใช้ ซึ่งคุณภาพรูปคุณต้องสามารถสื่อออกมาได้ด้วยรูปภาพตัวอย่าง
- ที่ตั้งมือถือในรถ – ในเมืองที่หลายคนมีรถและทุกคนมีมือถือ การขายที่ตั้งมือถือในรถก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ ราคาไม่กี่ร้อยบาท แต่ขายได้เยอะแน่นอน หากขายดีคุณอาจจะขายเคสมือถือหรือแบตสำรองด้วยก็ได้
- โดรนบังคับ – โดรนบังคับ โดยเฉพาะตัวที่ถ่ายรูปได้ เป็นสินค้าที่ราคาค่อนข้างแพง ถ้าคุณคิดจะขายอาจจะหาวิธีลดสต็อกในช่วงแรกเพื่อลดความเสี่ยงก่อนนะครับ
- เสื้อพยุงหลัง Posture Support – สินค้าขายดีในปี 2021 เลย เพราะคนทำงานในบ้านกันมากขึ้น ทำให้มีปัญหาการปวดหลัง นั่งไม่ถูกหลัก
- ของใช้ในครัว – เทคนิคการขายของใช้ในครัวคือเราต้องเลือกสินค้าที่หาซื้อได้ยาก (ต้องไม่ขายอันที่หาได้ตามห้าง) ให้ไปเดินดูร้านขายส่งดูว่ามีอะไรน่าสนใจและทำให้คนรู้สึก ว้าววว ได้นะครับ
- เครื่องนวด – เครื่องนวด โดยเฉพาะแบบที่พกพาได้และราคาไม่แพงก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ คุณสามารถขายให้ผู้สูงอายุ คนที่ออกกำลังกาย หรือ พนักงานออฟฟิศก็ได้ ราคามีตั้งแต่ไม่กี่พันไปถึงหลักหมื่นครับ
- อุปกรณ์ออกกำลังกาย – หมวดสุขภาพและการออกกำลังกายยังไงก็ขายได้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม เครื่องมือออกกำลังกาย เครื่องมือช่วยวิ่ง อุปกรณ์โยคะ อุปกรณ์เล่นเวทเป็นต้น แน่นอนว่าคู่แข่งจะเยอะมาก ทางที่ดีคุณแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นแบบเฉพาะทางดีกว่า เช่น ขายให้กลุ่มคุณแม่ ขายให้กลุ่มนักเรียน ขายให้พนักงานออฟฟิศเป็นต้น
ขายของออนไลน์เป็นหมวดที่คนเริ่มได้ง่ายแต่สำเร็จได้ยากเพราะคู่แข่งเยอะ หากอยากจะขายได้ในระยะยาว ผมแนะนำให้อ่านบทความเรื่อง การสร้างความแตกต่างแบบไม่ต้องกลัวโดนลอก หรือจะลองศึกษาวิธีขายของผ่านเฟสบุ๊คของผมที่ วิธีลงโฆษณา Facebook
ขายอะไรดี หมวดมีหน้าร้าน
ขายของแบบมีหน้าร้านมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อเสียแน่นอนคือมีค่าใช้จ่ายครับ แต่ข้อดีก็คือคุณจะมีพื้นที่ตกแต่ง มีที่เก็บสต็อกสินค้าและอิสระในการนำเสนอสินค้าได้ตามความคิดของคุณเลย การมีหน้าร้านไม่ได้จำเป็นว่าคุณจะทำออนไลน์ไม่ได้นะครับ แค่ช่วงแรกคุณอาจจะต้องโฟกัสเรื่องการตั้งหน้าร้านก่อน แล้วค่อยขยับไปในช่องทางอื่นถ้าคุณมีเวลา
- ดอกไม้ – ดอกไม้เป็นสินค้ากำไรดี แต่ไม่สามารถเก็บได้นาน ยิ่งสินค้าคุณมีคุณภาพดี ราคายิ่งแพง ยิ่งเป็นช่วงงานรับปริญญา หรือช่วงวาเลนไทน์ก็ยิ่งขายดีครับ
- ดอกไม้ปลอม – อาจจะฟังเหมือนเป็นสินค้าดอกไม้ แต่วิธีการขายค่อนข้างต่างกันครับ ดอกไม้ปลอมเป็นเครื่องประดับ ส่วนดอกไม้เป็นของขวัญ เพราะฉะนั้นกลุ่มลูกค้าที่คุณควรเข้าหาคือกลุ่มคนจัดงานอีเว้น หรือคนออกแบบตกแต่งภายใน
- ร้านกาแฟ – เปิดร้านกาแฟเป็นธุรกิจในฝันของหลายคน แต่รายละเอียดในการทำเยอะมากครับ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน หรือเมนูอาหารและเครื่องดื่ม หากคุณหาทำเลดีได้ก็น่าทำครับ แต่ถ้าแถวนั้นคู่แข่งเยอะ คุณก็ต้องหาวิธีทำให้แตกต่างก่อนที่จะเริ่มเปิด ไม่งั้นขายยากครับ
- อาหารตามสั่ง – อาหารตามสั่งเป็นธุรกิจที่เน้นความเร็วในการบริการ ราคาและกำไรต่อจานอาจจะดีกว่าร้านข้าวแกงแต่ระบบของคุณต้องดีกว่าด้วย ยิ่งคุณทำอาหารเก่งแค่ไหนคุณก็ยิ่งรับออเดอร์ได้เยอะขึ้น แน่นอนว่าคุณไม่ต้องสร้างระบบตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้านก็ได้ แต่ถ้าเริ่มสังเกตว่าลูกค้าเริ่มเยอะเมื่อไรคุณควรรีบหาวิธีแก้ปัญหาการบริการด้วยการจ้างคนเพิ่มโดยด่วน
- ข้าวแกง – ร้านข้าวแกงส่วนมากจะเน้นขายอยู่ 5-10 เมนู ไข่ดาว ไข่เจียว กระเพรา หมูสับเป็นต้น กลุ่มลูกค้าส่วนมากคือพวกนักเรียนและพนักงานบริษัทที่มีเวลาไม่เยอะหรือไม่อยากรออาหารนาน ถ้าคุณทำอาหารออกมากลิ่นหอม ดูน่ากิน ดูสะอาด ก็จะช่วยเรียกลูกค้าได้เยอะ
- ร้านสเต็ก – ร้านสเต็กจะมีวิธีทำและวัตถุดิบที่มีความเฉพาะทางมากกว่าร้านอาหารทั่วไป หัวใจของการทำสเต็กคือการเลือกเนื้อและการหมักเนื้อ ทำร้านอาหารเฉพาะทาง ถ้าเราทำรสชาติดีก็สบายไปกว่าครึ่งแล้ว
- หมูกระทะ – หมูกระทะจะเป็นร้านที่เน้นบรรยากาศด้วย คนส่วนมากจะพาเพื่อนมากินด้วยเพราะฉะนั้นคุณควรจัดร้านและเมนูให้เหมาะกับการรับรองลูกค้ากลุ่มใหญ่หน่อย แน่นอนว่าคุณภาพหมูและสูตรน้ำจิ้มคุณต้องดี
- ข้าวมันไก่-ข้าวขาหมู – ผมคิดว่าคนไทยชอบข้าวขาหมูมากกว่า แต่ในช่วงหลังคนที่รักสุขภาพก็เริ่มทานข้าวมันไก่ หรือข้าวเปล่ากับไก่มากขึ้น จุดสำคัญของข้าวมันไก่ก็คือแกงและน้ำจิ้ม ส่วนข้าวขาหมูจะอยู่ที่การหมักหมูครับ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่คนเดินเยอะเช่นแถวที่ทำงานหรือมหาลัยเป็นต้น
- ก๋วยเตี๋ยว – ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีร้านก๋วยเตี๋ยวก็ขายได้เรื่อยๆ ผมคิดว่าจุดสำคัญของก๋วยเตี๋ยวคือน้ำซุปและการลวกเส้น หากคุณมีสูตรเด็ดที่ลูกค้าชอบ บางร้านขายแค่ไม่กี่เมนูก็อยู่ได้แล้ว
- ข้าวต้ม – ข้าวต้มส่วนมากจะนิยมขายตอนเช้าและตอนกลางวันมากกว่า (หรือไม่ก็ตอนเกือบเช้า สำหรับลูกค้าที่เที่ยวดึกๆ) ถึงจะเรียกว่าร้านข้าวต้ม แต่ส่วนมากก็จะขายเมนูอื่นด้วยไม่ว่าจะเป็นผัดผักบุ้ง ไข่เจียว หรือยำต่างๆ สิ่งที่สำคัญคือทำเล และการสร้างเมนูที่ทำให้คุณดูแตกต่าง
ก่อนเริ่มขาย
การตั้งราคาเป็นสิ่งที่สำคัญมากซึ่งผมก็พูดไว้หลายครั้งแล้ว แต่หากใครสนใจ ผมแนะนำให้ศึกษาเพิ่มที่บทความนี้ของผมนะครับ 3 วิธีง๊ายง่าย ในการตั้งราคาสินค้า – บริษัทพันล้านเค้าทำกัน
ขึ้นชื่อว่าค้าขาย อีกสิ่งที่สำคัญคือการเลือกสินค้า และ วิธีเข้าหาลูกค้า
การเลือกสินค้าหากคุณคิดว่ายังขายไม่ค่อยเก่ง ให้เริ่มจากสินค้าที่คุณรู้จักดี ถนัดที่จะขาย หรือคิดว่าขายง่าย เพราะมันจะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ดีกว่า แต่สำหรับคนที่ขายเก่งแล้ว ถ้าอยากจะเลือกอะไรที่ตัวเองชอบ หรือกำไรเยอะไว้ก่อนก็ได้เหมือนกันครับ
หากคุณต้องเปิดร้านใหม่ กิจการของคุณจะลดความเสี่ยงได้เยอะถ้าคุณสามารถหาซื้อสินค้าในราคาไม่แพงมาก หรือไม่ต้องสต็อกเยอะมาก (จำนวนขึ้นต่ำในการซื้อน้อย)
ผมแนะนำว่าหากคุณไม่ได้สนกำไรช่วงแรกมาก ให้ลองขายไปก่อนเพื่อทดสอบตลาด และฝึกเทคนิคการขายไปในตัว ในระยะยาวถ้าขายดีค่อยหาวิธีลดค่าใช้จ่ายและสร้างความแตกต่าง (เช่นสำหรับร้านอาหารก็คือสูตรพิเศษ) เพื่อลดโอกาสการโดนคนลอกเลียนแบบ ให้ลองอ่านบทความของผมเรื่องการ ทดสอบตลาดหากกลัวขายไม่ได้ ดูครับ
การปรับตัวเพื่อการอยู่รอดสามารถทำได้ถ้าเราคอยสังเกตลูกค้าอยู่เรื่อยๆ แน่นอนว่าหากคุณมีทุนเยอะ คุณก็จะมีโอกาสในการปรับตัวได้เยอะ ผมแนะนำว่ากำไรประมาณ 20-30% ควรจะแบ่งมาลองอะไรใหม่ๆเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นลองการตลาดแบบใหม่ ลองช่องทางการขายแบบใหม่ หรือลองสินค้าแบบใหม่ก็ตาม
สินค้าที่ผมแนะนำในบทความ ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะขายได้ดีสำหรับทุกคน แต่ถ้าคุณควบคุมค่าใช้จ่ายเก่งและชอบการทดลองอะไรใหม่ๆเรื่อยๆ โอกาสในการประสบการสำเร็จก็จะมีเยอะกว่า
สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าการค้าขายคือการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง หากคุณขายแล้วไปได้ดี กำไรเยอะ สิ่งที่คุณควรจะคิดต่อก็คือจะขยายร้าน เพิ่มสาขายังไงให้คุณภาพสินค้าและการบริการไม่ตกลง หากคุณขายมาซักพักแล้ว ผมแนะนำให้คุณเริ่มขยับจากการเป็น พ่อค้าแม่ค้า และพัฒนาให้ตัวเองกลายเป็น ผู้บริหาร หรือผู้จัดการแทนนะครับ
นอกจากนั้น สำหรับคนที่ชอบบทความบนบล็อกนี้แล้วรู้สึกว่าอยากอ่านเพิ่ม ผมได้ทำ ‘สารบัญ’ ที่เรียบเรียงบทความพื้นฐานในการทำธุรกิจมาให้ทุกคนแล้ว สามารถ โหลดฟรีได้ที่นี่ ครับ